18 ส.ค. เวลา 09:15 • ธุรกิจ

ตอนที่ 2: AI พยากรณ์อนาคตสินค้า

ถ้าถามผู้จัดการคลังทุกคนว่า “อะไรคือฝันร้ายที่สุด?”
คำตอบที่ได้มักไม่ต่างกัน…
'ของหมดสต๊อก' ในวันที่ลูกค้ากำลังรอ หรือ 'ของค้างเต็มคลัง' ที่ขายไม่ออก
ทั้งสองปัญหานี้คือศัตรูตัวฉกาจที่กินต้นทุน กัดกินกำไร
และบั่นทอนความพึงพอใจของลูกค้า แต่ AI สามารถเข้ามาช่วยได้
การใช้ AI ในการพยากรณ์ (Demand Forecasting)
ไม่ได้เป็นเพียงการดูยอดขายย้อนหลังแล้วเดาอนาคต
แต่คือการวิเคราะห์ข้อมูลมหาศาล ทั้งยอดขายออนไลน์–ออฟไลน์
เทรนด์ฤดูกาล พฤติกรรมลูกค้า และแม้กระทั่งสภาพอากาศ
เพื่อนำมาสร้างโมเดลที่แม่นยำกว่ามนุษย์คำนวณ
ลองนึกภาพว่า…
✅️ ก่อนถึงเทศกาลใหญ่ AI แจ้งทันทีว่าสินค้าตัวไหนจะขายดี
✅️ สินค้าตัวไหนกำลัง “เริ่มตก” ก็ปรับคำสั่งซื้อให้น้อยลง
✅️ สต๊อกถูกเติมเต็มในจังหวะที่พอดี ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป
ผลที่ได้คือ' ต้นทุนลดลง–ของเสียหายหายไป–ลูกค้าได้ของตรงเวลา'
ธุรกิจค้าปลีกใหญ่ ๆ ทั่วโลกเริ่มใช้ AI Forecasting กันแล้ว และผลลัพธ์ก็ชัดเจน:
✅️ ลดของหมดสต๊อกได้มากกว่า 30%
✅️ ลดของค้างสต๊อกลงเกือบครึ่ง
✅️ เพิ่มยอดขายโดยรวมเพราะลูกค้า “เจอของที่อยากได้เสมอ”
AI ไม่ได้เป็นแค่ผู้ช่วย แต่คือ นักพยากรณ์ที่แม่นยำ
ทำให้ผู้จัดการคลังมั่นใจว่า ทุกการตัดสินใจไม่ใช่การเสี่ยงโชค
แต่คือการเดินเกมด้วยข้อมูลจริง
“คลังที่ดี ไม่ใช่คลังที่มีของเยอะที่สุด…
แต่คือคลังที่มีของ ‘ตรงเวลา ตรงจำนวน’ มากที่สุด”
และนี่คืออีกหนึ่งเหตุผลที่ AI กำลังเปลี่ยนคลังจาก
ห้องเก็บของ ให้กลายเป็น ห้องแห่งการพยากรณ์อนาคต

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา