16 ก.ย. เวลา 02:45 • หุ้น & เศรษฐกิจ

หลักการลงทุน ซื้อหุ้นไม่ติดดอย แบบโจ ลูกอีสาน

คุณโจ ลูกอีสาน หรือ อนุรักษ์ บุญแสวง เป็นนักลงทุนชื่อดังที่สร้างตัวตนในแวดวงตลาดหุ้นไทยด้วยแนวทางที่ชัดเจนและยึดหลักการลงทุนแนว VIอย่างมีวินัย จุดเด่นของเขาคือการมองการลงทุนแบบไม่หวือหวา แต่ยึดพื้นฐานกิจการและการจัดการความเสี่ยงเป็นสำคัญ
1
แนวทางการลงทุนของเขามีหลักคิดสำคัญที่นักลงทุนทั่วไปสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ดังนี้
  • ​หลีกเลี่ยงความผิดพลาด
หัวใจของการอยู่รอดในตลาดหุ้นคือการไม่ทำผิดพลาดซ้ำๆ โดยเฉพาะการเข้าไปลงทุนในหุ้นวัฏจักรที่ราคาผันผวนรุนแรงตามรอบเศรษฐกิจ เช่น หุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ พลังงาน หรืออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอาจสร้างผลตอบแทนได้สูงในบางช่วง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน อีกทั้งยังต้องระวังหุ้นที่ราคาขึ้นเพราะกระแสปัจจัยบวกเพียงชั่วคราว เช่น หุ้นที่ได้ผลประโยชน์จากการระบาดของ Covid-19 เพราะหากเข้าไปซื้อในช่วงราคาสูง เมื่อปัจจัยดังกล่าวหมดไป มักจะกลายเป็นการ “ติดดอย” ได้โดยง่าย
  • ​อย่าคาดการณ์อนาคต
คุณโจมองว่าการคาดการณ์อนาคตเป็นเรื่องที่ยากและเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน นักลงทุนจึงไม่ควรพยายามเดาทิศทางตลาด แต่ควรเน้นลงทุนในสิ่งที่เรารู้ เข้าใจ และสามารถวิเคราะห์ได้อย่างชัดเจน การกระจายการลงทุนในหลายธุรกิจที่มั่นคง จะช่วยลดผลกระทบจากเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง และทำให้พอร์ตการลงทุนเดินหน้าไปได้อย่างมั่นคงกว่าการทุ่มทั้งหมดในหุ้นตัวเดียว
  • ​ลงทุนในหุ้นความผันผวนต่ำ
หุ้นที่มีความผันผวนต่ำ มักสะท้อนถึงความมั่นคงของธุรกิจและความเชื่อมั่นของผู้ถือหุ้น ตัวอย่างเช่น หุ้นในกลุ่มสาธารณูปโภค สินค้าอุปโภคบริโภค หรือบริการที่มีรายได้สม่ำเสมอ หุ้นเหล่านี้แม้ไม่ได้ให้ผลตอบแทนหวือหวา แต่ช่วยให้นักลงทุนสามารถถือครองระยะยาวได้โดยไม่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่ทำให้พอร์ตเหวี่ยงขึ้นลงอย่างรุนแรง
  • ​ยึดมั่นพื้นฐานกิจการและการประเมินมูลค่า
การซื้อหุ้นโดยดูเพียงราคาหรือกระแสความนิยมเป็นความเสี่ยงที่ทำให้นักลงทุนจำนวนมากขาดทุน คุณโจจึงย้ำเสมอว่า การลงทุนต้องเริ่มจากการศึกษาพื้นฐานของกิจการ เช่น ความสามารถในการแข่งขัน ความมั่นคงของรายได้ และคุณภาพของผู้บริหาร จากนั้นจึงนำมาประเมินมูลค่าหุ้น หากราคาตลาดต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงมากพอ ก็จะเป็นจังหวะที่เหมาะสมในการลงทุน การมีวินัยยึดตามหลักการนี้ จะช่วยลดโอกาสในการซื้อหุ้นแพงเกินไป และทำให้การลงทุนปลอดภัยขึ้น
แม้จะปฏิบัติตามหลักการลงทุนที่คุณโจ ลูกอีสานได้วางไว้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะการันตีผลกำไรเสมอไป เพราะตลาดหุ้นนั้นเต็มไปด้วยวัฏจักรที่มีทั้งช่วงขาขึ้นและช่วงขาลง อย่างไรก็ตาม หากเราคัดเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานกิจการแข็งแกร่ง รายได้และความสามารถในการแข่งขันมั่นคง แม้ในวันที่ตลาดเผชิญวิกฤต ราคาหุ้นก็อาจลดลงไม่มากนัก และที่สำคัญคือยังมีโอกาสฟื้นตัวกลับคืนเมื่อเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นอีกครั้ง
แนวทางการลงทุนแบบนี้ แม้อาจไม่ได้สร้างความตื่นเต้นหรือผลตอบแทนแบบหวือหวา แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ “ความมั่นคงและการอยู่รอด” ซึ่งเป็นหัวใจของการลงทุนระยะยาว และช่วยให้นักลงทุนสามารถถือหุ้นได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องกลัวว่าจะ “ติดดอย” เมื่อกระแสหรือปัจจัยชั่วคราวผ่านไป
โฆษณา