24 ส.ค. เวลา 09:00 • สิ่งแวดล้อม

“เมฆระเบิด” (Cloudburst) คืออะไร ทำไมถึงเป็นตัวการที่ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในอินเดียและปากีสถาน

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อฤดูมรสุมของเอเชียอย่างชัดเจน ขณะนี้ปรากฏการณ์ “เมฆระเบิด” กำลังพัดถล่มอินเดียและปากีสถานอย่างหนัก หลายร้อยคน ทำให้เกิดฝนตกหนักในช่วงเวลาสั้น ๆ จนเกิดน้ำท่วมฉับพลันที่รุนแรงและรุนแรงนี้คร่าชีวิตผู้คนหลายร้อยคนทั้งสองประเทศ
“เมฆระเบิด” เป็นปรากฏการณ์ทางสภาพอากาศที่ซับซ้อนและรุนแรง โดยกลุ่มเมฆจะแตกออกและเคลื่อนที่ออกไป ทำให้เกิดฝนตกหนักในช่วงเวลาสั้น ๆ คล้ายกับ “Rain Bomb” จนทำให้มีปริมาณน้ำฝนมากกว่า 100 มม. ภายในหนึ่งชั่วโมง ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 30 ตร.กม.
เมฆระเบิดเกิดขึ้นอย่างฉับพลันและรุนแรง ก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรงและความเสียหายอย่างกว้างขวาง โดยมีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์นี้ ได้แก่ อากาศอุ่นชื้นลอยตัวขึ้น ความชื้นสูง ความกดอากาศต่ำ ความไม่เสถียร และการก่อตัวของเมฆแบบพาความร้อน
อากาศชื้นถูกบังคับให้ลอยตัวขึ้นหลังจากสัมผัสกับเนินเขาหรือภูเขา อากาศที่ลอยตัวขึ้นนี้จะเย็นลงและควบแน่น ก่อตัวเป็นเมฆขนาดใหญ่ หนาแน่น และสามารถทำให้เกิดฝนตกหนักได้ เมื่อเจอกับเนินเขาหรือภูเขาทำหน้าที่เป็นกำแพงกั้นและมักกักเก็บเมฆเหล่านี้ไว้ ทำให้เมฆไม่สามารถกระจายตัวหรือเคลื่อนที่ได้ง่าย กระแสลมแรงพัดขึ้นด้านบนทำให้ความชื้นถูกกักเก็บไว้ในเมฆ ทำให้ฝนตกช้ากว่าที่ควรจะเป็น
เมื่อเมฆไม่สามารถกักเก็บความชื้นที่สะสมไว้ได้อีกต่อไป เมฆจะแตกออกและปลดปล่อยความชื้นออกมาพร้อมกันกลายเป็นฝนตกหนักในช่วงสั้น ๆ
อินเดียและปากีสถานถือเป็นพื้นที่ที่เกิดเมฆระเบิดได้ง่าย เนื่องจากมีองค์ประกอบที่เหมาะสม ทั้งความชื้น ฤดูมรสุม และภูมิประเทศแบบภูเขา เมื่อทั้ง 3 องค์ประกอบมารวมกันจะบังคับให้ลมที่อบอวลไปด้วยความชื้นเหล่านี้พัดขึ้นด้านบน ทำให้เกิดการควบแน่นและเมฆฝนกระหน่ำอย่างฉับพลัน
ในตอนนี้เมฆระเบิดเกิดในสองประเทศนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากบรรยากาศที่อบอุ่นขึ้น มวลอากาศที่อุ่นกว่าสามารถกักเก็บความชื้นไว้ได้มากขึ้น ทำให้เกิดสภาวะที่ฝนตกหนักฉับพลันและรุนแรง
การคาดการณ์การเกิดเมฆระเบิดเป็นเรื่องยาก เนื่องจากมีขนาด ระยะเวลา ความฉับพลัน และกลไกทางบรรยากาศที่ซับซ้อน แต่สามารถป้องกันไว้ก่อนได้
โฆษณา