🛖 ฮัลล์สตัทท์ หมู่บ้านมรดกโลกแห่งดินแดนสุดวินเทจ 🇦🇹
หากใครเคยมีโอกาสได้เดินทางไปท่องเที่ยวทวีปยุโรปมาแล้ว น่าจะเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วในเรื่องของบรรยากาศ ท้องถนนหนทาง ภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะที่หนาวเย็น และสำหรับหมู่บ้านมรดกโลกแห่งนี้ก็เช่นกัน เป็นหนึ่งในสถานที่สุดสวยงามและโรแมนติกไม่แพ้ที่ท่องเที่ยวใดเลย
หมู่บ้านแห่งนี้มีชื่อว่า "ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt)" ตั้งอยู่ในรัฐโอแบร์เอิสเตอร์ไรช์ หรือรัฐอัปเปอร์ (Oberosterreich) เมืองซัลทซ์คัมเมอร์กูท (Salzkammergut) ประเทศออสเตรีย
หมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt)
หมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ อยู่ติดริมทะเลสาปที่มีชื่อเดียวกับหมู่บ้าน คือทะเลสาบฮัลล์สตัทท์ (Hallstätter See) และยังถูกล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอลป์เป็นแนวยาว ดังนั้นสภาพอากาศในหมู่บ้านแห่งนี้จึงเย็นสบายแม้กระทั่งช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี อุณหภูมิยังเย็นสบายราวๆ 10-25 องศา
หมู่บ้านแห่งนี้มีบ้านเรือนที่ส่วนใหญ่ตกแต่งในสไตล์ชนบท เน้นความเป็นธรรมชาติ และชอบความสงบเงียบ เป็นระเบียบ หากเดินทางไปถึงที่หมู่บ้านแล้ว จะพบกับป้ายประกาศใหญ่บริเวณทางเข้าว่าห้ามส่งเสียงดัง ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่แนะนำว่านักท่องเที่ยวควรต้องปฏิบัติตามนะคะ
เนื่องจากหมู่บ้านอยู่ตามแนวริมทะเลสาบ ดังนั้นการเดินทางเข้าหมู่บ้านส่วนใหญ่จะเน้นการเดิน หากอยากเห็นความสวยงามอย่างแท้จริง จุดชมวิวและจุดที่นักท่องเที่ยวชอบเข้าไปเยี่ยมชมมากที่สุด และเป็นมุมถ่ายรูปสุดฮิต จะเป็นเชิงสะพานภายในหมู่บ้าน ที่ต้องเดินทะลุเข้าหมู่บ้านไปด้านใน จากที่ได้เดินเข้าไปสัมผัสมาแล้ว ต้องได้เห็นด้วยตาตัวเองว่าสวยงามมากจริงๆ
ทางเข้าหมู่บ้านและลานจอดรถสำหรับนักท่องเที่ยว
เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางถึงหมู่บ้านแล้ว จะเห็นทะเลสาปฝั่งตรงข้าม พร้อมกับหมู่บ้านริมเชิงเขาเป็นแนวยาว ในส่วนนี้จะมีลาดจอดรถสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ เพื่อความเป็นระเบียบร้อยร้อย และการท่องเที่ยวที่ไม่วุ่นวาย
คนที่นี่รักความเป็นสงบมากๆ ดังนั้นการเยี่ยมชมด้วยการถ่ายรูปพร้อมกับการดื่มด่ำบรรยากาศภายในหมู่บ้าน เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวเลยล่ะ
บรรยากาศทางเดินเข้าหมู่บ้านฮัลล์สตัทท์
ความสวยงามของบ้านเรือนที่มีหลากสีพาสเทลสไตล์ชนบท ทำให้หมูบ้านนี้เป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลก นอกจากนี้ภายในหมู่บ้านยังมีกิจกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการนั่งเรือชมทิวทัศน์ริมทะเลสาบ กิจกรรมปั่นจักรยาน หรือการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ดั้งเดิมของหมู่บ้าน โบถส์ทางวัฒนธรรมฮัลล์สตัทท์ และสำหรับสถานที่พลาดไม่ได้เลยคือการนั่งกระเช้าชมเหมืองเกลือโบราณ
หมู่บ้านแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่ยุคเหล็กตอนต้น (800-450 ปีก่อนคริสตกาล) อดีตเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเคลต์ มีเหมืองเกลืออยู่ภายในหมู่บ้าน ที่นี่จึงขึ้นชื่อเรื่องการผลิตเกลือซึ่งมีอายุย้อนไปได้ถึงช่วงเวลาก่อนประวัติศาสตร์ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของชื่อ "วัฒนธรรมฮัลล์สตัทท์" เป็นวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับชาวเคลต์และกลุ่มชนก่อนอิลลิเรียในยุคเหล็กตอนต้น
ด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงามจากเทือกเขาแอลป์ล้อมรอบหมู่บ้านที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ชนบท รวมไปถึงเหมืองเกลือที่เกิดจากธรรมชาติในชั้นใต้ดิน จนเกิดการดำรงชีพของคนในหมู่บ้าน และได้ก่อร่างสร้างหมู่บ้านแห่งนี้ให้มีความเจริญรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 8 ก่อนคริสต์ศักราชเป็นต้นมา สิ่งเหล่านี้เป็นหลักฐานทางโบราณคดีแสดงให้เห็นว่าสังคมยุคเหล็กมีความเจริญรุ่งเรือง และเหตุนี้เองที่ทำให้หมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt)ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก unesco และเป็นที่รู้จักกว้างขวางต่อผู้คนทั่วโลก
โบสถ์ลูเธอรันฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt Lutheran Church)
หากใครที่เดินเท้าเข้าไปภายในหมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) จะพบกับโบถส์ลูเธอรันฮัลล์สตัทท์ ซึ่งเป็นโบถส์ที่ตั้งอยู่บริเวณใจกลางของหมู่บ้าน โบถส์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่สำหรับให้ผู้คนในหมู่บ้านสวดมนต์ในเดือนตุลาคม พ.ศ.2406 ตามคําสั่งของจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟที่ 1
หลังจากเหตุการณ์ต่อต้านอำนาจในศตวรรษที่ 16 และการปราบปรามการกบฏจากกองทหารของอาร์ชบิชอปแห่งซาลซ์บูร์ก ทำให้กองทัพทหารและผู้คนบางส่วนต้องอพยพภายใต้เงามืดด้วยเรือขนส่งเกลือไปยังทรานซิลเวเนีย
และเหตุการณ์นี้เองที่ทำให้หมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) มีผู้คนและชาวเหมืองเกลือ ที่ยังอาศัยอยู่ในหมู่บ้านส่วนหนึ่งยอมรับว่ามีความศรัทธาในอีแวนเจลิคัล หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "นิกายโปรเตสแตนต์" จนในที่สุดความศรัทธานี้ได้รับการอนุญาตให้คนที่นับถือนิกายนี้ สามารถสวดมนต์ตามความศรัทธานิกายโปรเตสแตนต์ของตนเองแบบจํากัดเพียงบางกลุ่มจากจักรพรรดิโจเซฟที่ 2
ภายในห้องโถงสวดมนต์
หลังจากผ่าน "สิทธิบัตรโปรเตสแตนต์" ของจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟที่ 1 ผู้เผยแพร่ศาสนาให้ทุกคนได้รับการรับรองสิทธิอย่างเต็มที่ในการเป็นพลเมืองและความเท่าเทียมกันในชีวิตนักบวชและการเมือง ตั้งแต่ครั้งนั้นศรัทธาอีแวนเจลิคัล หรือ นิกายโปรเตสแตนต์ ก็ได้รับความเท่าเทียมอย่างสมบูรณ์กับนิกายคาทอลิกภายในหมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt)
ด้วยสถานที่ของโบถส์ลูเธอรันฮัลล์สตัทท์ ตั้งอยู่ใจกลางของหมู่บ้าน ทำให้มีการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมอยู่เป็นประจำ รวมไปถึงนักดนตรีจากทั่วทุกมุมโลกที่สนใจในกิจกรรมลักษณะนี้ก็ล้วนแต่พากันเดินทางมาร่วมเล่นดนตรีร้องเพลงกันที่โบถส์แห่งนี้ด้วยเช่นกัน
บ้านเรือนหลากสีสไตล์ชนบท
ยิ่งเดินเข้าไปใจกลางหมู่บ้าน ยิ่งทำให้พบกับความสวยงามของอาคารบ้านเรือนที่ดูแปลกตาและสวยงามมาๆ เพราะบ้านเรือนแต่ละหลัง ตกแต่งด้วยต้นไม้ ดอกไม้เมืองหนาวที่บานสะพรั่งตลอดการเดินเท้าของนักท่องเที่ยว
จัตุรัสกลางเมืองฮัลล์สตัทท์ (Central square)
และถ้าหากเดินไปถึงช่วงกลางของหมู่บ้านจะพบกับจัตุรัสกลางเมืองฮัลล์สตัทท์ (Central square) มีม้านั่งจัดเรียงไว้เสมือนจุดนัดพบของคนในหมู่บ้าน เพื่อทำกิจกรรมเล็กๆ และสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการแวะพัก จตุรัสแห่งนี้มักมีนักท่องเที่ยวและผู้คนในหมู่บ้านนั่งพักผ่อน พบปะพูดคุยกันอยู่ไม่ขาดสายในทุกวัน ซึ่งบริเวณแห่งนี้ทำให้มองเห็นทิวทัศน์โดยรอบของอาคารบ้านเรือนที่มีสีสวยได้อย่างชัดเจน นับว่าเป็นอีกจุดหนึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมาย
อีกหนึ่งความสวยงามที่ธรรมชาติสรรค์สร้างให้กับเหล่าสัตว์เลี้ยงของหมู่บ้านที่ใช้ชีวิตตามธรรมชาติริมทะเลสาป สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเยี่ยมชมหมู่บ้านแห่งนี้ จะได้พบกับสัตว์น่ารักเหล่านี้เป็นประจำ ที่จะรอต้อนรับนักท่องเที่ยวในทุกวัน
ริมท่าน้ำลงทะเลสาป
ภายในหมู่บ้านจะมีท่าน้ำให้เพียงบางจุดที่สามารถให้นักท่องเที่ยวลงไปทักทายสัตว์ที่เล่นน้ำ หรือลงไปยืนถ่ายรูปได้เช่นกัน น้ำในทะเลสาปแห่งนี้กว้างยาวมาก สามารถทำกิจกรรมได้หลายอย่าง เนื่องจากทะเลสาปฮัลล์สตัทท์แห่งนี้มีพื้นน้ำราว 8.5 ตารางกิโลเมตร รับน้ำที่ไหลเข้ามาจากแม่น้ำเทราน์ (Traunsee) ก่อนไปบรรจบกับแม่น้ำดานูบบริเวณเมืองลินซ์ (Linz) รัฐอัปเปอร์ ออสเตรีย
ต้นพรุนป่า
ช่วงเดือนเมษายน จะเห็นต้นไม้เปลี่ยนกันทั้งเมือง และหนึ่งในต้นที่สวยงามมากๆ มองไกลๆ คล้ายกับดอกซากุระของประเทศญี่ปุ่น แต่แท้ที่จริงแล้ว ต้นไม้ที่หน้าตาคล้ายดอกซากุระนี้คือ "ต้นดอกพรุนป่า" เป็นต้นไม้ที่ให้กลีบดอกไม้ 5 สีในดอกเดียว มีชื่อสกุลว่า Prunus ในวงศ์กุหลาบ ไม่มีกลิ่นหอมแต่ให้สีสันของดอกไม้สวยงามสะดุดตามากๆ เลยทีเดียว
ภายในหมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) จะปลูกต้นดอกพรุนป่าไว้ตั้งแต่บริเวณทางเข้าหมู่บ้านตลอดแนวทางเดิน ทำให้เวลาที่ต้นไม้ออกดอกบานสะพรั่ง ตลอดแนวถนนดูสวยงามเหมือนดินแดนเทพนิยายกันเลยทีเดียว
สำหรับการท่องเที่ยวชมหมู่บ้านฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt) นับเป็นหนึ่งสถานที่ในฝันที่ยังทำให้อยากเดินทางไปเที่ยวชมอีกครั้ง เพราะเป็นหมู่บ้านมรดกโลกที่มีเสน่ห์และสวยงามมากจริงๆ
ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติม
🔗 Hallstatt-Dachstein / Salzkammergut Cultural Landscape
- 3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
