17 ส.ค. เวลา 14:05 • บันเทิง
Ultra Arena Bravo BKK

BNK48 3rd Generation "Rabbit in Borderland" the Musical: การเติบโตที่งดงามของเหล่ารุ่น 3

เมื่อรุ่น 3 ขึ้นเวทีละครในวาระใกล้หมดสัญญา…และหัวใจแฟนคลับถูกโอบกอดจนเต็มรัก
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า นี่คือหนึ่งวันที่หัวใจแฟนคลับเต็มตื้น ขำจนปอดโยก และซึ้งจนต้องซับน้ำตา มันครบจริงๆ ทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ความตื่นเต้น และความผูกพันที่ถ่ายทอดจากเวทีตรงเข้าสู่หัวใจ
ใช่…มันอาจไม่เนี้ยบเป๊ะยิ่งใหญ่ระดับรัชดาลัย แต่มันคือความลงตัวของ ละครเวทีมหาวิทยาลัย+ตลกหกฉาก ที่ถูกปรุงรสด้วยความตั้งใจและพลังจากน้องๆ รุ่น 3 จนออกมาเป็นงานที่อบอุ่นหัวใจเกินคำบรรยายมันมีฟีลแบบ ผู้ปกครองมาดูลูกแสดงงานโรงเรียน แต่ยกระดับด้วยการลงทุน ฉาก บท การซ้อมที่แน่น เป๊ะ โซะ และเต็มไปด้วยเสน่ห์ของการแสดงสดที่แฟนคลับสัมผัสได้ชัด
เรื่องราวต่อจาก “The Rabbit”
งานนี้สานต่อจากหนังสั้น The Rabbit หลังเวลาผ่านไป 3 ปี…
เฌอ ติดเชื้อกลายเป็นซอมบี้
เข็ม กับ เกรซ อาสาอยู่เฝ้าฐาน ดูแลพี่เฌอ
ส่วนคนอื่นออกเดินทางตามหาเซรุ่ม
เปิดเรื่องมาก็คือ…พวกเขาเจอเซรุ่มแล้ว!แต่ซอมบี้บุก ตึกถล่ม มีบางคน “ไม่รอด” (สื่อถึงเมมเบอร์ที่แกรดออกไปแล้ว) ส่วนที่เหลือก็ถูกแยกย้ายเป็นกลุ่มย่อย
ฮูพ ผู้เป็นห่วงหน้าห้องกับเพื่อนอีก 3 คนกลับมาถึงฐาน แต่พบว่าเหลือเกรซเพียงคนเดียว…เพราะเฌอกินเข็มเข้าไปแล้ว และหนีหายไป ก่อนที่ฮูพจะตัดสินใจสร้างเซรุ่มขึ้นมาใหม่ แล้วออกเดินทางตามหาเพื่อนๆ ทีละกลุ่ม แต่ระหว่างทางกลับพบว่า…หลายคนถูกกัด และกำลังจะกลายเป็นซอมบี้ในไม่ช้า
🎭 ความสนุกหลากรส
เสน่ห์ของงานนี้คือการผสมผสานระหว่าง ละครเวที + ละครเพลง + ละครซิตคอม
ฉากหนึ่งอาจทำให้หัวเราะจนท้องแข็ง อีกฉากกลับพาเราซึ้งน้ำตาคลอ
ความพิเศษคือมี น้องๆ รุ่น 4 มาเป็น “ซอมบี้ภาคสนาม” วิ่งขึ้นมาบนที่นั่งคนดู ทำเสียงขู่ เขย่าเก้าอี้ แกล้งแฟนคลับจนสะดุ้งกันทั้งฮอลล์ — เป็นจังหวะที่ทั้งน่ากลัวและสนุกในเวลาเดียวกัน
💔 ซีนดราม่าที่ทำให้ทั้งฮอลล์เงียบกริบ
เมื่อเดินทางถึงกลุ่มสุดท้าย…คนที่ติดเชื้อคือ ป๊อปเป้อ
และเซรุ่มก็หมดแล้ว เธอเลยพูดทั้งน้ำตาว่า
“ถึงต้องถูกมัดกับเก้าอี้ ให้ร้องโวยวายทรมานเหมือนพี่เฌอก็ไม่เป็นไร”
นี่ไม่ใช่แค่บทละคร แต่มันคือการส่งสารถึงพี่เฌอในโลกจริง การยอมรับชะตากรรม แม้จะต้องกลายเป็นแบบเดียวกัน เพราะหัวใจยังมีความรักและผูกพันอยู่เสมอ
และในอีกนัยยะหนึ่ง มันคือการสื่อถึงการ “แกรด” ออกจากวงไปเป็นชิไฮนินเหมือนเฌอเมมเบอร์ร้องจริง น้ำตาไหลจริง แฟนคลับก็แตกตามจริง
ก่อนปิดด้วยมุกติดตลกจากป๊อปเป้อที่ฝากไว้กับฮูพ
“จากนี้ คุณเป็นหัวแถวแล้วนะ”
🔍 สะท้อนเรื่องจริงของรุ่น 3
ฮูพกล่าวบนเวทีว่า ทุกคนเก่งมากที่รอดมาถึงตอนนี้ แม้ต้องเผชิญโรคระบาดร้ายแรง (ในเรื่องคือซอมบี้) แต่ในโลกความจริง…มันคือรุ่น 3 ที่ต้องเผชิญโควิด จนเดบิวต์ช้ากว่ากำหนดไปกว่าหนึ่งปี และนี่คือผู้ที่ยังยืนหยัดอยู่
ตลอดเรื่องมีการหยิบเพลงของ 48 Group ทั้ง BNK และ CGM มาดัดเนื้อให้เข้ากับสถานการณ์ ช่วยส่งอารมณ์ของแต่ละฉากให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ทั้งฟีลสนุก ฟีลซึ้ง และฟีลฮึกเหิม
ด้วยความที่เพื่อนๆ ในรุ่นเราชอบแสดงละคร เวลาอยู่ด้วยกันก็จะเล่นบทนั่นนี่เป็นทุนเดิม เลยเลือกที่จะทำและกระจายงานให้ข้าวฟ่างไปหาคนเขียนบทเก่งมาช่วย ผลงานที่ออกมารู้สึกว่าที่ทำไปมันหายเหนื่อยไปหมดเลย ที่เราเครียด ร้องไห้ มันหายหมด สนุกมาก การได้ทำงานกับพี่ๆ ทีมงานที่ตั้งใจทำไปกับเรามากๆ ยิ่งทำให้มีความสุขกว่าเดิม พี่ๆ เขาเก่งมาก
หนูเป็นคนวางตารางและแผนโปรโมตเอง กำหนดบทบาทหน้าที่ให้เพื่อนๆ และทีมงานเอง ต้องทำอะไรยังไงบ้าง ลืมอะไรบ้าง ริสแบนด์จะลงสีอะไรบ้าง
โดยมีพี่เอิร์นกับพี่ฟ่างช่วย Benefit จะกี่นาที ตรงเวลามั้ยยังไง
ทั้งหมดที่ทำขอเน้นย้ำไม่ใช่ อฟช. ไม่ทำและโยนมานะ หนูสมัครใจอยากทำเองจริงๆ ให้ได้ในแบบที่เราต้องการและส่งให้ทีมงานตรวจได้เลย อยากให้เข้าใจตรงกัน คือ อฟช. อยากช่วยและซัพพอร์ตดีมากๆ
และงานนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีการซัพพอร์ตของค่าย ทีมงาน และที่สำคัญคือเพื่อนๆ ที่ทุ่มเทไปด้วยกันยันตี้หมูกระทะก็อยู่กันจนดึกดื่น หรือตอนบัตรขายไม่หมด ทุกคนก็พร้อมใจสละเวลามาไลฟ์กระตุ้นไปด้วยกัน
ด้วยความที่หนูเป็นคนถ้าได้รับมอบหมายอะไรมาจะทุ่มเทกับมันมากๆ คาดหวังกับมันมาก อย่างไรก็ตามถ้าไม่มีพี่เอิร์น ข้าวฟ่าง และเอิร์ธที่คอยเป็นดั่งน้ำเย็นให้สงบลง ก็คงสติแตกได้เลย ถ้าอะไรผิดพลาดนิดหน่อยหรือตารางชนคงอยากร้องไห้ทันที ชีวิตมีอะไรผิดพลาดได้เสมอ รู้นะ รู้ทางแก้ด้วย แต่ขอระบายก่อนถึงจะมีกำลังใจจะฮึดสู้ต่อ
ทั้งนี้หนูจะเก็บตารางเบื้องหลังนี้ไว้อย่างดี เป็นอีกหนึ่งงานที่มีความสุขมากๆ ค่ะ และจะไม่มีขายออกมา เพราะอยากให้มันพิเศษสำหรับคนที่มาดูจริงๆ อนาคตก็ไม่รู้จะมีงานแบบนี้เกิดขึ้นอีกมั้ยหรือเมื่อไหร่ แต่ก็หวังว่าแฟนคลับทุกคนจะเชื่อมั่นในพวกเราต่อไปนะคะ
ฮูพ BNK48 กัปตันวงและผู้นำรุ่น กล่าวในไลฟ์ แอปฯ iAM วันที่ 10 ส.ค.             เวลา 23.14 น.”
จาก First Rabbit ในวันนั้น
สู่การแสดงที่คล้าย Last Rabbit ในวันนี้
แม้เวลาจะผ่านพ้นไปอีกกี่ปี
ละครเวทีครั้งนี้ก็จะเป็นดั่งไดอารี่
และการผจญภัยสุดตราตรึง
ที่จะลึกซึ้งอยู่ในใจน้องๆ และพวกเราตลอดไป
ดั่งใจความที่เคยขับขานไว้ในบทเพลง
"ก็เรื่องร้ายที่พบเจอ
ความเจ็บปวดเสียใจใดใด
ไม่ต้องกลัวหรือว่าหวั่นไหว
จงก้าวเท้าต่อไป
วิ่งตามความฝันอย่างมั่นใจ
ไม่ลังเลไม่เสียดาย
ต่อให้มีอะไรมาขัดมาขวางเส้นทาง
แต่เราจะก้าวข้ามมันไป
ก็เรื่องร้ายที่พบเจอ
ทำให้เติบและโตขึ้นไป
แม้น้ำตายังคงรินไหล
ก็จงก้าวเท้าต่อไป
วิ่งตามความฝัน มุ่งหน้าไป
แม้ต้องเจ็บต้องช้ำใจ
จงก้าวไปเป็นกระต่ายตัวแรกของฝูง,,,"
ภูมิใจกับพวกเธอนะ รุ่น 3 ทุกคน 🐰❤️
เขียนบทความโดย: แอดจารย์ธัญ 🩵
ขอบคุณภาพจาก: BNK48
โฆษณา