Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Prashya Global
•
ติดตาม
27 ส.ค. เวลา 09:15 • ประวัติศาสตร์
วิสาหกิจชุมชนเพาะเห็ดฟางบ้านหนองหญ้าแก้ว
บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว
ปัญหาชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว
Prashya Global
เกิดปัญหา การรุกล้ำแนวชายแดน โดยพบว่ามีครัวเรือนฝั่งกัมพูชาสร้างบ้าน/สิ่งปลูกสร้างรุกล้ำพื้นที่ซึ่งไทยถือว่าเป็นดินแดนของตน (รายงานว่าพบถึง 18 หลังคาเรือนในพื้นที่บางช่วงเวลา) และมีการชุมนุม/ปักหลักประท้วงบริเวณแนวลวดหนามชายแดน.
ปัญหายังเชื่อมโยงกับ การลักลอบข้ามแดนและขบวนการนายหน้าพาคนข้ามแดน (มีรายงานการจับกุมและเครือข่ายนำพา) ซึ่งทำให้สถานการณ์ซับซ้อนขึ้นทั้งด้านความมั่นคงและสังคม-เศรษฐกิจของชุมชน.
สาเหตุสำคัญ (why)
1. เส้นแบ่งเขตที่ซับซ้อน / ข้อตกลง-การตีความไม่ตรงกัน — พื้นที่ชายแดนบางจุดมีข้อพิพาทหรือความไม่ชัดเจนเรื่องเส้นเขต ทำให้ฝ่ายต่าง ๆ ตีความพื้นที่ต่างกัน และกลายเป็นช่องให้เกิดการรุกล้ำได้ง่าย.
2. แรงจูงใจทางเศรษฐกิจของชาวบ้านและนายหน้า — รายได้จากนายหน้า/การรับจ้างข้ามแดน หรือต้องการที่ทำกิน ทำให้บางคนยอมเสี่ยงและอาจช่วยเหลือการลักลอบข้ามแดน/การตั้งบ้านเรือนในแนวชายแดน.
3. การบังคับใช้กฎหมาย-การลาดตระเวนไม่ทั่วถึง — พื้นที่เป็นชนบท เข้าออกได้หลายช่องทาง และการตรวจสอบ/ลงโทษทางกฎหมายอาจยังไม่ครอบคลุมหรือมีช่องว่างในการจัดการผู้กระทำผิดข้ามพรมแดน.
4. การเมืองท้องถิ่นและความรู้สึกของประชาชน — การที่ประชาชนสองฝั่งชายแดนมีความสัมพันธ์ดั้งเดิม/ญาติสัมพันธ์ ทำให้การจัดการเชิงบังคับอย่างเดียวอาจก่อความตึงเครียดได้. (รายงานข่าวยังมีภาพการชูป้าย/ประท้วง)
แนวทางแก้ไข (what to do) — แบ่งเป็นระยะสั้น / กลาง / ยาว
ระยะสั้น (ลดความตึงเครียดและควบคุมสถานการณ์)
เสริมการลาดตระเวนร่วม-ชั่วคราวและการสังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT/GBC/JBC) เพื่อบันทึกข้อเท็จจริง ลดเหตุปะทะ และใช้ผู้สังเกตการณ์อิสระช่วยยืนยันข้อมูลก่อนดำเนินการใด ๆ.
เจรจาเชิงพื้นที่กับผู้นำชุมชนทั้งสองฝั่ง — หยุดการยั่วยุ เปิดพื้นที่ไกล่เกลี่ย เพื่อป้องกันเหตุลุกลาม (เช่น การรื้อถอนลวดหนาม/ป้ายที่ยั่วยุ) โดยหน่วยงานท้องถิ่นและทหาร/ฝ่ายความมั่นคงร่วมด้วย.
คุมเข้มการลักลอบข้ามแดน โดยตำรวจ-ทหาร-ฝ่ายปกครอง เพิ่มด่านตรวจ/ตรวจกลุ่มเสี่ยง และดำเนินคดีต่อกลุ่มนายหน้าที่เกี่ยวข้อง (ใช้กฎหมายที่มี เช่น พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง) เพื่อยับยั้งรายได้ของขบวนการ.
ระยะกลาง (แก้ปัญหาต้นเหตุทางสังคม-เศรษฐกิจ)
ช่วยเหลือด้านรายได้/สร้างทางเลือกอาชีพ ให้กับชุมชนริมชายแดน (โครงการส่งเสริมอาชีพ เกษตรแปรรูป งานฝีมือ ฯลฯ) เพื่อลดแรงจูงใจร่วมกับมาตรการติดตามทางกฎหมาย.
รณรงค์ให้ความรู้แก่ชุมชน เรื่องสิทธิที่ดิน การอ้างสิทธิ์ข้ามพรมแดน ความเสี่ยงจากการร่วมมือกับนายหน้า และผลทางกฎหมาย/ความมั่นคง.
จัดระบบการตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างชั่วคราว: นับจำนวน/พิกัดสิ่งปลูกสร้างที่อาจอยู่ในแนวเขต เพื่อใช้เป็นข้อมูลดำเนินการต่อไป (และหลีกเลี่ยงการดำเนินการที่อาจก่อความรุนแรง).
ระยะยาว (แก้ไขเชิงโครงสร้างและนโยบาย)
สำรวจแนวเขตใหม่ / ทำแผนที่ที่ดินเชิงรุก (cadastral survey) ร่วมกับกัมพูชา และนำผลไปสู่การเจรจาทวิภาคีผ่านคณะกรรมการชายแดน (GBC/JBC) ตาม MOU ที่ตกลงกัน เพื่อให้เส้นเขตชัดเจนและยุติข้อพิพาท.
ปรับปรุงกรอบกฎหมายและนโยบายการจัดการชายแดน — เช่น นิยามความผิดสำหรับผู้นำพาข้ามแดน/ผู้บุกรุกที่ชัดเจนขึ้น และเพิ่มการประสานงานข้ามหน่วยงาน ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร กระทรวงมหาดไทย ทำให้การบังคับใช้อย่างสอดคล้อง.
ฟื้นฟูความสัมพันธ์ชุมชนชายแดน ผ่านโครงการข้ามพรมแดนเชิงบวก (ตลาดชายแดนร่วม โครงการสาธารณสุข/ศึกษา ร่วม) เพื่อให้มีช่องทางสื่อสารและประสานงานเมื่อเกิดปัญหา และลดความขัดแย้งที่เกิดจากความไม่เข้าใจกัน.
ข้อเสนอเชิงปฏิบัติสำหรับหน่วยงานท้องถิ่นและชุมชน
1. จัดประชุมฉุกเฉินร่วมกำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน ทหาร และตำรวจเพื่อทำแผนปฏิบัติการ 7 วัน (ตรวจสอบบ้านที่รายงานว่าเป็นการรุกล้ำ จัดทีมสังเกตการณ์ วางมาตรการป้องกันการลอบเข้าออก).
2. ตั้งสายด่วนชุมชนแจ้งเหตุการณ์ชายแดน และรณรงค์ให้ชาวบ้านไม่เข้าร่วมการยั่วยุหรือจ้างนายหน้า.
3. ขอให้จังหวัดนำเรื่องเข้าสู่การประชุม GBC/JBC ระดับชาติ และขอให้มีการส่งผู้สังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) ลงพื้นที่ตาม MOU ที่ตกลงไว้.
กัมพูชา
สังคม
ข่าวรอบโลก
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย