16 ส.ค. เวลา 10:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

☄️ ปริศนาดาวหาง 3I/ATLAS ผู้มาเยือนที่ดู "ธรรมดา" แต่กลับมีพฤติกรรม "ประหลาด" อย่างน่าพิศวง

หลังจากที่เรารู้ว่า "ดาวหางนอกสุริยะ" 3I/ATLAS อาจเป็นดาวหางที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยพบมา... ตอนนี้นักดาราศาสตร์ทั่วโลกต่างกำลังแข่งกับเวลาเพื่อศึกษา "แคปซูลเวลา" ชิ้นนี้ให้ได้มากที่สุดก่อนที่มันจะจากไปตลอดกาล...
และผลการสังเกตการณ์ล่าสุดก็ออกมาแล้วครับ แต่แทนที่จะให้คำตอบที่ชัดเจน มันกลับทำให้ปริศนานั้นซับซ้อนและน่าทึ่งยิ่งขึ้นไปอีก
🕒 แข่งกับเวลา
กล้องโทรทรรศน์ที่จับจ้องไปยังดาวหาง 3I/ATLAS ได้พบว่ามันดูคล้ายกับดาวหางในแถบชั้นนอกของระบบสุริยะของเราอย่างมาก อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติที่น่าพิศวง เช่น การมีน้ำปริมาณมากอย่างน่าประหลาดใจพวยพุ่งออกมาทั้งที่ยังอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ อาจให้เบาะแสเกี่ยวกับระบบดาวโบราณที่มันจากมา
วัตถุจากระบบดาวอื่นที่เดินทางผ่านระบบของเรานั้นหายากอย่างยิ่ง ดาวหาง 3I/ATLAS ซึ่งถูกค้นพบในเดือนกรกฎาคม เป็นเพียงผู้มาเยือนจากนอกระบบสุริยะดวงที่สามที่รู้จัก ต่อจากวัตถุ 'โอมูอามูอา' ในปี 2017 และดาวหางโบริซอฟ ในปี 2019 เรามีเวลาเพียงไม่กี่เดือนในการสังเกตการณ์ผู้มาใหม่นี้ ซึ่งกำลังพุ่งเข้าหาดวงอาทิตย์ด้วยความเร็วประมาณ 60 กิโลเมตรต่อวินาที ก่อนที่มันจะโค้งรอบดวงอาทิตย์และถูกเหวี่ยงออกจากระบบสุริยะไปตลอดกาล
จนถึงตอนนี้ นักวิทยาศาสตร์ได้ใช้ความเร็วของมันเพื่ออนุมานว่ามันอาจมาจากระบบดาวที่เก่าแก่กว่าระบบของเราหลายพันล้านปี การสังเกตการณ์ในช่วงแรกยังชี้ให้เห็นว่ามันมีขนาดกว้างประมาณ 20 กิโลเมตร แต่ก็ยังมีข้อมูลเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับกลุ่มก้อนน้ำหรือก๊าซขนาดมหึมา หรือทั้งสองอย่าง ที่มันทิ้งไว้เบื้องหลัง ซึ่งเรียกว่าหางของมัน และสามารถบอกเราได้เกี่ยวกับองค์ประกอบของตัวดาวหาง
😶 เหมือนจะ "ธรรมดา"?
โทนี ซานตานา-รอส (Toni Santana-Ros) จาก University of Barcelona ในสเปน และทีมงานของเขา ได้ใช้กล้องโทรทรรศน์ภาคพื้นดินหลายแห่งเพื่อสังเกตการณ์ดาวหางและหางของมัน และพบว่ามันมีปริมาณฝุ่นในระดับที่ค่อนข้างต่ำถึงปานกลาง ปริมาณฝุ่นยังดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเมื่อมันเข้าใกล้ดวงอาทิตย์และร้อนขึ้น ซึ่งคล้ายกับพฤติกรรมของดาวหางจากระบบสุริยะชั้นนอก "มันเป็นวัตถุธรรมดา ไม่มีอะไรที่แปลกประหลาดเป็นพิเศษเกี่ยวกับมัน" ซานตานา-รอส กล่าว
นักดาราศาสตร์ยังได้ใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลเพื่อสังเกตการณ์ดาวหาง และพบว่ามันอาจมีขนาด เล็กกว่าที่เราคิด โดยอาจมีความกว้างเพียง 320 เมตร ถึง 5.6 กิโลเมตร
🌀 แต่กลับ "ประหลาด" สุดๆ
ดาวหางมักจะมีน้ำแข็ง ซึ่งจะระเหิดเมื่อเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ ทำให้เกิดไอน้ำในหาง โดยการใช้ดาวเทียม Neil Gehrels Swift Observatory, เซซี ซิง (Zexi Xing) จาก Auburn University, แอละแบมา, และทีมงานของเธอ ได้ตรวจพบ "น้ำ" ในหางของดาวหาง ณ ระยะทางที่ ห่างจากดวงอาทิตย์มากกว่าปกติมาก
เพื่อให้เกิดปริมาณน้ำที่ตรวจพบได้ พื้นผิวประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ของดาวหาง จะต้องกำลังปล่อยมันออกมา ซึ่ง มากกว่า ดาวหางทั่วไปในระบบสุริยะ
การปล่อยน้ำปริมาณมากขนาดนี้ทั้งที่ยังอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ อาจสอดคล้องกับแนวคิดที่ว่า 3I/ATLAS มาจากระบบดาวที่เก่าแก่กว่าดวงอาทิตย์ของเรามาก ซีเรียล โอปิตอม (Cyrielle Opitom) จาก University of Edinburgh สหราชอาณาจักร กล่าว นี่เป็นเพราะระบบดาวที่เก่าแก่กว่ามีแนวโน้มที่จะมีน้ำมากกว่าเมื่อเทียบกับสสารอื่นๆ "อาจเป็นไปได้ว่ามันมีน้ำมากกว่าโมเลกุลอื่นเพียงเพราะมันก่อตัวขึ้นก่อนหน้านี้ ซึ่งนี้อาจเป็นข้อบ่งชี้ถึงสิ่งนั้น แต่ฉันคิดว่ายังเร็วเกินไปที่จะบอกได้"
📜 ย้อนดูข้อมูลเก่า
นักดาราศาสตร์ยังได้ขุดคุ้ยข้อมูลเก่าเพื่อดูว่ากล้องโทรทรรศน์อาจจะเคยถ่ายภาพดาวหางนี้ไว้โดยบังเอิญหรือไม่ อดินา ไฟน์สไตน์ (Adina Feinstein) จาก Michigan State University และทีมงานของเธอ พบว่ากล้องโทรทรรศน์อวกาศ Transiting Exoplanet Survey Satellite (TESS) ซึ่งกำลังมองหาดาวเคราะห์รอบดาวดวงอื่น ได้จับภาพดาวหางนี้ไว้โดยบังเอิญระหว่างวันที่ 7 พฤษภาคม ถึง 3 มิถุนายน "มันแค่บังเอิญว่า ในช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบนั้น TESS [กำลัง] จ้องมองไปยังตำแหน่งที่ 3I/ATLAS อยู่พอดี" ไฟน์สไตน์กล่าว
พวกเขาพบว่ามันส่องสว่างอย่างน่าประหลาดใจ ซึ่งบ่งชี้ว่ามันกำลังปล่อยน้ำหรือก๊าซออกมาจากพื้นผิว ณ ระยะทางที่ห่างไกลจากดวงอาทิตย์ "มันยังไม่ได้เข้ามาในระบบสุริยะของเราตามที่คาดว่าน้ำจะเริ่มทำปฏิกิริยาเลย" ไฟน์สไตน์กล่าว
ในเขตที่ห่างไกลนี้ มีความเป็นไปได้ค่อนข้างน้อยที่สิ่งนั้นจะเป็นน้ำ และน่าจะเป็นก๊าซเช่น คาร์บอนมอนอกไซด์ มากกว่า โอปิตอมกล่าว "นั่นเกิดขึ้นกับดาวหางจากระบบสุริยะเป็นปกติ พวกมันสามารถว่องไวได้ในระยะที่ไกลมากเพราะสารระเหยเหล่านี้"
แต่ความจริงที่ว่ามันว่องไวทั้งที่อยู่ไกลจากดวงอาทิตย์มาก อาจชี้ให้เห็นว่ามันเป็นดาวหางที่ ไม่เคยสัมผัสกับแสงดาวมากนักในชีวิตของมัน ซึ่งสอดคล้องกับต้นกำเนิดในแถบชั้นนอกของระบบดาวของมันเอง แมทธิว เกนจ์ (Matthew Genge) จาก Imperial College London กล่าว
"ทั้งหมดนี้บ่งชี้ในท้ายที่สุดคือ นี่คือดาวหางที่ถูกให้ออกมาจากบริเวณรอบนอกของระบบสุริยะอื่น" เกนจ์กล่าว มันจะยากที่จะรู้แน่ชัดว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้มันออกมา แต่ อาจเป็นแรงโน้มถ่วงของดาวฤกษ์ที่ผ่านไปมาที่ส่งมันมาทางเรา เขากล่าว
🕵️‍♂️ เบาะแสเพิ่มเติมที่กำลังจะมาถึง
เราจะได้รับการสังเกตการณ์ที่ละเอียดมากยิ่งขึ้นของ 3I/ATLAS ในไม่ช้า โอปิตอมกล่าว เนื่องจาก กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เว็บบ์ (JWST) เพิ่งจะเสร็จสิ้นการสังเกตการณ์ และจะถูกนำมาวิเคราะห์ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ดาวหางจะมาถึงจุดที่ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุดในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มันจะได้รับแสงอาทิตย์ที่รุนแรงที่สุด ทำให้นักดาราศาสตร์สามารถวัดก๊าซที่มันพ่นออกมาได้ สิ่งนี้อาจบอกเราได้อย่างแน่ชัดว่ามีโมเลกุลอะไรอยู่ในหางที่ว่องไวของมัน และนั้นก็อยู่ในตัวดาวหางเอง รวมถึงอัตราส่วนของโมเลกุลต่างๆ ซึ่งอาจบอกใบ้ถึงวิธีที่ 3I/ATLAS ก่อตัวขึ้นมาแต่ดั้งเดิม โอปิตอมกล่าว
🏡 แล้วเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเราอย่างไร?
การที่นักดาราศาสตร์ทั่วโลกสามารถระดมกล้องโทรทรรศน์ทั้งบนพื้นโลกและในอวกาศเพื่อศึกษา "แขกผู้มาเยือน" ชั่วคราวนี้ได้อย่างรวดเร็ว คือตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ระดับโลก สำหรับประเทศไทย การที่เรามีบุคลากรและเครือข่ายอย่าง สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT) ก็ช่วยให้เราสามารถติดตามและเป็นส่วนหนึ่งของการสนทนาทางวิทยาศาสตร์ที่น่าตื่นเต้นเช่นนี้ได้
🎯 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ ดูเหมือนธรรมดา แต่กลับประหลาด: การสังเกตการณ์ล่าสุดชี้ว่าดาวหางต่างดาว 3I/ATLAS มีลักษณะทางกายภาพ (ฝุ่น, ขนาด) คล้ายกับดาวหางในระบบสุริยะของเรา
✅ ปริศนาการระเหิดของน้ำ: แต่ที่น่าพิศวงคือ มันกลับปล่อย "น้ำ" ออกมาในปริมาณที่สูงผิดปกติทั้งที่ยังอยู่ห่างไกลจากดวงอาทิตย์
✅ คำใบ้ถึงต้นกำเนิดโบราณ?: พฤติกรรมนี้อาจสนับสนุนทฤษฎีที่ว่ามันมาจากระบบดาวที่ "เก่าแก่กว่า" ดวงอาทิตย์ของเรามาก ซึ่งระบบดาวดังกล่าวคาดว่าจะมีน้ำในปริมาณที่สูงกว่า
✅ ว่องไวตั้งแต่ไกล: ข้อมูลเก่ายังเผยว่ามัน "สว่าง" หรือเริ่มปลดปล่อยก๊าซมาตั้งแต่ตอนที่ยังอยู่ไกลจากดวงอาทิตย์มาก ซึ่งอาจหมายความว่ามันเป็นดาวหางที่ "บริสุทธิ์" และไม่เคยเข้าใกล้ดาวฤกษ์ดวงไหนมาก่อน
✅ บทสรุปในเดือนตุลาคม: ปริศนาทั้งหมดนี้อาจถูกไขกระจ่างขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ เมื่อดาวหางเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด และกล้อง JWST จะทำการวิเคราะห์องค์ประกอบของมันอย่างละเอียด
💬 แล้วคุณล่ะครับ...
ปริศนาของดาวหาง 3I/ATLAS ที่ดู "ธรรมดา" แต่กลับมีพฤติกรรม "ประหลาด" นี้ ทำให้คุณตื่นเต้นกับการค้นพบทางดาราศาสตร์มากแค่ไหน? แล้วคุณคิดว่าในเดือนตุลาคมนี้ เราจะได้เจอกับคำตอบหรือปริศนาที่ใหญ่กว่าเดิม?
มาแบ่งปันจินตนาการกันในคอมเมนต์... และถ้าเรื่องนี้น่าติดตาม 🔭 อย่าลืมกดบันทึกไว้ หรือแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ร่วมไขปริศนาผู้มาเยือนจากต่างดาวดวงนี้ไปด้วยกันนะครับ!
🔎 แหล่งอ้างอิง
1. Santana-Ros, T., et al. (2025). Temporal Evolution of the Third Interstellar Comet 3I/ATLAS: Spin, Color, Spectra and Dust Activity. arXiv. http://doi.org/p2g3
2. Jewitt, D., et al. (2025). Hubble Space Telescope Observations of the Interstellar Interloper 3I/ATLAS. arXiv. http://doi.org/g9wgqv
3. Xing, Z., et al. (2025). Water Detection in the Interstellar Object 3I/ATLAS. arXiv. http://doi.org/p2g4
4. Feinstein, A. D., et al. (2025). Precovery Observations of 3I/ATLAS from TESS Suggests Possible Distant Activity. arXiv. http://doi.org/p2g5
💖 มาช่วยกันขับเคลื่อน "Witly" กันครับ!
การไขปริศนาวัตถุจากต่างดาว คือการปะติดปะต่อ "เบาะแส" ที่กระจัดกระจายจากกล้องโทรทรรศน์ทั่วโลก เพื่อสร้าง "ภาพสเก็ตช์" ของผู้มาเยือนที่เราไม่เคยรู้จัก...
เป้าหมายของ Witly ก็เช่นกัน คือการทำหน้าที่เป็น "นักสืบทางวิทยาศาสตร์" ที่จะรวบรวมเบาะแสจากงานวิจัยที่ซับซ้อน แล้วนำมาเรียบเรียงเป็นเรื่องราวที่ทุกคนเข้าใจ
ทุกการสนับสนุนผ่าน "ค่ากาแฟ" ของคุณ คือ "แว่นขยาย" ที่ช่วยให้เรามองเห็นเบาะแสที่สำคัญเหล่านี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา