21 ส.ค. เวลา 06:20 • ไอที & แก็ดเจ็ต

สรุปดีเทล Pixel 10 Series ที่ Google เพิ่งเปิดตัว ประมวลผล AI เร็วขึ้น 2 เท่า

เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา Google เพิ่งจัดงาน Made by Google ซึ่งเป็นงานเปิดตัวสินค้า และอุปกรณ์เสริมใหม่จาก Google ที่จัดเป็นประจำทุกปี
โดยปีนี้มีพระเอกคือ Google Pixel 10 Series ซึ่งเป็นสมาร์ตโฟนที่ใส่ชิป Tensor G5 พร้อมผสานการทำงานกับ Gemini Nano เพื่อประมวลผล AI ภายในเครื่องโดยเฉพาะ ทำให้สามารถประผลมวลงานด้าน AI ได้เร็วขึ้นกว่าเดิมประมาณ 2 เท่า
นอกจากนี้ Google ยังอัปเดตฟีเชอร์ AI ใหม่ ๆ และเปิดตัวอุปกรณ์อื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น
- นาฬิกาสมาร์ตวอตช์ Pixel Watch 4
- หูฟัง Pixel Buds 2a
- อุปกรณ์เสริมสำหรับชาร์จไร้สาย
แล้วแต่ละอุปกรณ์ และฟีเชอร์มีอะไรน่าสนใจบ้าง ?
1. Google Pixel 10 Series
สมาร์ตโฟน Pixel 10 ประกอบไปด้วย Pixel 10, Pixel 10 Pro, Pixel 10 Pro XL และสมาร์ตโฟนจอพับ Pixel 10 Pro Fold โดยสเปกแต่ละรุ่นมีความแตกต่างกัน ได้แก่
- หน้าจอ
Pixel 10 มีหน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว
ใช้หน้าจอแบบ Smooth Display อัตรารีเฟรชเรตอยู่ที่ 60-120Hz
Pixel 10 Pro มีหน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว
ใช้หน้าจอแบบ Smooth Display อัตรารีเฟรชเรตอยู่ที่ 1-120Hz
Pixel 10 Pro XL มีหน้าจอขนาด 6.8 นิ้ว
ใช้หน้าจอแบบ Smooth Display อัตรารีเฟรชเรตอยู่ที่ 1-120Hz
Pixel 10 Pro Fold มีหน้าจอภายนอกขนาด 6.4 นิ้ว
ใช้หน้าจอแบบ Smooth Display อัตรารีเฟรชเรตอยู่ที่ 60-120Hz
และเมื่อกางออก จะมีหน้าจอขนาด 8 นิ้ว ใช้หน้าจอแบบ Smooth Display อัตรารีเฟรชเรตอยู่ที่ 1-120Hz
มีความหนาของเครื่องเมื่อพับหน้าจออยู่ที่ 6.6 มม.
- แบตเตอรี่
Pixel 10 มีความจุแบตเตอรี่ 4,970 mAh
Pixel 10 Pro มีความจุแบตเตอรี่ 4,870 mAh
Pixel 10 Pro XL มีความจุแบตเตอรี่ 5,200 mAh
Pixel 10 Pro Fold มีความจุแบตเตอรี่ 5,015 mAh
- หน่วยความจำ และชิปประมวลผล
สมาร์ตโฟนทั้ง 3 รุ่น ได้ใช้งานชิปประมวลผล Google Tensor 5 พร้อมกับชิปป้องกันด้านความปลอดภัย Titan M2 security coprocessor
Pixel 10 มี Ram ขนาด 12GB
มาพร้อมหน่วยความจำ 2 ขนาดคือ 128GB และ 256GB
Pixel 10 Pro มี Ram 16GB
มาพร้อมหน่วยความจำ 4 ขนาดคือ 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB
Pixel 10 Pro XL มี Ram 16GB
มาพร้อมหน่วยความจำ 3 ขนาดคือ 256GB, 512GB และ 1TB
Pixel 10 Pro Fold มี Ram 16GB
มาพร้อมหน่วยความจำ 3 ขนาดคือ 256GB, 512GB และ 1TB
- กล้อง
Pixel 10 มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว
ประกอบด้วย กล้องหลัก 48MP รองรับการถ่ายมาโคร, กล้อง Ultra-Wide 13MP, กล้อง Telephoto 10.8MP รองรับการซูมสูงสุด 20 เท่า และกล้องหน้า 10.5MP
มาพร้อมระบบ Autofocus
Pixel 10 Pro และ Pixel 10 Pro XL มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว
ประกอบด้วย กล้องหลัก 50MP, กล้อง Ultra-Wide 48MP รองรับการถ่ายมาโคร, กล้อง Telephoto 48MP รองรับการซูมสูงสุด 100 เท่า และกล้องหน้า 42MP มาพร้อมระบบ Autofocus
Pixel 10 Pro Fold มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วย
กล้องหลัก 48MP รองรับการถ่ายมาโคร, กล้อง Ultra-Wide 13MP, กล้อง Telephoto 10.8MP รองรับการซูมสูงสุด 20 เท่า และกล้องหน้า 10.5MP ทั้งจอนอก และจอใน แต่ไม่มีระบบ Autofocus
- ระยะเวลาการอัปเดต
ข่าวดีคือ สำหรับผู้ใช้งาน Google Pixel 10 Series ทั้ง 4 รุ่น จะได้รับการอัปเดตความปลอดภัย และ OS ยาวนานถึง 7 ปี
- สีตัวเครื่อง และราคา
Pixel มีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Indigo(น้ำเงิน), Frost(ฟ้า), Lemongrass(เหลือง), Obsidian(ดำ)
Pixel 10 Pro และ Pixel 10 Pro XL มีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Moonstone(เทา), Jade(เขียว), Porcelain
(ครีม), Obsidian(ดำ)
Pixel 10 Pro Foldl มีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Moonstone(เท่า), Jade(เขียว)
โดยราคาเริ่มต้นของแต่ละรุ่น ได้แก่
Pixel 10 ราคาความจุเริ่มต้น 799 USD (ประมาณ 26,000 บาท)
Pixel 10 Pro ราคาความจุเริ่มต้น 999 USD ( ประมาณ 32,500 บาท)
Pixel 10 Pro XL ราคาความจุเริ่มต้น 1,199 USD ( ประมาณ 39,000 บาท)
Pixel 10 Pro Fold ราคาความจุเริ่มต้น 1,799 USD ( ประมาณ 58,500 บาท)
2. อุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ที่เปิดตัวเพิ่มเติม
- Pixel Watch 4 นาฬิกาสมาร์ตวอตช์ที่มาพร้อมผู้ช่วย AI ในชีวิตประจำวันอย่าง Gemini ออกแบบมาเฉพาะสมาร์ตโฟนแอนดรอยด์ และ Google Pixel ประกอบไปด้วย 2 ขนาด คือ 41 มม. และ 45 มม.
