15 ส.ค. เวลา 09:28 • ไลฟ์สไตล์

อย่าเพิ่งดุ! ทำไมผู้สูงอายุถึง "ไม่ยอม" กลืนน้ำลาย? มาทำความเข้าใจภาวะกลืนลำบาก

ใครที่กำลังดูแลผู้สูงอายุแล้วเจอปัญหา "น้ำลายไหลยืด" หรือ "สำลักง่าย" บทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยและเปลี่ยนความรำคาญใจเป็นการเข้าใจ เพื่อให้การดูแลเป็นไปอย่างราบรื่นและเห็นอกเห็นใจกันมากขึ้น ทำให้เกิดการดูแลที่ถูกต้องและไม่หงุดหงิด
เคยไหมที่ต้องคอยเช็ดน้ำลายให้ผู้สูงอายุที่คุณดูแลอยู่ตลอดเวลา? เคยไหมที่รู้สึกหงุดหงิดว่าทำไมท่านถึง "ไม่ยอม" กลืนน้ำลายสักที? ความรู้สึกเหล่านี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่ก่อนที่จะรู้สึกโกรธหรือรำคาญ ลองมาทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงของอาการเหล่านี้กันก่อน
อาการที่ผู้สูงอายุมีน้ำลายไหลออกมามากผิดปกติ หรือสำลักง่าย ไม่ได้เกิดจากการ "แกล้ง" หรือ "ไม่ใส่ใจ" แต่ส่วนใหญ่มักเป็นผลมาจากภาวะทางการแพทย์ที่เรียกว่า "ภาวะกลืนลำบาก" (Dysphagia) ซึ่งเป็นอาการที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง
ความจริงที่ต้องรู้: ไม่ใช่ "ไม่ยอม" แต่เป็น "ทำไม่ได้"
ภาวะกลืนลำบากเกิดขึ้นเมื่อระบบการกลืนของเราทำงานผิดปกติ ไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อที่ใช้ในการกลืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สาเหตุมีมากมาย และส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่ผู้ป่วยควบคุมไม่ได้ แล้วมันเกิดจากอะไรได้บ้างหล่ะ
1) เกิดจากผลกระทบจากโรคทางระบบประสาท:
1.1) โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke): เมื่อสมองส่วนที่ควบคุมการกลืนเสียหาย การสั่งการกล้ามเนื้อจึงไม่เป็นไปตามปกติ
1.2) โรคพาร์กินสัน (Parkinson's Disease): กล้ามเนื้อที่แข็งเกร็งและเคลื่อนไหวช้า รวมถึงกล้ามเนื้อที่ใช้ในการกลืน ทำให้กลืนได้ยากลำบาก
1.3) โรคสมองเสื่อม (Dementia/Alzheimer's): ผู้ป่วยอาจลืมขั้นตอนการกลืน หรือไม่รับรู้ถึงน้ำลายในปาก โดยถ้าผู้ป่วยมีอาการของโรคสมองเสื่อมเริ่มต้น ก็จะมีการลักษณะนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งเป็นคราว ไม่ได้เกิดขึ้นตลอดเวลา
2) การเปลี่ยนแปลงของกล้ามเนื้อตามวัย:
2.1) กล้ามเนื้ออ่อนแรง (Sarcopenia): กล้ามเนื้อทั่วร่างกาย รวมถึงกล้ามเนื้อที่ใช้ในการกลืน จะค่อยๆ อ่อนแรงลงตามอายุ
3) ปัญหาในช่องปากและลำคอ:
3.1) น้ำลายน้อย (Dry Mouth): ยาบางชนิดหรือภาวะสุขภาพบางอย่างทำให้น้ำลายน้อยลง ส่งผลให้การกลืนยากขึ้น
3.2) ปัญหาฟันและเหงือก: ฟันปลอมไม่พอดี หรือมีแผลในช่องปาก ทำให้การเคี้ยวและการกลืนเจ็บปวด
ทำความเข้าใจ เพื่อการดูแลที่เห็นอกเห็นใจ
เมื่อเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงแล้ว ความรู้สึกหงุดหงิดอาจเปลี่ยนเป็นความเห็นใจและความต้องการที่จะช่วยเหลือมากขึ้น ในฐานะผู้ดูแล เราสามารถทำได้หลายอย่างเพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุที่มีภาวะกลืนลำบากมีความสุขและปลอดภัยมากขึ้น:
- สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด: เฝ้าระวังอาการสำลัก ไอ หรือเสียงเปลี่ยนหลังกลืน
- ปรับท่านั่ง: จัดให้ผู้ป่วยนั่งตัวตรงขณะรับประทานอาหารและดื่มน้ำ และยังคงอยู่ในท่านั่งเดิมอย่างน้อย 40 นาทีหลังมื้ออาหาร
- ปรับอาหาร: เลือกอาหารที่มีเนื้อสัมผัสที่กลืนง่าย เช่น อาหารอ่อน เหลว หรือบดละเอียด ตามคำแนะนำของแพทย์หรือนักโภชนาการ
- กระตุ้นการกลืน: เตือนให้ผู้ป่วยกลืนน้ำลายบ่อยๆ หากยังสามารถทำได้
- ดูแลสุขอนามัยช่องปาก: ทำความสะอาดช่องปากอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ
- ปรึกษาแพทย์หรือนักบำบัดการกลืน: ขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินและวางแผนการดูแลที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย
เปลี่ยนความรำคาญ เป็นพลังแห่งการดูแล
การดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะกลืนลำบากอาจต้องใช้ความอดทนและความเข้าใจอย่างมาก แต่เมื่อเราทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงของอาการ เราจะสามารถปรับวิธีการดูแลให้เหมาะสมและลดความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ที่สำคัญที่สุดคือ การแสดงความรักและความเข้าใจ จะช่วยให้ทั้งผู้ดูแลและผู้ถูกดูแลผ่านช่วงเวลานี้ไปได้อย่างราบรื่นและมีความสุขมากยิ่งขึ้น
คำค้นหา (Keywords): ผู้สูงอายุไม่กลืนน้ำลาย, ภาวะกลืนลำบาก, Dysphagia, การดูแลผู้ป่วยสูงอายุ, สาเหตุไม่กลืนน้ำลาย, ผู้สูงอายุสำลัก, อาหารสำหรับผู้สูงอายุกลืนยาก, การดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง, การดูแลผู้ป่วยพาร์กินสัน, สุขภาพผู้สูงอายุ
โฆษณา