14 ส.ค. เวลา 06:37 • สุขภาพ

5 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Desloratadine ที่คนไข้มักถาม

Desloratadine ยาแก้แพ้รุ่นใหม่ ไม่ง่วง ใช้วันละครั้งก็เอาอยู่
Desloratadine เป็นยาแก้แพ้กลุ่มที่เรียกว่า “แอนตี้ฮิสตามีนรุ่นที่สอง” ซึ่งออกฤทธิ์ได้นาน กินแค่วันละครั้งก็เพียงพอ มักใช้เพื่อลดอาการของโรคภูมิแพ้ทางจมูก เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล คันจมูก หรืออาการลมพิษเรื้อรังที่เกิดขึ้นเอง (โดยไม่ทราบสาเหตุ)
ยานี้เป็นรุ่นที่พัฒนามาจากยา loratadine ซึ่งเป็นรุ่นก่อนหน้า โดยมีข้อดีคือมีโอกาสทำให้ง่วงนอนน้อยกว่าเมื่อเทียบกับยาแก้แพ้รุ่นเก่าอย่างเช่น chlorpheniramine ที่หลายคนคุ้นเคย
❌ ความเข้าใจผิดที่ 1
“กินยา Desloratadine แล้วต้องง่วงแน่ ๆ เหมือนยาแก้แพ้รุ่นเก่า”
✅ ข้อเท็จจริง
Desloratadine เป็นยาแก้แพ้รุ่นใหม่ (รุ่นที่สอง) ที่ออกแบบมาให้ไม่กดการทำงานของสมองเหมือนยาแก้แพ้รุ่นเก่า เช่น diphenhydramine หรือ chlorpheniramine
จากการศึกษาที่ให้คนกิน desloratadine ขนาดมาตรฐาน 5 มิลลิกรัม แล้วไปขับรถหรือทำแบบทดสอบความว่องไวทางจิต พบว่าไม่มีผลต่อสมาธิหรือความตื่นตัว ต่างจากยาแก้แพ้รุ่นเก่าที่ทำให้ขับรถได้แย่ลงอย่างชัดเจน
ข้อมูลจากฉลากยายังระบุว่า desloratadine ผ่านเข้าสมองได้น้อยมาก และอาการง่วงหลังรับประทานในขนาด 5 มิลลิกรัมพบได้น้อย พอ ๆ กับคนที่ไม่ได้กินยาเลย (กลุ่มที่ได้รับยาหลอก)
- อย่างไรก็ตาม ถ้าใช้ยาเกินขนาด เช่น 10–20 มิลลิกรัม อาจเพิ่มความเสี่ยงง่วงซึมได้
- ไม่ควรเพิ่มขนาดยาด้วยตัวเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
❌ ความเข้าใจผิดที่ 2
“กินยาแค่ตอนมีอาการ ก็ได้ผลพอ ๆ กัน”
✅ ข้อเท็จจริง
สำหรับผู้ที่เป็น ภูมิแพ้จมูก (allergic rhinitis) ระดับปานกลางถึงรุนแรง การกินยาแก้แพ้เฉพาะเวลามีอาการอาจไม่เพียงพอ เพราะแนวทางการรักษาที่เป็นมาตรฐานแนะนำว่าควรใช้ยาพ่นจมูกสเตียรอยด์ (เช่น INCS) อย่างต่อเนื่องทุกวัน เพื่อควบคุมอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอาการคัดจมูก ซึ่งยาแก้แพ้กินอย่างเดียวอาจไม่ช่วยเท่าไหร่
หากมีอาการแบบเรื้อรัง ควรมียาประจำวันที่ใช้สม่ำเสมอ และใช้ desloratadine เสริมเฉพาะช่วงที่มีอาการมากขึ้น ตามคำแนะนำของแพทย์
ในกรณีของ ลมพิษเรื้อรัง (chronic spontaneous urticaria หรือ CSU) แนวทางระดับสากลก็แนะนำให้ใช้ยาแก้แพ้รุ่นใหม่แบบกินทุกวันเป็นพื้นฐานเช่นกัน และถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น แพทย์อาจเพิ่มขนาดยาขึ้นได้ แต่ห้ามปรับยาเองเด็ดขาด ต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมินและดูแล
- การกินยาสม่ำเสมอและถูกวิธี มีผลต่อการควบคุมโรคมากกว่าการกินเฉพาะเมื่อมีอาการ
❌ ความเข้าใจผิดที่ 3
“จะกินตอนไหนก็ได้ ยาก็ออกฤทธิ์ทันทีเหมือนกัน”
✅ ข้อเท็จจริง
แม้ว่า Desloratadine จะเป็นยาออกฤทธิ์นาน กินแค่วันละครั้งก็เพียงพอ แต่ไม่ได้หมายความว่า “จะกินตอนไหนก็ได้” หรือ “ยาออกฤทธิ์ทันที”
หลังจากรับประทาน ยาจะเริ่มออกฤทธิ์ภายในประมาณ 1 ชั่วโมง และจะออกฤทธิ์สูงสุดในช่วงประมาณ 3 ชั่วโมงหลังจากกิน โดยตัวยาจะอยู่ในร่างกายได้นานกว่า 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเหตุผลที่สามารถกินแค่วันละครั้งก็เพียงพอ
- แต่ถ้าต้องการให้ระดับยาในเลือดคงที่ และควบคุมอาการได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะในคนที่มีอาการทุกวัน ควรกินยาเวลาเดิมในแต่ละวันเพื่อให้การออกฤทธิ์ของยาสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ Desloratadine อาจไม่ออกฤทธิ์เร็วทันใจเหมือนยาพ่นจมูกบางชนิด ดังนั้นไม่ควรรอจนมีอาการรุนแรงแล้วค่อยกิน เพราะอาจไม่ช่วยบรรเทาได้ทันที
❌ ความเข้าใจผิดที่ 4
“ตั้งครรภ์หรือให้นม ก็กินยา Desloratadine ได้เลย ไม่ต้องปรึกษาแพทย์”
✅ ข้อเท็จจริง
แม้ยา Desloratadine จะจัดว่าเป็นยาแก้แพ้ที่ค่อนข้างปลอดภัย แต่ในหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ยังควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ทุกครั้ง
ฉลากยาระบุชัดเจนว่า ยานี้สามารถผ่านเข้าสู่น้ำนมแม่ได้ แม้จะเป็นปริมาณเพียงเล็กน้อยก็ตาม และยังไม่มีข้อมูลในคนที่มากเพียงพอ จึงจำเป็นต้อง ชั่งน้ำหนักระหว่างประโยชน์กับความเสี่ยง เป็นรายกรณี
ฐานข้อมูลด้านการใช้ยาในหญิงให้นม เช่น LactMed และ Specialist Pharmacy Service รายงานว่า Desloratadine (รวมถึง loratadine ซึ่งเป็นตัวยาต้นแบบ) เข้าน้ำนมได้น้อยมาก แต่ก็ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะถ้าใช้ร่วมกับยาลดน้ำมูกบางชนิด เช่น pseudoephedrine ซึ่งอาจไป ลดปริมาณน้ำนม
- ดังนั้น หากคุณกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้เพื่อความปลอดภัยของทั้งแม่และลูก
❌ ความเข้าใจผิดที่ 5
“หยุดยา Desloratadine แค่ 1 วันก่อนตรวจภูมิแพ้ ก็พอแล้ว”
✅ ข้อเท็จจริง
ก่อนเข้ารับการตรวจ skin prick test (การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง) ผู้ป่วยควร หยุดยาแก้แพ้กลุ่มที่ 2 เช่น Desloratadine อย่างน้อย 7 วัน ไม่ใช่แค่ 1 วัน
เหตุผลคือ ยาในกลุ่มนี้จะไป กดปฏิกิริยาการแพ้ที่ผิวหนัง ทำให้ผลการทดสอบคลาดเคลื่อนได้ เช่น อาจตรวจไม่เจอสารก่อภูมิแพ้ที่แพ้อยู่จริง (เกิดผล “ลบปลอม”)
โดยเฉพาะ Desloratadine ซึ่งเป็นยาที่มี ฤทธิ์ยาวนานในร่างกาย (half-life นาน) จึงจำเป็นต้องเว้นการใช้ตามระยะเวลาที่แนะนำ เพื่อให้ผลการตรวจแม่นยำ
- ดังนั้น หากมีแผนจะตรวจภูมิแพ้ด้วยวิธี skin prick test ควร แจ้งแพทย์ล่วงหน้า และหยุดยาตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
✅ เคล็ดลับการใช้ยา Desloratadine ให้ปลอดภัยและได้ผลดี
- ควรกินยาเวลาเดิมทุกวัน วันละครั้งก็เพียงพอ เพราะยาออกฤทธิ์ยาวนานตลอดวัน
- ห้ามเพิ่มขนาดยาเอง แม้โดยทั่วไปยานี้ไม่ทำให้ง่วง แต่หากกินในขนาดสูงกว่าที่แนะนำ อาจทำให้ง่วงได้มากขึ้น
- ถ้าอาการภูมิแพ้ยังไม่ดีขึ้นหลังใช้ยา ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อปรับแผนการรักษาอาจต้องเพิ่มยาพ่นจมูกหรือใช้แนวทางอื่นตามดุลยพินิจแพทย์
⚠ ระวังการใช้ร่วมกับยาอื่น
Desloratadine โดยทั่วไปถือว่าปลอดภัย แต่หากใช้ร่วมกับยาบางชนิด เช่น
ketoconazole, erythromycin, fluoxetine, หรือ cimetidine
ควร แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรล่วงหน้า เพราะอาจส่งผลต่อระดับยาในร่างกาย แม้จากการศึกษาจะไม่พบผลเสียชัดเจนต่อคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (QTc) ก็ตาม
🍷 การดื่มแอลกอฮอล์
งานวิจัยพบว่า Desloratadine ไม่ได้เพิ่มฤทธิ์กดประสาทของแอลกอฮอล์ในขนาดมาตรฐาน แต่ในชีวิตจริง แต่ละคนอาจไวต่อยาไม่เท่ากัน
- เพื่อความปลอดภัย ควร หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อเริ่มยาหรือขณะปรับขนาดยาใหม่ และควรงดขับขี่ยานพาหนะจนมั่นใจว่าไม่ง่วง
เอกสารอ้างอิง
1. U.S. Food and Drug Administration. CLARINEX® (desloratadine) Tablets, Syrup, RediTabsPrescribing Information. Rev 2005/2006. Kenilworth (NJ): Schering Corporation.
2. U.S. Food and Drug Administration. CLARINEX® (desloratadine) TabletsPrescribing Information. 2002 Feb 8.
3. Vuurman EFPM, Rikken GH, Muntjewerff ND, de Halleux F, Ramaekers JG. Effects of desloratadine, diphenhydramine, and placebo on driving performance and psychomotor performance measurements. Eur J Clin Pharmacol. 2004;60(5):307–13.
4. Scharf M, Berkowitz D. Effects of desloratadine and alcohol coadministration on psychomotor performance. Curr Med Res Opin. 2007;23(2):313–21.
5. Heinzerling L, Mari A, Bergmann K-C, Bresciani M, Burbach GJ, Darsow U, et al. The skin prick testEuropean standards. Clin Transl Allergy. 2013;3:3.
6. Zuberbier T, Abdul Latiff AH, Abuzakouk M, Aquilina S, Asero R, Baker D, et al. The international EAACI/GA²LEN/EuroGuiDerm/APAAACI guideline for the definition, classification, diagnosis, and management of urticaria. Allergy. 2022;77(3):734–66.
7. Ellis AK, Murrieta-Aguttes M, Lima WT, Salapatek AM, Lee SE, Rabe KF, et al. Allergic rhinitis. Allergy Asthma Clin Immunol. 2024. Online ahead of print.
8. U.S. Food and Drug Administration; Organon. Patient Information: CLARINEX®. [Internet].
9. DailyMed. DesloratadineLabeling (Section 8.2 Lactation). Desloratadine passes into breast milk. [Internet].
10. National Library of Medicine. DesloratadineSummary of Use during Lactation. Drugs and Lactation Database (LactMed). 2021.
โฆษณา