มาพร้อมฟีเชอร์เด็ด ๆ อย่าง ตรวจจับการออกกำลังกายทันทีได้กว่า 40 รูปแบบ, ตรวจจับความเครียดภายในวัน, ตรวจจับอัตราการหายใจตลอดวัน, เช็กเวลานอนว่ามีการหลับลึกในเวลาที่เหมาะสมหรือไม่
นอกจากนี้ยังมีระบบตรวจจับอันตรายที่เกิดขึ้น และพร้อมโทรเรียกเหตุฉุกเฉินให้ทันที
โดยราคาเริ่มต้นของ Pixel Watch 4 อยู่ที่ 349.99 USD (ประมาณ 11,300 บาท)
- หูฟัง Pixel Buds 2 Pro และ Pixel Buds 2a หูฟังที่มาพร้อมชิปประมวลผล AI
หูฟัง Pixel Buds 2 ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมชิปประมวลผล Google Tensor A1 ซึ่งช่วยในเรื่องการประมวลผล AI โดยจะเกี่ยวข้องกับเสียง เช่น การปรับเสียงรบกวนให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม, การป้องกันเสียงจากสภาพแวดล้อมที่ดังเกินไป
นอกจากนี้ ยังสามารถเรียกใช้งาน Gemini ผ่านหูฟังได้อีกด้วย พูดง่าย ๆ ก็คือ สามารถสั่งงานสมาร์ตโฟน หรือใช้งาน AI ผ่านหูฟังได้เลย
ซึ่งความต่างของรุ่น Pro และ 2a คือ รุ่น 2a จะไม่สามารถลดเสียงสภาพแวดล้อมได้, ไม่สามารถเพิ่มหรือลดเสียงผ่านตัวหูฟังได้, ระยะเวลาในการใช้งานได้น้อยกว่ารุ่น Pro ประมาณ 10 ชั่วโมง
โดยราคา
Pixel Buds 2 Pro อยู่ที่ 229 USD (ประมาณ 7,400 บาท)
Pixel Buds 2a (ประมาณ 4,200 บาท)
3. ฟีเชอร์ AI ใหม่ในสมาร์ตโฟน
- แต่งรูปด้วย Gemini ได้ทันที
แค่เปิดรูปที่ต้องการแต่ง แล้วเรียก Gemini ออกมาใช้งาน พร้อมพิมพ์คำสั่งได้เลยว่า ต้องการให้รูปออกมาแบบไหน เพราะบางที่รูปที่ถ่ายอาจไม่ตรง, ติดคนเยอะ, มีรอยนิ้วบังกล้อง ก็สามารถสั่งงาน Gemini ให้แก้ไขได้ทันที
- Magic Cue ช่วยในการทำงานระหว่างแอปพลิเคชัน
อธิบายง่าย ๆ ก็คือ สมมติว่าเพื่อนถามว่า วันเกิดเราไปฉลองที่ไหน ?
Magic Cue จะดึงข้อมูลที่เราเคยบันทึกมาให้ เพื่อให้เราสามารถกดส่งรายละเอียดได้ทันที โดยที่ไม่ต้องเปิดค้นหาใหม่ทีละแอปพลิเคชัน
ที่น่าสนใจคือ Magic Cue จะสรุปสิ่งที่เราใช้งานประจำมาให้ในหน้าต่าง Daily Hub ไม่ว่าจะปฏิทินวันสำคัญ, เพลงที่ฟังประจำ หรือกิจกรรมที่ใช้งานสมาร์ตโฟนบ่อย ๆ จะขึ้นมาในหน้าต่าง
- อัปเกรด NotebookLM มาใส่ในสมาร์ตโฟน Pixel
อธิบายง่าย ๆ ก็คือ เมื่อเราจดบันทึกอะไร สมาร์ตโฟนจะค้นหารูปภาพหรือไฟล์ใกล้เคียงกับที่บันทึก และสามารถนำมาใส่ในบันทึกบน NotebookLM ได้ทันที เพื่อที่จะทำให้การจดบันทึกสมบูรณ์แบบมากขึ้น
นอกจากนี้ หากเคยบันทึกเสียงสนทนา ก็สามารถดึงมาใช้งานบน NotebookLM ได้อัตโนมัติได้ด้วย
- มีตัวช่วยการเขียนมาให้ใช้งาน
อธิบายให้เห็นภาพก็คือ สมมติเราจะพิมพ์หาหัวหน้า แต่ไม่รู้ว่าต้องใช้คำอย่างไรให้เหมาะสม ก็สามารถเรียกใช้งาน AI แล้วพิมพ์คำสั่งได้เลยว่าต้องการให้ออกมาในรูปแบบไหน เพียงแค่นี้ AI ก็จะปรับรูปแบบข้อความให้ทันที และให้เราตรวจทานก่อนส่งข้อความ
- สามารถสร้างเพลงผ่านแอปพลิเคชันบันทึกเสียงบนสมาร์ตโฟน
เพียงแค่บันทึกเสียงร้อง และเลือกสไตล์ดนตรีที่ต้องการ เพียงแค่นี้ AI ก็จะสร้างเพลงออกมาให้ได้ทันที
โฆษณา