23 ส.ค. เวลา 06:05 • การศึกษา
สาระ หรือ สาหร่าย By Charifkub

STEAM คืออะไร

โดย
ในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และ โลกต้องเผชิญกับความท้าทายที่ซับซ้อนมากขึ้น การศึกษาแบบ STEAM ซึ่งเป็นการต่อยอดจาก STEM โดยเพิ่มองค์ประกอบของศิลปะ (Arts) เข้าไป จึงกลายเป็นแนวทางการศึกษาที่สำคัญสำหรับศตวรรษที่ 21 บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ STEAM อย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่ความหมาย ความสำคัญ ไปจนถึงการประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง
1
  • ​1) STEAM คืออะไร
STEAM เป็นคำย่อจากภาษาอังกฤษ 5 สาขาวิชา ได้แก่
○ S - Science (วิทยาศาสตร์)
○ T - Technology (เทคโนโลยี)
○ E - Engineering (วิศวกรรมศาสตร์)
○ A - Arts (ศิลปะ)
○ M - Mathematics (คณิตศาสตร์)
แนวคิดนี้เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2006 โดย Georgette Yakman นักวิจัยที่ตระหนักว่าศิลปะสามารถนำความคิดสร้างสรรค์ และ นวัตกรรมที่ล้ำค่ามาสู่ระบบการศึกษา STEM ดั้งเดิม เธอจึงพัฒนาการศึกษาแบบ STEAM ขึ้น และ เริ่มนำมาใช้ในการเรียนการสอนจริงในปี ค.ศ. 2007
  • ​2) ความแตกต่างระหว่าง STEM กับ STEAM
2.1) ลักษณะ: สาขาวิชา
🔵 STEM: วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรมศาสตร์, คณิตศาสตร์
🟢 STEAM: เพิ่มศิลปะ (Arts) เข้ามา
2.2) ลักษณะ: จุดเน้น
🔵 STEM: การคิดวิเคราะห์ การใช้เหตุผลเชิงตรรกะ
🟢 STEAM: ความคิดสร้างสรรค์ และ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ
2.3) ลักษณะ: วัตถุประสงค์
🔵 STEM: พัฒนาทักษะทางเทคนิค และ การวิเคราะห์
🟢 STEAM: การศึกษาที่สมดุล รวมทั้งความคิดสร้างสรรค์ และ ความเห็นอกเห็นใจ
1
  • ​3) 6 ขั้นตอนการเรียนรู้แบบ STEAM
1) กำหนดเป้าหมาย (Focus)
- ตั้งคำถาม หรือ ปัญหาที่ต้องการแก้ไข
2) วิเคราะห์รายละเอียด (Detail) - หาต้นเหตุ และ องค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง
3) ค้นคว้าข้อมูล (Discovery) - ศึกษาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับปัญหา
4) ลงมือทำ (Application)
- นำความรู้มาใช้แก้ปัญหาด้วยวิธีของตัวเอง
5) นำเสนอผลงาน (Presentation)
- สื่อสารแนวคิด และ รับฟังคำติชม
6) พัฒนา และ ต่อยอด (Link)
- วิเคราะห์ผลงาน และ ปรับปรุงให้ดีขึ้น
  • ​4) ทำไม STEAM ถึงสำคัญในโลกปัจจุบัน?
4.1) เตรียมพร้อมสำหรับตลาดงานในอนาคต
เทคโนโลยี และ ระบบอัตโนมัติกำลังเข้ามาแทนที่งานซ้ำๆ แต่ ความคิดสร้างสรรค์และการแก้ปัญหาเป็นสิ่งที่ AI ทดแทนไม่ได้ STEAM จึงเน้นการพัฒนาทักษะที่ตลาดแรงงานต้องการ
4.2) พัฒนาทักษะการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน
โลกปัจจุบันเผชิญกับความท้าทายที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น ภาวะโลกร้อน ปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องการการแก้ปัญหาที่บูรณาการหลายศาสตร์
4.3) สร้างนวัตกรรมเพื่ออนาคต
STEAM ส่งเสริมการคิดค้นนวัตกรรมที่ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีใหม่ๆ แต่เป็นการแก้ปัญหาสำคัญของโลก เช่น การใช้ดาวเทียมคาดการณ์สภาพอากาศ เรือนกระจกไฮโดรโปนิกส์
4.4) พัฒนาทักษะแห่งศตวรรษที่ 21
STEAM ส่งเสริมทักษะที่จำเป็นสำหรับศตวรรษที่ 21 เช่น:
- การคิดวิเคราะห์
- ความคิดสร้างสรรค์
- การทำงานร่วมกัน
- การสื่อสาร
  • ​5) ตัวอย่างการนำ STEAM ไปใช้ในห้องเรียน
5.1) กิจกรรมสร้างหุ่นยนต์กระดาษ
เรียนรู้เกี่ยวกับแรงโน้มถ่วงที่ส่งผลต่อการรักษาความสมดุล พร้อมคำถามที่ช่วยกระตุ้นกระบวนการคิด
5.2) โครงการเตาอบพลังงานแสงอาทิตย์
ให้นักเรียนสร้างเตาอบจากวัสดุที่กำหนด และ ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานความร้อน
5.3) กิจกรรมประดิษฐ์เครื่องบินกระดาษ
นักเรียนออกแบบเครื่องบินกระดาษโดยคำนึงถึงหลักการทางวิศวกรรม และ พลศาสตร์
  • ​6) บทบาทของ STEAM ในการศึกษาของไทย
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยี (สสวท.) ได้ขับเคลื่อนการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยีด้วย STEAM เพื่อการเรียนรู้ฐานสมรรถนะ โดยมีเป้าหมายพัฒนาครู และ บุคลากรทางการศึกษา
ในปี 2565 สสวท. มีเป้าหมายพัฒนาครูผ่านกิจกรรมในโครงการ 540 คน นักเรียน 500 คน จากโรงเรียนกว่า 100 แห่ง
  • ​STEM คืออะไร 👇
  • ​ทำไมคณิตศาสตร์ถึงสำคัญต่อเทคโนโลยี 👇
  • ​ทำไมเทคโนโลยีถึงคู่กับวิทยาศาสตร์ 👇
Credit :
👇
  • ​https://www.harrowhongkong.hk/his/what-is-steam-and-why-is-it-important-in-education/
  • ​https://klearningspace.com/th/news-blogs/what-is-steam-education/
  • ​https://www.twinkl.co.th/teaching-wiki/steam-education
  • ​https://www.scimath.org/article-stem/item/7812-stem-steam
  • ​https://www.ipst.ac.th/news/28262/20220608-stem.html

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา