🧿 “Muketing การตลาดสายมู”
เมื่อแบรนด์ต้องการ "พลังเหนือเหตุผล" มาเพิ่มยอดขาย
“โลกของการตลาดไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยเหตุผลเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป”
เพราะผู้บริโภค...ไม่ได้ซื้อของด้วยตรรกะล้วนๆ แต่มี "ความเชื่อ" และ "พลังบางอย่าง" ที่แบรนด์ไม่ควรมองข้าม!
Muketing (มูเก็ตติ้ง) หรือ "การตลาดสายมู" จึงกลายเป็นอาวุธลับที่แบรนด์ใช้สร้าง Emotional Bonding กับลูกค้าอย่างลึกซึ้ง
และถ้าใครยังคิดว่า "ของมันต้องมี" เป็นแค่คำโปรยโฆษณา...คุณอาจยังไม่รู้ว่าเบื้องหลังมีองค์ประกอบของความเชื่อ ศรัทธา และจังหวะดวงดาวอยู่จริงๆ
====
🎯 1. ทำไม Muketing ถึงทรงพลัง? เพราะมันเล่นกับ "ใจ" ไม่ใช่แค่ "สมอง"
* ผู้บริโภคอาจไม่รู้ตัวว่าเหตุผลที่ซื้อกระเป๋าแบรนด์นี้ เพราะเชื่อว่าใช้แล้วจะ "ดวงขึ้น" หรือแหวนบางวงที่ใส่แล้วรู้สึก "มั่นใจขึ้นแบบไม่มีเหตุผล"
* Muketing ตอบโจทย์จุดนี้ด้วยการเชื่อมโยงแบรนด์เข้ากับพลังที่จับต้องไม่ได้ เช่น "สีมงคลประจำวัน" "ฤกษ์เปิดตัว" "ศาสตร์ฮวงจุ้ย"
* และที่สำคัญ มันสร้างจุดต่างในยุคที่ Functional Benefit ของสินค้าเริ่มเหมือนกันไปหมด
* 📌 Apple เคยถูกวิเคราะห์ว่าภาพลักษณ์ของแบรนด์และศาสดาอย่าง Steve Jobs สร้าง "ลัทธิ" หรือความศรัทธาได้อย่างมหาศาล ไม่ต่างจากการใช้ Muketing โดยไม่ได้ตั้งใจ
🌕 2. เมื่อจิตวิทยา + ความเชื่อ = ตะกร้าสินค้าเพิ่มขึ้น หลายแบรนด์เริ่มเข้าใจว่า "คนซื้อด้วยใจ แล้วหาเหตุผลมาอธิบายทีหลัง"
* ตัวอย่างเช่น Lazada และ Shopee ต่างก็เคยใช้กลยุทธ์วันมงคล เช่น วันที่ 9 เดือน 9 (9.9) ซึ่งมีพลังเชิงสัญลักษณ์เรื่องความเจริญก้าวหน้า มาสร้าง Flash Sale ที่ได้ผลดีอย่างไม่น่าเชื่อ
* หรือแบรนด์เสื้อผ้าไทยบางรายที่จัดคอลเลกชัน "เสื้อผ้าสีมงคล" ประจำวัน เกิดเป็นพฤติกรรมการซื้อซ้ำทุกสัปดาห์แบบไม่ต้องลดราคาเลย
🔮 3. Muketing ไม่ใช่เรื่องงมงาย...แต่คือศาสตร์แห่งความเข้าใจมนุษย์
* หลายองค์กรระดับโลกเริ่มให้ความสำคัญกับ consumer insight ที่ฝังรากลึกในวัฒนธรรม ความเชื่อ และพิธีกรรม เช่น
* Starbucks ในจีนเคยปรับดีไซน์ร้านสาขาใหญ่ให้มี "ตำแหน่งน้ำพุ" ที่เชื่อว่าจะเรียกโชคเข้ามา และออกแบบทิศทางการนั่งให้สอดคล้องกับฮวงจุ้ย
* Netflix เคยปรับกลยุทธ์โปรโมตซีรีส์ไทยด้วยการเชิญหมอดูชื่อดังมาไลฟ์สด แนะนำวันเวลาที่ควรดูซีรีส์ "เพื่อให้ดูแล้วชีวิตปัง"
* Uniqlo ร่วมมือกับศิลปินไทยสร้างคอลเลกชันเสื้อยืดลายยันต์ ที่ขายดีทั้งในไทยและต่างประเทศ
* Muketing จึงไม่ใช่แค่กลยุทธ์การขาย แต่คือการออกแบบประสบการณ์ที่คนรู้สึกได้...แม้จะอธิบายไม่ได้
🧘♀️ 4. แบรนด์ที่อยากเล่น Muketing ต้องเข้าใจ 3 ข้อนี้ก่อน
1. “ศรัทธาไม่มีสูตรสำเร็จ”: อย่าลอกสูตรของแบรนด์อื่นมาใช้ตรงๆ ต้องรู้ว่ากลุ่มเป้าหมาย "เชื่ออะไรจริงๆ"
2. “ต้องจริงใจ ไม่จงใจ”: ถ้าใช้ Muketing แค่เป็นลูกเล่น จะโดนแฉเร็วมาก ลูกค้ารู้ทันและ backlash รุนแรง
3. “การมูคือความสัมพันธ์”: การตลาดสายมูไม่ใช่แค่ "แถมวัตถุมงคล" แต่คือการออกแบบ journey ที่เสริมพลังใจให้ผู้บริโภค
====
🪄 Muketing จึงไม่ใช่แค่ขายของ...แต่มอบ "พลังบางอย่าง" ให้คนรู้สึกว่า "ฉันจะไปต่อได้อีกนิด เพราะมีสิ่งนี้อยู่กับฉัน"
และในยุคที่ผู้บริโภคเหนื่อยล้า การได้รู้สึกว่ามี "พลังที่มองไม่เห็น" อยู่เคียงข้าง...ก็อาจเป็น emotional moat ที่แข็งแกร่งที่สุดของแบรนด์
"ไม่ใช่ทุกอย่างที่จับต้องได้...แต่สิ่งที่จับใจได้ มักขายดีที่สุด"
#วันละเรื่องสองเรื่อง
#Muketing
#การตลาดสายมู
#MarketingTrends
#ConsumerBehavior
#BrandStrategy
#ความหวัง
#พลังใจ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
