14 ส.ค. เวลา 08:18 • ความคิดเห็น
ความเขื่อ นั้นมันเป็นอารมณ์ที่ปรุงแต่งจิตอยู่ เป็นมายา มีลีลา อารมณ์ที่อุปโลกน์ ความนึกคิด ว่าเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ .. แล้วเรื่องหนึ่ง วันหนึ่ง จิตที่อาศัยกายนี้อยู่ เมื่อไม่มีกาย เค้าเรียกว่า ผี .. เราก็คล้ายผี ..ที่อาศัยอยู่ในกายที่ยังมีชีวิตอยู่ .. เป็นผีที่ยังไม่ออกจากกาย มันก็ยังเห็น เห็นที่มีตา เห็นรูปนั้น รูปนี้งาม รูปนั้งแก่ไปแล้ว น่ารังเกียจ ..เนื้อหนังเหี่ยวย่น .. หมดลมเมื่อไหร่ ก็เน่าเหม็นนี้ต้องเอาไปเผาทิ้งไม่ให้อุดจาดตา
คราวนี้ ขณะที่เราเป็นผีอาศัยกายนี้อยู่ เราก็เรียนรู้ได้ ว่า..ที่เค้าเรียกว่า ผีนั้นมันเป็นอย่างไร .
การที่ได้ไปงานศพ .คนที่เพิ่งตายไป นั้น..ก็มีโอกาส ได้เรียนรู้จัก ผี ที่กำลัง แปรสภาพจากกายมนุษย์เป็น กายใหม่ บ้างก็เป็นเปรต บ้างก็กบิ่นเหม็น เหมือนหนูตายซาก บ้างก็ตัวดำๆ เรื่องราวพวกนี้ เราก็อาศัยคำว่า สร้างบุญกุศล ให้ตัวเรา กายเรามีบุญกุศล ..พอกายมีบุญ..หมั่นทำบุญกุศล เดี๋ยว ผีเค้าก็มาขอเอง เวลาเค้ามาขอ ..ถ้าผีดีหน่อย เค้าก็มานั่งข้างหน้า พนมมือ ให้เห็น พอบอกให้เค้าอนุโมทนา เค้าก็จากไป
เรื่องราวของผี ทุกคน ก็มีโอกาสเป็นผีกันทั้งนั้น เมื่อเคลื่อนที่ออกจากกายนี้ เป็นผีได้จริง..ไปได้ เมื่อไม่มีกายให้อาศัย ..เมื่อไม่มีกายมนุษย์ให้อาศัยแล้ว ก็ต้องหาที่อาศัยใหม่ อาศัยอะไรจึงได้กายใหม่ อาศัยกรรมที่เคยทำมาสะสมมา ..ไปประกอบสังขารกรรมให้ สังขารสัตว์ก็มีรูปที่ตาเห็น หมูหมา กุ้งหอย ปูปลา ที่มองไม่เห็น ก็นรก เปรตอสุรกาย มนุษย์ต่างดาว สี่ชมพูทวีป สวรรค์ชั้นฟ้า ..เลือกรูปไหน ตอนเป็นมนุษย์ ก็ใช้นิสัยของรูปนั้นๆ พอจิตออกจากร่าง ก็ไปสถิตย์ ที่เค้าว่า ไปที่ขอบๆ แล้วกัน
โฆษณา