17 ส.ค. เวลา 00:56 • ปรัชญา

การสื่อสารแบบบริบทสูง vs บริบทต่ำ: ผลกระทบทางวัฒนธรรมต่อชีวิตประจำวันของบุคคลที่มีภาวะออทิซึม

สิ่งแรกที่จะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับบทความนี้ คือ ปัจจัยสภาพแวดล้อมส่งผลอย่างสูงต่อพฤติกรรมของมนุษย์ ตั้งแต่ปัจจัยที่ยาวนานและคงทนที่สุด (วิวัฒนาการและพันธุกรรม) ผ่านปัจจัยระยะยาวในชีวิต (สภาพก่อนคลอด ประสบการณ์วัยเด็ก การหล่อหลอมทางวัฒนธรรม) มาถึงปัจจัยระยะกลาง (สภาวะกาย–ใจในช่วงวันหรือชั่วโมง เช่น ความเครียด การนอน อาหาร ฮอร์โมน) และจบที่ปัจจัยระยะสั้นที่สุดก่อนลงมือไม่กี่วินาที (สิ่งเร้าเฉียบพลัน คำพูด น้ำเสียง เสียงดัง ความหิว) ซึ่งในบทความนี้ผมอยากจะเน้นไปที่วัฒนธรรมการสื่อสาร
ในหนังสือ Behave: The Biology of Humans at Our Best and Worst ผู้เขียน โรเบิร์ต ซาโปลสกี (Robert Sapolsky) ได้อธิบายถึงการเปรียบเทียบระหว่างวัฒนธรรมเอเซียตะวันออกที่เน้นความเป็นส่วนรวม กับวัฒนธรรมที่เน้นปัจเกจบุคคลอย่างตะวันตก วัฒนธรรมที่เน้นส่วนรวมให้ความสำคัญกับการพึ่งพาอาศัยกัน ความกลมเกียวปรองดอง การเข้ากับคนอื่น ๆ ในสังคม ความต้องการและความรับผิดชอบต่อกลุ่ม ในทางตรงกันข้ามวัฒนธรรมที่เน้นปัจเกจบุคคลให้คุณค่ากับการไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น การแข่งขัน ความต้องการ และสิทธิของแต่ละบุคคล
แต่สิ่งที่ผมอยากจะนำเสนอก็คือ แนวคิด High-context (การสื่อสารแบบบริบทสูง) vs Low-context communication (การสื่อสารบริบทต่ำ) ของ เอ็ดเวิร์ด ที ฮอลล์ (Edward T. Hall) (1976) เป็นกรอบการอธิบายว่าการสื่อสารในแต่ละวัฒนธรรมพึ่งพาบริบท (Context) ในการตีความข้อความมากน้อยแตกต่างกันอย่างไร โดยวัฒนธรรมแบบบริบทสูงจะพึ่งพาบริบททางสังคมและวัฒนธรรมในการทำความเข้าใจข้อความมากกว่าวัฒนธรรมแบบบริบทต่ำ
การสื่อสารแบบบริบทสูง (High-context) หมายถึง การสื่อสารที่พึ่งพาบริบทแวดล้อมอย่างมาก เช่น สีหน้า น้ำเสียง สถานการณ์ ความสัมพันธ์ และความรู้ร่วมกันในวัฒนธรรม (ญี่ปุ่น ไทย จีน เกาหลี: ส่วนใหญ่ในเอเชีย) ลักษณะสำคัญ คือ 1) คำพูดอาจไม่บอกทุกสิ่งที่ต้องการสื่อ 2) มีการใช้ภาษากายและสัญลักษณ์มาก และ 3) ผู้ฟังต้องตีความโดยอาศัยความเข้าใจในวัฒนธรรมและความสัมพันธ์
ข้อดีคือ สร้างความสัมพันธ์ลึกซึ้งและความกลมเกลียว และ ข้อเสียคืออาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดกับคนต่างวัฒนธรรม โดยเฉพาะผู้ที่ไม่คุ้นกับนัยแฝง (บุคคลที่มีภาวะออทิซึมเปกตรัม)
