เมื่อวาน เวลา 09:33 • ปรัชญา
จากการที่ได้ทำบุญทำทาน ก็ได้คุย กับพระ ที่ท่านก็บอกว่า ในสมัยอยุธยา มีเพียงกษัตริย์องค์ เดียวที่ขึ้นไปสู่ชั้นพรหมได้ แล้วท่านก็แนะนำให้เราทำบุญแบบเจาะจง อุทิศกุศลให้ ถวายผู้ที่เราก็ได้ยินชื่อเสียงท่าน พ่อขุนนาวนำถม พระเจ้าอู่ทอง พระนเรศวร พระเจ้าเสือ .สามองค์นี้ ท่านก็เล่าให้ฟังว่า ตอนที่จิตจะออกจากกาย มันมีอารมณ์ห่วงบ้านเมือง ก็ดึงจิตท่านให้ไปไหนไม่ไดเลย จิตก็อยู่ในสถานที่อันสมควร ได้ไม่กี่วันเอง (หนึ่งวันเท่าร้อยปีมนุษย์) แล้วก็สร้างบุญกุศลไม่ได้ เมื่ออยู่ในสภาพนามธรรม .
กษัตริย์อยุธยา ที่ขึ้นไปชั้นพรหมได้ ก็พระนารายณ์ ท่านบอกว่า สมัยฉันการศึกสงคราม ไม่ค่อยมี บ้านเมืองร่มเย็น ..พอว่างจากการทำไร่ทำน่า คนสมัยท่าน ก็เข้าวัดทำบุญถือศีล ท่านก็ให้คนช่วยกันแต่งหนังสือพระคุณพ่อแม่ ส่งไปตามวัดวาอาราม ให้พระช่วยกัน สอนเรื่เงพระคุณพ่อแม่
คราวนี้ เรื่องของอารมณ์ ก่อนที่จะตาย มีนมีการถ่ายทอด กรรมที่เคยทำมา ที่ว่า ธาตุไฟแตก ลมไป ไฟไป น้ำไปเหลือ แต่ดิน ช่วงนี้ หูตา เค้าก็ถูกปิด ไม่ได้ยืนเสียง นอนน้ำตาไหล เพราะรู้ว่า จะต้องเดืนทางไปไหน เสียใจที่ไม่มีโอกาสแก้ไข กรรมดีชั่วได้ จิตต้องไปอาศัยไปตามกรรมที่ตนชอบสะสมมา .
การเตรียมตัว ก่อนที่ตาย ก็การสร้างบุญกุศลบารมี การปฏิบัติธรรม นั่งพับเพียบ ทำกายนี้ จิตเฉยๆ ก็มิใช่ว่า กายจะไม่มีการปวดทุกข์ทรมาน มันทุกข์ทรมาน ก็พยายามทำกายนิ่งๆจิตเฉย เพื่อให้เกิดขันติ เฉย ..ไม่ไปยึดทุกข์ ยึดอารมณ์ ก็ต้องพยายามขันติอดทน มีสติสัมปชัญญะ นิ่งพิจารณาอารมณ์ที่เกิดขึ้น มันเป็นอารมณ์ มันทุกข์กาย หรือ ทุกข์อารมณ์
เมื่อชีวิตเราฝึกหัดปลดเปลื้องอารมณ์กรรมไปเรื่อย กายก็เบาบางจากกรรม เกิดเป็นกายบุญเกิดขึ้น ถึงคราวจิตจะออกจากกาย มันก็ออกไปสะดวก ไม่ทุกข์ทรมาน กายไม่กระสับกระส่ายทุรนทุราย .จากไปด้วยความสงบ ถึงคราวจะออกจากกาย ก็มีสิ่งดีๆมารับ บางคนก็มีราชรถมารับ มีขบวนแห่มารับ .
2
มีพระท่านเล่าให้ฟัง ว่า เมื่อครั้งเจ็บป่วย ลุกจากเตียงไม่ได้ เค้าก็มีเป็นเหมือนราชรถมาอาราธนาท่าน ท่านเห็นแล้ว ก็ไม่ไปยินดี ก็นอนอยู่เฉยๆ ท่านบอกว่า เพียงแค่คิดยินดี
จิตก็ออกจากร่า่ง ไปกับเค้าเลย ส่วนผู้ที่มีกรรม มีเทวทูตมารับ บางที่เค้าก็เอามือ ล้วงลงไปที่หัว ดึงจิตนั้นออกมา ไปรับกรรม
.คนที่ไม่ฝึกหัด สร้างบุญกุศล มันก็มีแต่กรรม บางคนก่อนจะตาย จิตของเค้ามีแต่กรรม กรรมที่ทับถมกายทับถมจิต มันมีแต่แต่ความทุกข์โอบรัดจิตที่เปกรรม เค้าก็ไม่สามารถระลึก ไปถึงสิ่งดีได้ มีแต่ยึดทรัพย์สินเงินทอง ยึดในสิ่งที่เอาไปไม่ได้ จิตมันก็หนัก หนักด้วย้วรกรรมที่จำนำพาจิตไป ตามกำลังที่สะสมมา ต้องไปแต่จิตดวงเดียว สะสมกรรม มา ก็ไปตามเส้นทาง ทีเป็นกรรม จิตต้องไปรับกรรมที่ทำมา สะสมมาเอง
มีเรื่องราวที่พระสมัยต้นพุทธกาล ท่านเล่าให้ฟังว่า ท่านก็สะสมบุญบารมี กันมาเป็นอสงไขยกันทั้งนั้น กว่าจะมาเกิดทันพระอาทิตย์เกิดขึ้นมาในโลก คือ องค์พระสิทธัตถะ เมื่อท่านไปปฏิบัติปฏิบัติธรรมตามรอยองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า กายนิ่ง จิตนิ่ง ท่านจึงได้พบแสงพระอาทิตย์ ส่องลงมา ที่เป็นคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ท่านฝากไว้กับดินฟ้าอากาศ
.บางองค์ก็ปฏิบัติธรรมในป่า เก้าปี บางองค์ห้าสิบปี แต่ละพระองค์ อาศัยความขันติเป็นบารมี ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ จนจิตนั้นพ้นทุกข์ ..แล้วท่านก็ยังต้องประคองสังขาร อยู่ต่อไปอีก ทำให้กายนั้นบริสุทธิ์ ก่อนเจ้าพระนิพพาน ..บางพระองค์ก็อธิษฐาน อยู่จนครบห้าพันปี ตามที่พระพุทธเจ้าท่านอธิฐานไว้
โฆษณา