Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
“วันละเรื่องสองเรื่อง”
•
ติดตาม
13 ส.ค. เวลา 14:40 • ธุรกิจ
📦 เมื่อ TikTok Shop คือ ม้าโทรจันในสมรภูมิ E-commerce?
"ตอนนี้ ขายแพลตฟอร์มไหนกันอยู่คะไม่ไหวแล้วอยากหนีตายจาก TikTok  ควรไปช่องทางไหนดี ล่าสุดโดนหัก 45-50%” *
"ตอนนี้ขายแพลตฟอร์มไหนกันอยู่คะ? ไม่ไหวแล้วอยากหนีตายจาก TikTok…” เป็นต้น
~ เสียงตัวอย่างจาก Influencer ดังท่านหนึ่ง (และอีกหลายท่านๆ)
แม้หลายธุรกิจจะเริ่มคุ้นชินกับการอยู่ร่วมกับแพลตฟอร์มอย่าง Shopee และ Lazada แล้ว แต่สิ่งที่ TikTok Shop กำลังทำอยู่อาจไม่ใช่แค่การเข้ามา 'แบ่งตลาด' เหมือนคู่แข่งรายอื่นๆ หากแต่เป็นการ 'เปลี่ยนเกม' อย่างสิ้นเชิง และที่น่ากลัวคือหลายคนอาจยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองกลายเป็น "เชลยศึก" ไปเรียบร้อยแล้ว
TikTok Shop ไม่ได้มาในฐานะแค่แพลตฟอร์มขายของ แต่มาในฐานะ "ม้าโทรจัน" ที่ซ่อนโมเดลธุรกิจแบบ Vertical Integration จากจีน ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำไว้เบื้องหลัง ตั้งแต่การผลิต การจัดส่ง การตลาด ไปจนถึงการบริโภค โดยใช้พลังของคอนเทนต์ ความบันเทิง และระบบแนะนำอัจฉริยะมาล่อให้ SME และผู้บริโภคไทยตกหลุมพรางอย่างเต็มใจ
====
🎯 เกมนี้ไม่ได้ขายของ...แต่ขาย "Demand" ให้จีน
จากเดิม Shopee และ Lazada ยังต้องพึ่งผู้ค้าไทยในการนำเสนอสินค้า แต่ TikTok Shop ใช้ "คลังสินค้า + Creator + Algorithm" สร้างอุปสงค์ปลอมๆ แล้วเสิร์ฟสินค้าจากจีนโดยตรงทันที
* สินค้ายอดนิยมหลายตัวไม่ผ่านมือ SME ไทยเลย
* TikTok เป็นทั้งแพลตฟอร์ม, ร้านค้า, และสื่อโฆษณาในตัว
* กลุ่มผู้ซื้อกลายเป็นผู้ติดตาม ไม่ใช่ลูกค้าที่จงรักภักดี
การควบรวมโครงสร้างเหล่านี้ทำให้ TikTok Shop ควบคุมได้ทั้งฝั่งอุปสงค์ (ผ่าน Creator และ AI) และอุปทาน (ผ่านคลังสินค้าและซัพพลายจากจีน) โดยไม่ต้องพึ่งพาระบบเศรษฐกิจท้องถิ่นเลยแม้แต่น้อย
นี่ไม่ใช่แค่การแข่งขันทางราคาหรือ UX แต่คือสงครามการควบคุม demand ทั้งหมดไว้ในมือ ใครที่ยังคิดว่าแพลตฟอร์มนี้เป็นเพียงช่องทางขายของธรรมดา กำลังหลงกลอยู่โดยไม่รู้ตัว
====
🧠 กลยุทธ์ที่ SME ไทยควรเร่งปรับ?
การอยู่รอดในยุคนี้ ไม่ใช่เรื่องของการขายได้ แต่คือการไม่พึ่งแพลตฟอร์มเพียงช่องทางเดียว และไม่ถูกดูด margin โดยไม่รู้ตัว ต้องรีบวางเกมใหม่เพื่อรักษาอำนาจต่อรองและข้อมูลลูกค้าเอาไว้
1. ดึงลูกค้าให้ออกมาจากแพลตฟอร์ม (Pull Out Strategy)
* ทุกครั้งที่มีลูกค้าใหม่จาก TikTok Shop จงถือว่าเป็น "Trial First Step" เท่านั้น อย่ามองว่าเป็นลูกค้าถาวร
* รีบสร้าง Touchpoint ใน LINE OA, Website, Email, หรือช่องทางอื่นที่เราควบคุมได้
* ยื่นข้อเสนอเฉพาะ (เฉพาะลูกค้าเก่า/สมาชิก) เพื่อสร้างฐานข้อมูลภายนอก TikTok ตั้งแต่วันแรก
* ใช้ระบบ CRM เพื่อจัดกลุ่มลูกค้าและออกแบบ journey เฉพาะสำหรับการย้ายพวกเขาออกจากระบบของ TikTok อย่างเป็นขั้นตอน
2. สร้าง Character แบรนด์ที่มีจุดยืนชัด และเล่าเรื่องให้คนรู้สึกมีส่วนร่วม
* TikTok ทำให้สินค้าทุกอย่างกลายเป็น Commodity ง่ายขึ้นมาก การมีตัวตนทางอารมณ์จะทำให้คนซื้อด้วยเหตุผลอื่นที่ไม่ใช่แค่ "ถูกกว่า"
* ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์เสื้อผ้าคนไทยที่เล่าที่มาผ้า ผูกกับ local pride หรือ community story จะสามารถอยู่รอดได้ แม้ราคาสูงกว่า
* พัฒนาเสียงแบรนด์ (Brand Voice) ที่ผู้บริโภคจำได้ และสร้างความรู้สึกร่วม (Emotional Resonance) ไม่ใช่แค่รับรู้ผ่านโฆษณา
3. เน้นประสบการณ์ที่แพลตฟอร์มลอกไม่ได้
* เช่น บริการหลังการขาย, คอนเทนต์พิเศษ, ความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า, Customization, งานฝีมือที่ใส่ใจเฉพาะคน
* เสริมด้วยกิจกรรม offline หรือ hybrid ที่เชื่อมความรู้สึกของลูกค้ากับแบรนด์ในโลกจริง เช่น ปาร์ตี้ลูกค้า, workshop พิเศษ หรือการทำ Loyalty Card ที่สัมผัสได้จริง เป็นต้น
====
🏢 ตัวอย่าง: ความต่างขององค์กรที่ 'ยอมแพ้แพลตฟอร์ม' vs. 'ใช้แพลตฟอร์มเป็นเครื่องมือ'
องค์กรที่ 'พึ่งแพลตฟอร์ม' จนขาดอำนาจต่อรอง
* หลายรัฐวิสาหกิจและองค์กรใหญ่ในไทย เช่น ร้านหนังสือ, ซูเปอร์มาร์เก็ต, หรือธุรกิจที่ใช้ระบบราชการ/จัดซื้อแบบเดิม กลายเป็นเหยื่อของราคาถูกและความเร็วที่ TikTok Shop ส่งมาทดแทนได้
* หลายองค์กรเหล่านี้แม้จะมีทุนหนา แต่กลับไม่มี data customer base ที่แท้จริง และไม่สามารถ personalize สินค้าหรือบริการได้ ทำให้กลายเป็นเพียงผู้จัดจำหน่ายที่รอวันถูกแทนที่
องค์กรที่สร้าง 'แบรนด์ + Community' แข็งแรง
* เช่น Atlassian และ Canva ในต่างประเทศ ใช้กลยุทธ์ชัดเจนคือให้คอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์ก่อน แล้วจึงสร้างสินค้า/บริการตามมาทีหลัง สร้าง "ผู้ใช้งานที่รักแบรนด์" มากกว่าแค่ลูกค้าขาจร
* ทั้งสองแบรนด์เน้นการสร้าง community ที่คนรู้สึกว่าเป็นเจ้าของ ไม่ใช่แค่ผู้บริโภค เช่น Atlassian มี user forum ที่ผู้ใช้ช่วยกันตอบคำถามเอง ส่วน Canva มี education hub และสร้างโอกาสให้ creator ใช้แพลตฟอร์มสร้างรายได้
SME ไทยที่เริ่ม pivot สำเร็จ
* ธุรกิจ SME บางรายที่เริ่มจากตลาด TikTok แต่ค่อยๆ ย้ายฐานลูกค้าออกไปยังเว็บตัวเอง และกลุ่มสมาชิก Facebook/LINE เพื่อหลีกเลี่ยงค่าคอมและการแข่งขันราคาแบบสูญพันธุ์
บางเจ้าลงทุนในการสร้าง short-form content ที่มีความรู้จริง (how-to, review) มากกว่าการเล่นกับกระแส trend สั้นๆ และใช้ data จาก TikTok นั้นมาทำ A/B Testing ต่อใน platform ของตนเอง
====
✋ อย่าเอาชีวิตรอดในเกมของคนอื่น โดยไม่มีทางหนี
* TikTok Shop ไม่ได้แค่ disrupt E-Commerce ไทย แต่กำลัง disrupt พฤติกรรมผู้บริโภคให้คุ้นชินกับสินค้าไม่มีแบรนด์, ราคาถูก, ไม่มีความภักดี และไม่มีการจดจำ
* SME ที่ยังยึดติดแค่ยอดขายจาก TikTok โดยไม่เร่งสร้างฐานลูกค้าของตัวเอง กำลังเดินเข้าสู่กับดักแบบเดียวกับที่ร้านหนังสือ หรือแบรนด์ไทยในอดีตเคยเจอ
* วันหนึ่งที่ TikTok ปรับ algorithm หรือดันสินค้าจากจีนเต็มพิกัด คุณอาจหายไปจากแพลตฟอร์ม โดยไม่มีใครรู้สึกว่าคุณเคยอยู่ตรงนั้น
“เพราะในสายตาแพลตฟอร์ม...คุณไม่ใช่เจ้าของเกม คุณคือผู้เล่นที่ถูกแทนได้ตลอดเวลา
แพ้แพลตฟอร์มได้ แต่อย่าแพ้ลูกค้า”
#วันละเรื่องสองเรื่อง
#แม่ค้าออนไลน์สู้ๆ #วิกฤตTikTokShop #SMEไทย
#สงครามE-commerce #PlatformStrategy #กลยุทธ์ธุรกิจ
#DiversifyYourChannel #BuildYourBrand #CustomerLoyalty
ecommerce
tiktok
ธุรกิจ
2 บันทึก
3
2
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย