18 ส.ค. เวลา 15:53 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

ทำไมเราถึงเลิกผลิต “ไอน์สไตน์”?

บทความนี้น่าสนใจดีครับ
เคยสงสัยกันไหมว่า ในยุค 2000s ที่ใครๆ ก็เข้าถึงความรู้ได้แทบฟรีผ่านอินเตอร์เน็ต แถมยังมี AI ช่วย แต่ทำไมกลับไม่มี “มหาอัจฉริยะ” เกิดขึ้นตามที่คาดไว้ อาจตรงข้าม ดูเหมือนอัจฉริยะจะลดลงเสียด้วยซ้ำ
ในสมัยอดีต เรามีอัจฉริยะดังๆ หลายคน เช่น Einstein, Newton, Feynman แต่เดี๋ยวนี้ เราแทบนึกถึงใครไม่ออก จนนิตยสารหลายหัวพูดถึงเรื่องนี้กัน เช่น Nature (“Scientific genius is extinct”), The New Statesman (“The fall of the intellectual”), Chronicle of Higher Education (“Where have all the geniuses gone?”), Wired, Schwitzgebel เป็นต้น
Hoel สันนิษฐานว่า “การสอนแบบราชวงศ์ (aristocratic tutoring)” เคยเป็นการผลิตอัจฉริยะ คนดังระดับอัจฉริยะ เช่น Einstein, von Neumann, Bertrand Russell ต่างเคยได้รับการสอนแบบตัวต่อตัวจากผู้รู้ชั้นยอด ที่ทั้งสอนและสร้างความคิดสัมพันธ์ ส่วนโรงเรียนปัจจุบันไม่ทำแบบนั้นอีก
การสอนแบบนั้น (tutoring) ไม่ใช่สิทธิ์สังคมทุกคน ได้เฉพาะชนชั้นสูงเท่านั้น ขยายระบบให้ทุกคนได้มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย พอไม่ได้ก็อาจส่งผลให้มีอัจฉริยะน้อยลง
แผนภูมิที่น่าสนใจในบทความคือ สัดส่วนนักวิทยาศาตร์ และนักศิลปะ ต่อสัดส่วนประชากร จาก Where’s today’s Beethoven? จาก Cold Takes ที่แสดงให้เห็นว่า มีสัดส่วนที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ส่วนตัวผมว่าจริง ในอดีตสมัยหนึ่ง คนเก่งๆ มักออกมาตั้งสำนัก รวบรวมเด็กที่เป็น elite มาสอนกัน มีการถกเถียงกันเอง มีโอกาสได้คุยกับผู้ใหญ่ที่เก่งๆ ทำให้เกิดการพัฒนาอย่างรวดเร็ว
การบังคับให้เด็กมาเรียนในชั้นเรียน แล้วป้อนสิ่งที่เด็กควรเรียนรู้ และต้องเรียนไปพร้อมๆ กันในชั้นเรียนใหญ่ๆ เป็นการจำกัดศักยภาพเด็กไปมาก เพื่อแลกกับต้นทุนการศึกษาที่ถูกลง
อีกอย่าง ในสมัยก่อนไม่มีสิ่งยั่วยวนใจเหมือนใจสมัยนี้ เด็กมีเวลาสังเกตสิ่งรอบตัว มีเวลาสงสัย มีเวลาหาคำตอบ มีเวลาค่อยๆ เรียนรู้ตาม pace ของตัวเอง
เพื่อนๆ ล่ะอยากให้ลูกตัวเองเป็นอัจฉริยะบ้างไหม?
โฆษณา