การสื่อสารบริบทต่ำ (Low-context communication) หมายถึง การสื่อสารที่เน้นความตรงไปตรงมา พูดทุกอย่างที่ต้องการสื่อออกมาตรง ๆ โดยไม่พึ่งพาบริบทมาก (สหรัฐอเมริกา เยอรมนี แคนาดา ออสเตรเลีย: ส่วนใหญ่ในตะวันตก) ลักษณะสำคัญ คือ 1) ข้อความชัดเจน ครบถ้วน 2) การตีความขึ้นกับคำพูดมากกว่าบริบท และ 3) ใช้คำอธิบายตรง ไม่ต้องอาศัยความรู้ร่วมมากนัก
ข้อดีคือ ลดโอกาสความเข้าใจผิด และ ข้อเสียคือ อาจดูแข็งหรือไม่รักษาหน้า สำหรับคนจากวัฒนธรรมบริบทสูง (เช่น เอเชีย)
ผลต่อการใช้ชีวิตของบุคคลออทิซึมฯ ตามกรอบ High-context vs Low-context Communication
วัฒนธรรมตะวันออก (High-context) บุคคลที่มีภาวะออทิซึมเปกตรัมในสังคมที่เน้นการสื่อสารแบบบริบทสูง เช่น ไทย ญี่ปุ่น จีน หรือเกาหลีใต้ มักเผชิญความยากลำบากหลายด้าน เนื่องจากต้องตีความนัยแฝงที่ซ่อนอยู่ในน้ำเสียง ท่าทาง หรือความเงียบ ซึ่งไม่ได้ถ่ายทอดชัดเจนด้วยคำพูด
1) ความเสี่ยงต่อการตีความผิด (Misunderstanding) สูง บุคคลที่มีภาวะออทิซึมสเปกตรัมมักจะตีความผิดหรือไม่เข้าใจความหมายที่คนส่วนใหญ่ “รู้กัน” ในวัฒนธรรม ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ระดับของทักษะการอ่านบริบททางสังคม (Social context reading skills) ความคุ้นเคยกับวัฒนธรรมนั้น ๆ และประสบการณ์ที่ผ่านมากับการสื่อสารในสถานการณ์คล้ายคลึงกัน
2) การใช้ Masking (การเลียนแบบพฤติกรรมของคนอื่นเพื่อให้เข้าสังคมได้มากขึ้น) เพื่อให้เข้ากับสังคม บุคคลที่มีภาวะออทิซึมสเปกตรัมอาจต้องแกล้งทำความเข้าใจหรือเลียนแบบพฤติกรรมทางสังคม แม้ไม่เข้าใจจริง พวกเขาอาจพยายามเลียนแบบน้ำเสียง การสบตา การแสดงอารมณ์ หรือวิธีโต้ตอบที่เป็นที่ยอมรับในสังคม การทำเช่นนี้อย่างต่อเนื่องอาจก่อให้เกิด ความเหนื่อยล้าทางอารมณ์และ ความเครียดสะสม)เนื่องจากต้องใช้พลังสมาธิและการควบคุมตนเองสูง
วัฒนธรรมตะวันตก (Low-context) ในสังคมที่เน้นความชัดเจนและตรงไปตรงมา เช่น สหรัฐฯ เยอรมนี ออสเตรเลีย แม้บุคคลที่มีภาวะออทิซึมสเปกตรัมจะได้รับประโยชน์จากข้อความที่ตรงและไม่ซับซ้อน แต่ก็มีความกดดันในอีกรูปแบบหนึ่ง
1) ความกดดันในการตอบตรง ๆ ค่านิยมของการแสดงความเห็นหรือโต้แย้งอย่างมีเหตุผล อาจสร้างความกังวลให้กับบุคคลออทิซึมฯ ที่ไม่ถนัดในการตอบโต้ทันที อาจสร้างแรงกดดันสูงเนื่องจากการประมวลผลข้อมูลของพวกเขามักต้องใช้เวลามากกว่าเพื่อวิเคราะห์คำถาม จัดลำดับความคิด และหาวิธีการสื่อสารที่เหมาะสม
ความเร่งรีบนี้อาจทำให้เกิดความตึงเครียด กังวล หรือแม้กระทั่งหลีกเลี่ยงการสื่อสารโดยตรง ส่งผลให้พวกเขารู้สึกไม่มั่นใจหรือถูกตีความผิดว่าไม่ให้ความร่วมมือ ทั้งที่จริงแล้วเป็นเพราะต้องใช้เวลามากขึ้นในการจัดการกับข้อมูลและอารมณ์
2) ความคาดหวังด้านการให้เหตุผล ในบริบทที่เน้นการโต้แย้งหรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล ผู้เข้าร่วมมักถูกขอให้อธิบายเหตุผลหรือชี้แจงการตัดสินใจของตนอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งสำหรับบุคคลออทิซึมฯ จะเป็นภาระทางการประมวลผลที่ซับซ้อน โดยเฉพาะเมื่อสถานการณ์นั้นมีแรงกดดันสูง เช่น การประชุม การสอบสัมภาษณ์ หรือการถกเถียงต่อหน้ากลุ่มคนจำนวนมาก
การต้องแปลงความคิดจากรูปแบบภาพหรือโครงสร้างในหัวให้เป็นคำพูดที่ชัดเจนและลำดับถูกต้องภายในเวลาจำกัด อาจทำให้เกิดภาวะตึงเครียดทางสมองและกระทบต่อความสามารถในการสื่อสารได้อย่างราบรื่น ส่งผลให้แสดงออกช้ากว่าปกติ ใช้ถ้อยคำไม่ครบถ้วน หรือข้ามรายละเอียดสำคัญไป
จะเห็นว่าในสังคมตะวันออก การใช้ชีวิตของบุคคลที่มีภาวะออทิซึมสเปกตรัม มักเผชิญความยากลำบากมากกว่าในบางมิติ เนื่องจากมี ความคาดหวังทางสังคมสูง และมีกฎเกณฑ์หรือบรรทัดฐานที่ไม่ได้เขียนไว้ ซึ่งคนทั่วไปเรียนรู้จากการสังเกตและตีความจากบริบทได้ง่ายกว่า แต่สำหรับบุคคลออทิซึมฯ การตีความกฎเหล่านี้อาจยาก ทำให้เกิดความกังวลหรือความรู้สึกไม่แน่ใจว่าตนทำถูกต้องตามมาตรฐานของกลุ่มหรือไม่ (ขนาดบุคคลทั่วไปยังตีความบริบทในสังคมไทยได้ยากเลยจริงไหมครับ)
ยิ่งไปกว่านั้น สังคมตะวันออกมักให้ความสำคัญกับ การรักษาหน้ากลุ่ม (Group harmony) การไม่ขัดใจผู้อื่น และการอ่านใจจากบริบท ซึ่งเป็นทักษะที่บุคคลออทิซึมฯ ไม่ถนัดและต้องใช้พลังการประมวลผลสูงอันเกิดจากปัจจัยทางสมองบางส่วนและการฝึกฝนตลอดการเติบโต ส่งผลให้ความสุขและความผ่อนคลายลดลงในชีวิตประจำวัน
ในทางตรงกันข้าม สังคมตะวันตกแม้จะมีความชัดเจนทางกฎเกณฑ์และการสื่อสารตรงไปตรงมาซึ่งช่วยลดการตีความผิด แต่ก็มีความยากลำบากที่แตกต่างออกไป เช่น ความคาดหวังให้สามารถ แสดงเหตุผลและปกป้องความคิดเห็นของตนเองได้ทันที หรือการต้องรับมือกับการแข่งขันและความเป็นอิสระสูง ซึ่งอาจสร้างความกดดันในรูปแบบใหม่ได้
ในมุมมองด้านปัจจัยบวกต่อคุณภาพชีวิตของบุคคลออทิซึมสเปกตรัม สังคมตะวันออกโดดเด่นด้วยโครงสร้างทางสังคมและบทบาทในครอบครัวที่ชัดเจน ซึ่งช่วยให้พวกเขาเข้าใจแนวทางการปฏิบัติตนในบริบทต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ระบบครอบครัวขยายยังเป็นแหล่งสนับสนุนทั้งทางอารมณ์และการใช้ชีวิตประจำวัน (โดยเฉพาะด้านอารมณ์) อีกทั้งวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระยะยาวและความกลมเกลียวในกลุ่ม ยังสามารถสร้างความมั่นคงทางสังคมเมื่อบุคคลออทิซึมฯ ได้รับการยอมรับเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน
ในขณะที่สังคมตะวันตกให้ความสำคัญกับสิทธิและความหลากหลาย ส่งผลให้มีนโยบายและมาตรการรองรับบุคคลที่มีความต้องการพิเศษอย่างเป็นระบบ การสื่อสารตรงไปตรงมาลดความคลุมเครือในการตีความเจตนา ขณะเดียวกันยังสนับสนุนให้พวกเขาแสดงความเป็นตัวของตัวเอง เลือกวิถีชีวิตที่สอดคล้องกับความสนใจและความสามารถของตนเองได้
ประเทศไทยมีลักษณะการสื่อสารแบบซับซ้อน ซึ่งเต็มไปด้วยนัยยะทางสังคม ค่านิยม และมารยาทที่ต้องตีความจากบริบท การสนับสนุนบุคคลออทิซึมฯ ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้จึงต้องเริ่มจากความเข้าใจอย่างลึกซึ้งทั้งในธรรมชาติของเขา และธรรมชาติการสื่อสารของไทย เพื่อออกแบบวิธีสื่อสารที่ชัดเจนเพียงพอ ลดความคลุมเครือ แต่ยังคงรักษาน้ำเสียงที่นุ่มนวลและความสัมพันธ์เชิงบวกที่จุดแข็งของวัฒนธรรมตะวันออกเอาไว้
เช่น ความผูกพันในครอบครัวและความเอื้ออาทรในชุมชน สามารถใช้เป็นเครือข่ายสนับสนุนทางอารมณ์และการใช้ชีวิตประจำวันได้ หากได้รับการจัดการอย่างเข้าใจ ขณะเดียวกัน การดึงแนวคิดจากวัฒนธรรมตะวันตก เช่น การเคารพสิทธิ ความเป็นอิสระ และการให้ข้อมูลที่ชัดเจน ก็สามารถเติมเต็มให้การสนับสนุนมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน
เมื่อผสมผสานข้อดีของทั้งสองวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน เราสามารถสร้างโมเดลการสนับสนุนที่ชัดเจนในสาร แต่ยังอบอุ่นในความสัมพันธ์ได้ สภาพแวดล้อมเช่นนี้จะเปิดโอกาสให้บุคคลออทิซึมฯ ได้ใช้จุดแข็งของตนอย่างเต็มที่ และลดอุปสรรคจากข้อจำกัดด้านสังคม วัฒนธรรม และการสื่อสาร ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นไม่เพียงยกระดับคุณภาพชีวิตของพวกเขา
แต่ยังช่วยสร้างสังคมไทยที่เข้าใจ เคารพ และอยู่ร่วมกันได้อย่างเกื้อกูลในความแตกต่าง อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของการอยู่ร่วมในสังคมพหุวัฒนธรรมยุคปัจจุบัน
อ้างอิง
Broeder, P. (2021). Informed communication in high‑context and low‑context cultures. Journal of Education, Innovation, and Communication (JEICOM), 3(1). https://doi.org/10.34097/jeicom‑3‑1‑june21‑1
Sapolsky, M, R. (2017). Behave: the biology of humans at our best and worst / Robert M. Sapolsky. Description, Penguin Press.
โฆษณา