30 ส.ค. เวลา 00:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

🧊 "โคลด์ฟิวชัน" กลับมาแล้ว (ในแบบใหม่) | การทดลองที่อาจไม่ให้ "พลังงาน" แต่ช่วยสร้าง "ตัวนำยิ่งยวด"

ในปี 1989 วงการวิทยาศาสตร์เคยสั่นสะเทือนครั้งใหญ่กับการประกาศค้นพบ ‘โคลด์ฟิวชัน’ (Cold Fusion) หรือนิวเคลียร์ฟิวชันที่อุณหภูมิห้อง ซึ่งเปรียบเสมือนจอกศักดิ์สิทธิ์แห่งวงการพลังงาน แต่สุดท้ายมันก็กลายเป็นหนึ่งในความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์...
แต่ถ้าผมจะบอกว่า 35 ปีต่อมา มีนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งได้นำไอเดียจากความผิดพลาดครั้งนั้น มาต่อยอดจนเกิดเป็นความหวังใหม่ล่ะครับ?
💥 ตำนานโคลด์ฟิวชันและความล้มเหลว
นิวเคลียร์ฟิวชัน คือกระบวนการที่เกิดขึ้นในใจกลางดวงอาทิตย์ เป็นแหล่งพลังงานที่สะอาดและไร้ขีดจำกัด แต่การจะสร้างมันขึ้นบนโลกนั้นต้องใช้อุณหภูมิและความดันที่สูงมหาศาล
ในปี 1989 นักเคมีสองคนคือ สแตนลีย์ พอนส์ (Stanley Pons) และ มาร์ติน เฟลชมานน์ (Martin Fleischmann) ได้อ้างว่าพวกเขาสามารถสร้างฟิวชันได้ในอุณหภูมิห้องด้วยอุปกรณ์ง่ายๆ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครสามารถทำการทดลองซ้ำได้สำเร็จ ทำให้แนวคิดนี้ถูกปัดตกไป
⚡️ "ธันเดอร์เบิร์ด" การทดลองที่เรียนรู้จากอดีต
ปัจจุบัน ทีมนักวิจัยนำโดย เคอร์ติส เบอร์ลิงเกตต์ (Curtis Berlinguette) จากมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย (University of British Columbia) ในแคนาดา ได้สร้างเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชันขนาดเล็กที่ชื่อว่า "ธันเดอร์เบิร์ด" (Thunderbird) ขึ้นมา
พวกเขาไม่ได้พยายามจะสร้างโคลด์ฟิวชัน แต่สร้างเครื่องยิงอนุภาคขนาดเล็กที่ยิงลำแสงของ ดิวทีเรียม (deuterium) ซึ่งเป็นไฮโดรเจนชนิดหนัก เข้าไปในแท่งโลหะ พัลเลเดียม (palladium) เพื่อให้เกิดฟิวชันแบบร้อนในระดับเล็ก
♻️ ไอเดียเก่าในบริบทใหม่
และนี่คือจุดที่น่าทึ่งที่สุดครับ ทีมวิจัยได้นำไอเดียหลักจากปี 1989 กลับมาใช้ นั่นคือการใช้ เคมีไฟฟ้า (electrochemistry) เพื่อ "อัด" เชื้อเพลิงดิวทีเรียมเข้าไปในแท่งพัลเลเดียมให้แน่นขึ้นไปอีก
ผลการศึกษาพบว่าเทคนิคนี้สามารถเพิ่มอัตราการเกิดฟิวชันได้ถึง 15% แต่ต้องย้ำอย่างชัดเจนว่า พลังงานที่ผลิตได้นั้นยังน้อยกว่าพลังงานที่ใช้ไปหลายพันล้านเท่า และนี่ ไม่ใช่โคลด์ฟิวชัน แต่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับฟิวชันแบบร้อน
🚪 ไม่ใช่พลังงาน แต่คือประตูสู่วัสดุแห่งอนาคต
แม้วิธีนี้จะยังไม่สามารถใช้ผลิตไฟฟ้าได้ แต่เทคนิคการ "อัดไฮโดรเจน" เข้าไปในโลหะด้วยเคมีไฟฟ้านี้ อาจมีประโยชน์อย่างมหาศาลในอีกด้านหนึ่ง นั่นคือการสร้าง ตัวนำยิ่งยวดอุณหภูมิสูง (high-temperature superconductors)
วัสดุชนิดนี้คือวัสดุในฝันที่สามารถนำไฟฟ้าได้โดยไม่มีความต้านทานเลย ซึ่งอาจปฏิวัติระบบไฟฟ้าและพลังงานของโลกได้ และเทคนิคจากเครื่องธันเดอร์เบิร์ดนี้ ก็อาจเป็นวิธีใหม่ในการสร้างมันขึ้นมาโดยใช้พลังงานน้อยกว่าเดิมอย่างมหาศาล
🏡 นี่คือเรื่องใกล้ตัว และเราได้ประโยชน์อะไร?
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ต้องพึ่งพาการนำเข้าพลังงานเป็นหลัก การแสวงหาแหล่งพลังงานสะอาดและยั่งยืนจึงเป็นเป้าหมายที่สำคัญอย่างยิ่ง แม้การวิจัยฟิวชันจะยังเป็นเรื่องของอนาคต แต่ก็เป็นหนึ่งในความหวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ
นอกจากนี้ การค้นพบเทคนิคใหม่ๆ ที่อาจนำไปสู่การสร้างวัสดุอย่างตัวนำยิ่งยวด ก็อาจส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาระบบ โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงของไทยในอนาคตได้เช่นกัน
🎯 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ เรียนรู้จากอดีต: นักวิจัยได้สร้างเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชันขนาดเล็ก โดยนำไอเดียจาก "โคลด์ฟิวชัน" ที่เคยล้มเหลวในปี 1989 กลับมาใช้
✅ เพิ่มประสิทธิภาพ: เทคนิคนี้ใช้เคมีไฟฟ้าเพื่อ "อัด" เชื้อเพลิงไฮโดรเจนเข้าไปในโลหะ ทำให้สามารถเพิ่มอัตราการเกิดฟิวชันได้ 15%
✅ ยังห่างไกล: พลังงานที่ผลิตได้ยังน้อยกว่าที่ใช้ไปมหาศาล และนี่ ไม่ใช่โคลด์ฟิวชัน แต่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับฟิวชันแบบร้อน
✅ ความหวังใหม่: เทคนิค "อัดไฮโดรเจน" นี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการสร้าง ตัวนำยิ่งยวดอุณหภูมิสูง ที่จะปฏิวัติวงการพลังงานในอนาคต
💬 แล้วคุณล่ะครับ...
คุณคิดว่าการเรียนรู้จาก "ความล้มเหลว" ในอดีตแบบนี้ สำคัญต่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์แค่ไหนครับ? แล้วคุณเคยมีประสบการณ์ที่ความผิดพลาดนำไปสู่การค้นพบสิ่งใหม่ๆ บ้างไหม?
มาแบ่งปันเรื่องราวกันในคอมเมนต์... และถ้าเรื่องนี้น่าสนใจ 🔬 อย่าลืมกดบันทึกไว้ หรือแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ร่วมทึ่งไปกับการค้นพบครั้งนี้ด้วยกันนะครับ!
🔎 แหล่งอ้างอิง
1. Chen, K. Y., et al. (2025). Electrochemical loading enhances deuterium fusion rates in a metal target. Nature. https://doi.org/g9xnxv
💖 มาช่วยกันขับเคลื่อน "Witly" กันครับ!
วิทยาศาสตร์คือการเดินทางที่เต็มไปด้วย "ความล้มเหลว" และ "ทางตัน" แต่บางครั้งการย้อนกลับไปสำรวจเส้นทางที่เคยล้มเหลว ก็อาจนำไปสู่การค้นพบเส้นทางใหม่ที่ไม่คาดคิด...
เป้าหมายของ Witly ก็เช่นกัน คือการทำหน้าที่เป็น "นักสำรวจ" ที่จะนำเสนอเรื่องราวการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จหรือความล้มเหลว เพื่อสร้างบทเรียนและความเข้าใจให้กับคุณ
ทุกการสนับสนุนผ่าน "ค่ากาแฟ" ของคุณ คือพลังที่ช่วยให้การเดินทางสำรวจของเราดำเนินต่อไปได้ครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา