เมื่อวาน เวลา 06:49 • ข่าวรอบโลก

📌 เบื้องหลังรอยยิ้มพนักงาน อาจเป็นระเบิดเวลาลูกใหม่ในออฟฟิศ?

คุณได้สังเกตบ้างไหมว่าในออฟฟิศยุคใหม่ตอนนี้ อาจมีคลื่นใต้น้ำลูกใหญ่ก่อตัวขึ้นอย่างเงียบเชียบ ซึ่งปรากฏการณ์นี้เรียกว่า Quiet Cracking หรือภาวะที่แตกร้าวอยู่ในใจเงียบ ๆ กำลังกลายเป็นวิกฤตที่กัดกินประสิทธิภาพและจิตใจของพนักงานทั่วโลก และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างประเมินค่าไม่ได้ ด้วยตัวเลขการสูญเสียผลผลิตที่สูงถึง 438 พันล้านดอลลาร์ ในปีที่ผ่านมา ท่ามกลางพนักงานกว่า 54% ที่ยอมรับว่าพวกเขารู้สึกไม่พอใจในงานของตนเอง
🔸เสียงของรอยร้าวที่มองไม่เห็น
Quiet Cracking ไม่ใช่การลาออกอย่างเงียบเชียบแบบ Quiet Quitting แต่มันคือสถานการณ์ที่พนักงานยังคงทุ่มเททำงานตามปกติ ทว่าภายในใจกลับเต็มไปด้วยความเครียด ความเหนื่อยล้า และความรู้สึกหมดไฟ โดยไม่สามารถหรือเลือกที่จะไม่แสดงความรู้สึกเหล่านั้นออกมา
Martin Poduška บรรณาธิการและนักเขียนด้านอาชีพจาก Kickresume อธิบายปรากฏการณ์นี้ว่า “สัญญาณที่บ่งบอกถึงการเกิด Quiet Cracking มักจะคล้ายกับอาการเบิร์นเอาท์อย่างยิ่ง เช่น การขาดแรงจูงใจอย่างเห็นได้ชัด และการสูญเสียความกระตือรือร้นในการทำงานที่เคยมี”
มันคือภาวะที่พนักงานรู้สึกเหมือนเปลือกไข่ที่เปราะบาง พร้อมจะแตกร้าวได้ทุกเมื่อ แต่ยังต้องประคองตัวเองให้ดูสมบูรณ์แบบที่สุดต่อไป
🔸เสียงของพนักงานที่หายไป
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้พนักงานจำนวนมากเลือกที่จะเก็บงำความรู้สึกเจ็บปวดนี้ไว้? คำตอบนั้นซับซ้อนและสะท้อนภาพความเปราะบางของตลาดแรงงานปัจจุบัน ซึ่งพนักงานจำนวนมากรู้สึกว่าตนเอง ‘ติดอยู่’ ในตำแหน่งที่ไม่มีโอกาสเติบโต แต่ความกลัวที่จะสูญเสียความมั่นคงทางอาชีพในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ทำให้พวกเขาไม่กล้าที่จะแสดงความไม่พอใจหรือส่งเสียงใด ๆ ออกไป การเงียบและทำงานต่อไปจึงกลายเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด แม้จะต้องแลกมาด้วยความสุขที่หายไปก็ตาม
ปัญหานี้ถูกซ้ำเติมโดยกำแพงระหว่างผู้จัดการและพนักงาน จากการสำรวจล่าสุดโดย TalentLMS พบว่า 47% ของพนักงานที่กำลังเผชิญกับภาวะ Quiet Cracking ระบุอย่างชัดเจนว่า หัวหน้าของพวกเขาไม่เคยรับฟังความคิดเห็นหรือความกังวลของพวกเขาเลย ซึ่งยิ่งผลักให้พนักงานจมดิ่งลงไปในความเงียบงัน
🔸ภัยเงียบที่กัดกินจากภายใน
ความน่ากังวลที่สุดของ Quiet Cracking คือการที่มันเป็นปัญหาที่สังเกตได้ยากอย่างยิ่ง
“มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะสังเกตเห็นเมื่อ Quiet Cracking กำลังเกิดขึ้น” Poduška กล่าวเตือน “คุณอาจจะกำลังเริ่มรู้สึกถึงอาการนี้อยู่ก็ได้ แต่คุณอาจไม่รู้ตัว เพราะมันเป็นภาวะที่ใช้เวลานานกว่าจะแสดงอาการออกมาให้เห็นชัดเจน” คำพูดของเขาตอกย้ำว่านี่คือภัยเงียบที่อาจกำลังกัดกินเพื่อนร่วมงาน หรือแม้กระทั่งตัวคุณเองอยู่โดยไม่รู้ตัว
🔸แล้วเราจะประสานรอยร้าวนี้ได้อย่างไร?
การหยุดยั้งวิกฤตนี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งสองฝ่าย ทั้งนายจ้างและลูกจ้างต้องเผชิญหน้ากับความจริงและเริ่มสร้างการเปลี่ยนแปลง ซึ่งสำหรับองค์กร การสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยทางจิตใจ การสื่อสารที่เปิดกว้าง และการลงทุนในการพัฒนาทักษะของพนักงาน คือหัวใจสำคัญในการป้องกันไม่ให้รอยร้าวนี้ขยายวงกว้าง
“การหาสาเหตุที่แท้จริงของความไม่พอใจอาจเป็นกุญแจสำคัญในการหยุด Quiet Cracking” Poduška ให้คำแนะนำ “สำหรับพนักงาน หากคุณรู้สึกว่าไม่มีโอกาสในการพัฒนาในบทบาทปัจจุบัน การลองพูดคุยกับหัวหน้าเกี่ยวกับแผนการพัฒนาอาชีพสามารถช่วยให้คุณมองเห็นเป้าหมายในการทำงานและกระตุ้นแรงจูงใจได้อีกครั้ง”
ในโลกของการทำงานที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว สุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่มันคือความจำเป็นเร่งด่วน หากองค์กรเพิกเฉยต่อ ‘ความเจ็บปวด’ ที่ส่งเสียงอยู่ในใจของพนักงาน วันหนึ่งเสียงนั้นอาจเงียบหายไปพร้อมกับการสูญเสียบุคลากรที่มีคุณภาพไปในที่สุด
คุณคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ ลองแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนกันได้เลย
#BusinessTomorrow #QuietCracking #ภาวะหมดไฟ #WorkLifeBalance
โฆษณา