Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
อดีตไม่ดีดนิ้ว
•
ติดตาม
เมื่อวาน เวลา 03:08 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
🧪 อดีตไม่ดีดนิ้ว – บุคคลสำคัญ : มารี คูรี
ถ้าพูดถึงนักวิทยาศาสตร์หญิงที่โลกไม่มีวันลืม ชื่อของ “มารี คูรี” ต้องอยู่แถวหน้าเสมอ
เพราะเธอไม่เพียงแต่เปิดประตูสู่วิทยาศาสตร์กัมมันตรังสี แต่ยังเป็น คนแรกของโลกที่ได้รางวัลโนเบลถึง 2 สาขา ✨
วัยเด็กและความฝัน
มารี คูรี เกิดในปี 1867 ที่กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ 🇵🇱
ครอบครัวเธอเป็นครู แต่ชีวิตไม่ได้สุขสบาย
ในวัยเด็กเธอต้องเจอกับการสูญเสียแม่และพี่สาวไปก่อนวัยอันควร
แต่ความเจ็บปวดกลับหล่อหลอมให้เธอมีความมุ่งมั่น
ในยุคนั้นโปแลนด์ยังอยู่ภายใต้การปกครองของรัสเซีย
ผู้หญิงถูกกีดกันจากการเรียนวิทยาศาสตร์
แต่มารีมีความฝันที่ใหญ่กว่ากำแพงทางสังคม
การเดินทางสู่ปารีส
เมื่อโตขึ้น เธอเดินทางไปปารีสเพื่อเรียนที่มหาวิทยาลัยซอร์บอน (Sorbonne) 🎓
ที่นั่นเธอต้องใช้ชีวิตอย่างลำบาก—ทำงานพิเศษไปด้วย เรียนไปด้วย
บางวันแทบไม่มีเงินซื้ออาหาร ต้องกินเพียงขนมปังและชา
แต่ความพยายามผลักดันให้เธอสำเร็จการศึกษาในสาขาฟิสิกส์และคณิตศาสตร์
และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอได้พบกับชายผู้เป็นทั้งคู่ชีวิตและคู่วิทยาศาสตร์ … ปิแอร์ คูรี
การค้นพบที่เปลี่ยนโลก
มารีและปิแอร์ทำงานร่วมกันในห้องแล็บเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์เก่า ๆ
แต่ด้วยความมุ่งมั่น พวกเขาค้นพบธาตุใหม่ถึง 2 ธาตุ
คือ โพลอนิัม (Polonium) ที่ตั้งชื่อตามบ้านเกิดโปแลนด์
และ เรเดียม (Radium) ซึ่งเป็นธาตุกัมมันตรังสีที่ส่องแสงได้
นอกจากนี้ เธอยังสร้างแนวคิดเรื่อง “radioactivity” หรือกัมมันตรังสี
คำที่กลายเป็นหัวใจของฟิสิกส์นิวเคลียร์และการแพทย์
เกียรติคุณและรางวัลโนเบล
ปี 1903 มารีและปิแอร์ คูรี ร่วมกับอ็องรี เบกเกอแรล ได้รับ รางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ 🏆
จากการค้นคว้าเกี่ยวกับกัมมันตรังสี
ต่อมา ปี 1911 มารี คูรี ได้รับ รางวัลโนเบลสาขาเคมี อีกหนึ่งครั้ง
จากการค้นพบและแยกธาตุเรเดียมและโพลอนิัม
นี่ทำให้เธอกลายเป็นตำนานนักวิทยาศาสตร์หญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
ผลงานเพื่อมนุษยชาติ
มารีไม่ได้หยุดเพียงแค่การค้นพบธาตุใหม่
เธอยังเห็นศักยภาพของรังสีในการรักษาโรคมะเร็ง 🎗️
การใช้รังสีรักษาโรคเริ่มต้นจากงานวิจัยของเธอ
ในสงครามโลกครั้งที่ 1 มารี คูรีออกแบบ รถ X-ray พกพา
เพื่อช่วยแพทย์สนามตรวจบาดแผลทหารอย่างรวดเร็ว
เธอเองยังขับรถเหล่านี้ไปแนวหน้าเพื่อช่วยเหลือด้วยตัวเอง
ชีวิตบั้นปลายและการจากไป
อย่างไรก็ตาม การทำงานกับกัมมันตรังสีโดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน
ทำให้สุขภาพของเธอค่อย ๆ แย่ลง
ในที่สุดเธอเสียชีวิตจากโรค aplastic anemia ในปี 1934
แม้ชีวิตจะจบลงอย่างเศร้า แต่ผลงานของเธอได้เปลี่ยนโลกไปตลอดกาล
มรดกและการยกย่อง
ชื่อของเธอถูกบันทึกไว้ในตำราวิทยาศาสตร์ทุกเล่ม
มีการตั้งชื่อหน่วยวัดกัมมันตรังสีว่า “คูรี (Curie, Ci)” เพื่อเป็นเกียรติแก่เธอ
และทุกวันนี้ มารี คูรี ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงทั่วโลกที่อยากก้าวเข้าสู่วงการวิทยาศาสตร์ 👩🔬
📦 Fact Box: มารี คูรี
• 👩🔬 ชื่อจริง: Maria Sklodowska
• 🌍 บ้านเกิด: วอร์ซอ, โปแลนด์
• 🧪 การค้นพบ: ธาตุโพลอนิัมและเรเดียม
• 🏆 เกียรติคุณ: โนเบลฟิสิกส์ (1903) + โนเบลเคมี (1911)
• 🚑 ผลงานสำคัญ: รถ X-ray พกพาในสงครามโลกครั้งที่ 1
• ⚰️ การจากไป: ปี 1934 จากโรค aplastic anemia
(ที่มา:
NobelPrize.org
/ Britannica / Smithsonian /
Biography.com
/ IAEA)
จากเด็กหญิงที่ต้องต่อสู้กับข้อจำกัดทางสังคม → สู่ผู้หญิงที่เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์โลก
จากห้องทดลองเล็ก ๆ → สู่เวทีโนเบลที่ยิ่งใหญ่
คำถามคือ…
ถ้าไม่มีมารี คูรี วิทยาศาสตร์กัมมันตรังสีและการแพทย์สมัยใหม่จะล่าช้าไปอีกกี่สิบปี? 🤔
เทคโนโลยี
วิทยาศาสตร์
ประวัติศาสตร์
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
บุคคลสำคัญ
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย