31 ส.ค. เวลา 00:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

🌟 ความหวังครั้งใหม่ "เครื่องกระตุ้นสมอง" | ช่วยให้ชายที่ป่วยซึมเศร้า 30 ปี กลับมามีชีวิตอีกครั้ง

สำหรับหลายคน โรคซึมเศร้า คือการต่อสู้ที่ยาวนานและมืดมน โดยเฉพาะเมื่อการรักษาแบบเดิมๆ ใช้ไม่ได้ผล แต่ถ้าผมจะบอกว่า... มีชายคนหนึ่งที่ป่วยด้วยโรคซึมเศร้ารุนแรงมานานกว่า 30 ปี และเพิ่งจะกลับมามีชีวิตที่ปกติได้อีกครั้ง ด้วยเทคโนโลยีที่เปรียบเสมือน ‘เครื่องกระตุ้นหัวใจสำหรับสมอง’ ล่ะครับ?
นี่คือเรื่องราวความหวังครั้งใหม่ ที่อาจเป็นแสงสว่างให้กับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าทั่วโลก
🧠 เมื่อสมองของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
หนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการรักษาโรคซึมเศร้าคือภาวะ ดื้อต่อการรักษา (treatment resistance) ซึ่งผู้ป่วยจะไม่ตอบสนองต่อยาหรือแม้แต่การรักษาด้วยไฟฟ้า (ECT)
เดเมียน แฟร์ (Damien Fair) จากมหาวิทยาลัยมินนิโซตา (University of Minnesota) ชี้ว่าที่เป็นเช่นนั้นเพราะการรักษาแบบเดิมๆ มักจะกระตุ้นสมองในจุดเดียวกันสำหรับทุกคน ทั้งที่ “สมองของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน”
👨‍🔬 การรักษาที่ออกแบบมาเพื่อคนๆ เดียว
ด้วยเหตุนี้ ทีมของแฟร์จึงได้พัฒนาแนวทางการรักษาแบบ “เฉพาะบุคคล” ขึ้นมาสำหรับชายวัย 44 ปีคนหนึ่งที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าตั้งแต่อายุ 13 ปี และผ่านการรักษามาแล้วกว่า 20 วิธีแต่ก็ไม่เป็นผล
ขั้นตอนแรก พวกเขาใช้เครื่องสแกน MRI เพื่อสร้างแผนที่เครือข่ายสมอง 4 ส่วนที่เกี่ยวข้องกับโรคซึมเศร้าของชายคนนี้โดยเฉพาะ และพบว่าเครือข่ายหนึ่งของเขามีขนาดใหญ่กว่าปกติถึง 4 เท่า จากนั้นจึงได้ทำการผ่าตัดฝังขั้วไฟฟ้าขนาดเล็กเข้าไปยังตำแหน่งที่แม่นยำตามแผนที่นั้น
และในช่วงทดลองกระตุ้นสมองครั้งแรก เมื่อพวกเขาทำการกระตุ้นเครือข่ายสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับการครุ่นคิด ชายคนนั้นก็ได้ “หลั่งน้ำตาแห่งความปิติยินดี” ออกมา
🔋 ‘เครื่องกระตุ้นสมอง’ ที่ทำงานตลอดวัน
จากนั้น ทีมวิจัยได้เชื่อมต่อขั้วไฟฟ้าเข้ากับแบตเตอรี่ขนาดเล็กที่ถูกฝังไว้ใต้ผิวหนังบริเวณไหปลาร้า ทำให้เกิดเป็น “เครื่องกระตุ้นสมอง (brain pacemaker)” ที่จะคอยส่งกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ ไปยังเครือข่ายสมองต่างๆ เป็นเวลา 1 นาที ทุกๆ 5 นาที ตลอดทั้งวัน
ในช่วง 6 เดือนแรก ชายคนนี้ใช้แอปพลิเคชันบนมือถือเพื่อสลับรูปแบบการกระตุ้นสมองที่ทีมวิจัยออกแบบไว้ พร้อมทั้งบันทึกอาการของตัวเองในแต่ละวัน เพื่อให้ทีมวิจัยนำข้อมูลไปปรับปรุงการรักษาให้ได้ผลดีที่สุด
🌈 ผลลัพธ์ที่เปลี่ยนชีวิต
ผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าทึ่งมากครับ:
• 7 สัปดาห์หลังผ่าตัด: เขาหยุดความคิดที่จะฆ่าตัวตาย
• 9 เดือนหลังผ่าตัด: เขาเข้าสู่ ภาวะสงบ (remission) จากโรคซึมเศร้า
• 2 ปีครึ่งให้หลัง: ผลการรักษายังคงอยู่ ยกเว้นช่วงสั้นๆ ที่อาการแย่ลงเล็กน้อยหลังติดเชื้อโควิด-19
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงกรณีศึกษาเดียว และยังจำเป็นต้องมีการทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม (randomised controlled trial) เพื่อยืนยันประสิทธิภาพของวิธีนี้ต่อไป ซึ่งทีมวิจัยหวังว่าจะสามารถทำได้ภายใน 2 ปีข้างหน้า
🏡 นี่คือเรื่องใกล้ตัว และอนาคตของสุขภาพจิตเรา
ในประเทศไทยที่ปัญหาสุขภาพจิตกำลังเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสำคัญมากขึ้น การค้นพบนี้คือแสงแห่งความหวังที่ทรงพลังอย่างยิ่ง มันชี้ให้เห็นถึงอนาคตที่การรักษาโรคทางจิตเวชจะไม่ได้เป็นแบบ "หนึ่งขนาดเหมาะกับทุกคน" อีกต่อไป
แต่จะเป็นการรักษาที่ลงลึกถึงระดับสมองของแต่ละบุคคล ซึ่งอาจเป็นแนวทางใหม่ที่ช่วยให้ผู้ป่วยจำนวนมากที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากภาวะดื้อต่อการรักษา สามารถกลับมามีชีวิตที่มีความสุขได้อีกครั้ง
🎯 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ ความหวังใหม่: นักวิจัยประสบความสำเร็จในการใช้ "เครื่องกระตุ้นสมอง (brain pacemaker)" ช่วยให้ชายที่ป่วยด้วยโรคซึมเศร้ารุนแรงนานกว่า 30 ปีเข้าสู่ภาวะสงบ (remission)
✅ การรักษาเฉพาะบุคคล: ความสำเร็จนี้เกิดจากการสแกนสมองเพื่อหาเครือข่ายสมองที่เกี่ยวข้องกับอาการซึมเศร้าของผู้ป่วยแต่ละคนก่อนทำการฝังขั้วไฟฟ้า
✅ เทคโนโลยีทันสมัย: ผู้ป่วยสามารถร่วมปรับรูปแบบการกระตุ้นผ่านแอปพลิเคชันได้ เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด
✅ ยังต้องรอการพิสูจน์: แม้ผลลัพธ์จะน่าทึ่ง แต่ยังเป็นเพียงกรณีศึกษาเดียว และยังต้องรอการทดลองขนาดใหญ่เพื่อยืนยันประสิทธิภาพ
💬 แล้วคุณล่ะครับ...
คุณคิดว่าการรักษาแบบ 'เฉพาะบุคคล' แบบนี้ จะเป็นอนาคตของวงการแพทย์ในด้านอื่นๆ ด้วยหรือไม่ครับ? แล้วคุณมีความหวังกับอนาคตของการรักษาสุขภาพจิตมากแค่ไหน?
มาแบ่งปันมุมมองกันในคอมเมนต์... และถ้าเรื่องราวนี้มอบความหวัง 💡 อย่าลืมกดบันทึกไว้ หรือแชร์ส่งต่อไปยังคนที่คุณรักนะครับ!
🔎 แหล่งอ้างอิง
1. Nahas, Z., et al. (2025). Personalized Adaptive Cortical Electro-stimulation (PACE) in Treatment-Resistant Depression. PsyArXiv. https://doi.org/p3bp
💖 มาช่วยกันขับเคลื่อน "Witly" กันครับ!
สมองคือ "วงจร" ที่ซับซ้อนที่สุด การทำความเข้าใจและเรียนรู้ที่จะ "ปรับจูน" มัน คือความหวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการแพทย์...
เป้าหมายของ Witly ก็เช่นกัน คือการทำหน้าที่เป็น "วิศวกรชีวการแพทย์" ที่จะนำข้อมูลวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อน มาเรียบเรียงและ "ปรับจูน" ให้เป็นเรื่องราวที่ทุกคนเข้าใจและเชื่อมโยงได้
ทุกการสนับสนุนผ่าน "ค่ากาแฟ" ของคุณ คือพลังที่ช่วยให้เราสามารถทำภารกิจที่สำคัญนี้ต่อไปได้ครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา