Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
J.MI9
•
ติดตาม
15 ส.ค. เวลา 08:34 • การเมือง
สถานการณ์การเมืองโลกในรูปแบบผสมผสานวรรณกรรมร่วมสมัย(ภาษีทรัมป์)
หากพูดถึง “มหาอำนาจของโลก” ในปัจจุบัน แน่นอนว่าสหรัฐอเมริกายังคงเป็นเบอร์หนึ่งในสายตาของใครหลายคน ทว่าในอีกด้านหนึ่ง โลกกำลังเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่อาจพลิกชะตาอำนาจโลกในอนาคตอันใกล้ — เมื่อจีนกำลังก้าวขึ้นมาอย่างมั่นคง และอินเดียกำลังขยับตัวอย่างเงียบเชียบ
ในช่วงเวลาที่สหรัฐฯ อยู่ในช่วง “เลยจุดสูงสุด” ทั้งในด้านเศรษฐกิจและบทบาทบนเวทีโลก เรากลับเห็นการเคลื่อนไหวที่ดุดันจากผู้นำอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ที่แสดงออกถึงความกล้าหาญและเด็ดขาดในการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศอย่างไม่ไว้หน้าใคร สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงบุคลิกแบบ “โจโฉ” แห่งยุคสามก๊กอย่างชัดเจน — โจโฉผู้กล่าวว่า
“ข้ายอมทรยศคนทั้งโลก แต่ไม่ยอมให้โลกทรยศข้า”
ในวันที่ ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีศุลกากร ต่อแทบทุกประเทศที่ขาดดุลการค้ากับสหรัฐฯ — ไม่ว่าจะเป็นจีน, แคนาดา หรือแม้แต่กลุ่มประเทศอาเซียน — เขาไม่ได้ทำเพียงเพื่อปรับสมดุลทางการค้าเท่านั้น แต่ยังใช้เป็นกลยุทธ์เพื่อ “หยั่งเชิง” ปฏิกิริยาของขั้วอำนาจต่างๆ
เมื่อหลายประเทศตอบโต้ด้วยมาตรการภาษีของตนเอง ทรัมป์กลับแสดงอาการไม่พอใจอย่างชัดเจน สิ่งเหล่านี้ไม่ต่างจากท่าทีของโจโฉในสามก๊ก ที่พร้อมรุกก่อน แต่ไม่ยอมให้ใครย้อนศรกลับมาโจมตีตนเอง — ดุดัน โผงผางแต่รอบคอบ กล้าได้กล้าเสียอย่างมีกลยุทธ์
แต่ทว่าประวัติศาสตร์ในยุคสามก๊กสอนเราว่า แม้ สกุลโจ จะเกรียงไกรเพียงใด ท้ายที่สุดก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับความเพียรพยายามของตระกูลที่แนบเนียนอย่าง สกุลซือหม่า ซึ่งเริ่มต้นจาก ซือหม่าอี้ คนที่เงียบขรึมแต่คมกริบทางกลยุทธ์ สืบทอดต่อโดย ซือหม่าเจา และประสบความสำเร็จโดย ซือหม่าเอียน — ผู้ล้มล้างสกุลโจและสถาปนาราชวงศ์จิ้นในนาม จักรพรรดิอู่แห่งจิ้
ในบริบทปัจจุบัน สีจิ้นผิง อาจเป็นภาพสะท้อนของซือหม่าอี้ในยุคใหม่ — ผู้นำที่ไม่เร่งรีบแต่แน่วแน่ ใช้เวลาและจังหวะที่เหมาะสมในการรวมศูนย์อำนาจ ค่อยๆ ขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจ, การทหาร และความร่วมมือระดับโลก ผ่านโครงการ Belt and Road, การเจาะตลาดประเทศกำลังพัฒนา และการแทรกซึมในระบบเทคโนโลยีระดับโลก
สีจิ้นผิงอาจไม่ใช่แค่ซือหม่าอี้ — เขาอาจเป็นทั้งซือหม่าอี้, ซือหม่าเจา และซือหม่าเอียนในคนเดียวกัน ผู้ที่ไม่เพียงวางแผน แต่ยังดำเนินกลยุทธ์ต่อเนื่อง และจะเป็นผู้ชูธงแห่งจักรวรรดิใหม่ด้วยตนเอง
แต่ในขณะที่สองเสือใหญ่กำลังฟาดฟันกัน ใครจะรู้ว่าในเงามืดของเวทีโลกนั้น อินเดีย กำลังรอวัน “ง้างกรงเล็บ”
⸻
อินเดีย: เสือซ่อนเล็บที่รอวันล่า
ขณะจีนและสหรัฐฯ ตะลุมบอนกันอย่างดุเดือด โลกอาจละสายตาไปจาก “ผู้เล่นเงียบ” อย่าง อินเดีย — ประเทศที่ผมมองว่า เปรียบเสมือน “ปลาคาร์ฟที่กำลังจะกลายร่างเป็นมังกร”
อินเดียในวันนี้มีศักยภาพพื้นฐานที่แข็งแกร่ง
• เป็น ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก คิดเป็น หนึ่งในแปดของประชากรโลก
• จีดีพีของอินเดียกำลังไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ และใกล้แซง ญี่ปุ่น
• มี แรงงานรุ่นใหม่มหาศาล และระบบการศึกษาที่สร้างผู้นำระดับโลกจำนวนมาก เช่น
• สุนดาร์ พิชัย (Sundar Pichai) - CEO ของ Alphabet (Google)
• สัตยา นาเดลลา (Satya Nadella) - CEO ของ Microsoft
อินเดียมีจุดแข็งในด้าน เทคโนโลยีและวิศวกรรม ที่สามารถสู้กับชาติมหาอำนาจอื่นได้อย่างเต็มภาคภูมิ แต่สิ่งที่ยังเป็นอุปสรรคสำคัญคือ ความไม่เสมอภาคในสังคม ซึ่งฝังรากลึกมาจากระบบวรรณะ แม้ระบบนี้จะถูกลบออกจากกฎหมายและรัฐธรรมนูญมานานแล้ว แต่ในใจของประชาชนจำนวนมากยังคงมีร่องรอยความยากลำบากและความเชื่อแบบเดิมอยู่
นั่นจึงเป็นโจทย์สำคัญของรัฐบาลอินเดีย หากสามารถขจัดความเหลื่อมล้ำได้อย่างเป็นรูปธรรม อินเดียจะสามารถ “ปลดล็อก” ศักยภาพที่แท้จริงของตนเอง และก้าวสู่เวทีโลกในฐานะมหาอำนาจเบอร์ต้นๆ ภายใน 10-15 ปีข้างหน้า
สิ่งที่อินเดียต้องการในตอนนี้ ไม่ใช่แค่โครงสร้างพื้นฐานหรือเงินทุน แต่คือ การหล่อหลอมจิตวิญญาณของชาติให้เป็นหนึ่งเดียวกัน สร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในรูปแบบกิจกรรม, โครงการ หรือแม้แต่การส่งเสริมวัฒนธรรมร่วม ที่ช่วยลดรอยร้าวทางสังคมและสร้าง “ความภูมิใจในความเป็นอินเดีย”
บทส่งท้าย: ใครจะรับบทเป็นชาวประมงในศึกนกกระยางกับหอยกาบ
หากเปรียบโลกเป็นสนามรบแห่งยุทธศาสตร์ — สหรัฐฯ และจีนอาจกำลังเล่นบท นกกระยางกับหอยกาบ ที่สู้กันจนพลาดท่าและอาจตกเป็นเหยื่อของ “ชาวประมง” ที่รอจังหวะเงียบๆ อย่างชาญฉลาด
โลกในวันนี้ไม่มีอะไรแน่นอน
ทรัมป์อาจเป็นโจโฉแห่งยุคใหม่ — ผู้ที่กล้าทรยศคนทั้งโลกเพื่อผลประโยชน์ของตนเองและอเมริกา
สีจิ้นผิงอาจเป็นซือหม่าอี้ที่จะต่อยอดตนเองเป็นซือหม่าเอียนในอนาคต — ผู้นำที่ก้าวเดินอย่างช้าๆ แต่มั่นคง
และอินเดียอาจคือชาวประมง หรือ ราชสีห์ตื่นจากหลับไหลครั้งใหญ่นับร้อยปี — ที่รอวันจะออกล่าเมื่อสองมหาอำนาจหมดแรง “นกกระยางกับหอยกาบสู้กันสุดท้ายก็เสร็จชาวประมง”
ใครเล่าจะรู้อนาคตแน่นอน?
สิ่งที่เรามีกำลังดำเนินอยู่ คือ “ปัจจุบัน”
และสิ่งใดๆ ในโลกนี้ ล้วนถูกย่อยสลายผ่านกาลเวลา
ไม่มีสิ่งใดคงอยู่ตลอดไปภายใต้นิยามของเวลา…
missiontothemoon
แนวคิด
การเมือง
1 บันทึก
3
1
1
3
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย