เมื่อวาน เวลา 02:42 • ข่าวรอบโลก

ฟิลิปปินส์ฝันเฟื่องเรื่องที่อียูจะช่วย

นิติการุณย์
มิ่งรุจิราลัย
ฟิลิปปินส์กับจีนมีปัญหาเรื่องอธิปไตยในทะเลจีนใต้
ทั้งที่เคยลงนามเป็นพันธมิตรกับสหรัฐที่เรียกว่า Mutual Defense Treaty 1951 อยู่แล้ว
แต่ฟิลิปปินส์ก็ยังต้องการแรงหนุนจากยุโรป
จึงพยายามทุกวิถีทาง (ทำแบบเดียวกับเซเลนสกี) เชิญนางคาจา คัลลาส มาเยือนฟิลิปปินส์
นางคาจา คัลลาส เกิดในสหภาพโซเวียต เมื่ออายุ 14 ปี สหภาพโซเวียตก็ล่ม
ประเทศใหม่ของเธอคือเอสโตเนีย
หลังจากจบกฎหมาย เธอก็เข้าร่วมกับพรรคปฏิรูปเอสโตเนีย แล้วก็ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคตั้งแต่ ค.ศ.2018
ต่อมาได้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของเอสโตเนีย (2021-2024)
 
เมื่อพ้นตำแหน่งนายกฯ เธอก็มาดำรงตำแหน่งเป็นผู้แทนระดับสูงด้านการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคงของสหภาพยุโรป
(สถานะเทียบเท่ารัฐมนตรีต่างประเทศของอียู)
รวมทั้งเป็นรองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป
เมื่อถูกฟิลิปปินส์ดึงมาเกี่ยวดองหนองยุ่งกับปัญหาอธิปไตยในทะเลจีนใต้
นางคัลลาสก็แถลงการณ์ร่วมกับรัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ว่า
“We reject any unilateral changes to the status quo, including use of coercion”
ซึ่งแปลว่า “เราปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงสถานะเดิมโดยฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด รวมถึงการใช้การบังคับขู่เข็ญ”
ที่นางคัลลาสพูด ‘การเปลี่ยนแปลงสถานะเดิม’ หมายถึง ‘สถานการณ์ในทะเลจีนใต้ที่ต้องคงไว้ตามกฎหมายระหว่างประเทศและคำตัดสินของศาลระหว่างประเทศ’
ผู้อ่านท่านครับ ฟิลิปปินส์การมีเรื่องกับจีนขึ้นศาลระหว่างประเทศ
และเมื่อ ค.ศ.2016 อนุญาโตตุลาการถาวรตัดสินว่าการอ้างสิทธิ์ของจีนตามเส้นประ 9 เส้นไม่มีพื้นฐานทางกฎหมาย
จีนฟังคำตัดสินแล้วก็ปฏิเสธว่า ‘อั๊วะไม่เชื่อ’
จากนั้น จีนก็เดินหน้าสร้างเกาะเทียม ฐานทัพ และส่งเรือยามฝั่ง กับเรือประมงเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว
ทางฟิลิปปินส์มองว่า ความมั่นคงแห่งชาติของตัวเองถูกคุกคาม จึงต้องการขยายความขัดแย้งนี้ไปสู่สากล (แบบเดียวกับที่เขมรทำ)
นางคัลลาสพูดว่า ‘โดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฝ่ายเดียว’ นี่หมายถึง
นางคัลลาสปรามจีนว่า ลื้ออย่าได้ทำเองฝ่ายเดียว
ไม่ว่าจะใช้กำลังสร้างเกาะเทียม ยึดพื้นที่ หรือเปลี่ยนข้อเท็จจริงบนพื้นดินและในทะเล โดยไม่ได้เจรจากับฟิลิปปินส์เสียก่อน
นางคัลลาสใช้คำว่า ‘coercion’
คือนางกำลังพูดตำหนิจีน ว่าใช้อำนาจทางทหาร เศรษฐกิจ และการเมือง กดดันประเทศเล็กกว่าให้ยอมทำตาม
เช่น ส่งเรือยามฝั่งจีนมาขับไล่ หรือฉีดน้ำใส่เรือฟิลิปปินส์
ทันทีที่นางคัลลาสแถลงจบ พวกฟิลิปปินส์ก็เฮ
มีความมั่นใจว่า ถ้าจีนมีปัญหากับตัว ก็จะได้รับความช่วยเหลือจากยุโรปมาซัดกับจีน
ผมอ่านโซเชียลมีเดียฟิลิปปินส์แล้วก็อยากจะบอกว่า ฟิลิปปินส์ฝันเฟื่องและหลงคารมแบบเดียวกับที่เซเลนสกีหลงคารมอียู
นางคัลลาสยืนยันเป็นมั่นเหมาะว่าจะอียูหนุนฟิลิปปินส์อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู
1
แต่ลองมองย้อนดูว่า อียูเคยช่วยใครจริงบ้าง เป็นไปไม่ได้ที่อียูจะมาลุยกับคุณ
ฟิลิปปินส์พยายามเชิญผู้นำต่างประเทศมาเยือนประเทศตัวเอง
มาถึงแล้วก็โดนเอาไมค์จ่อปากให้พูดสนับสนุนฟิลิปปินส์ (และขู่จีน)
โดยหวังว่าจีนคงจะกลัวและจะหันมายึดถือคำสั่งศาลระหว่างประเทศ
คนฟิลิปปินส์เฮ เมื่อผู้แทนจากสหรัฐ อียู ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น ฯลฯ พูดเข้าข้างตนเอง
อยากจะเรียนครับว่า สหภาพยุโรปมีสมาชิกถึง 27 ประเทศ
จะกระดิกพลิกตัวอะไรยังไง จะต้องมีมติ สมาชิกอียูบางประเทศไม่อยากจะเอามือมาซุกหีบ
ขนาดไปช่วยอูเครนซึ่งอยู่ใกล้ๆ ยังเหนื่อย
แล้วนี่ฟิลิปปินส์ ไกลโพ้นขนาดนั้น อียูจะไม่ได้มาเต็มตัวแน่ครับ
ในโซเชียลมีเดียของฟิลิปปินส์ชอบเขียนคำว่า ‘ขบวนกองทัพยุโรป’
แล้วก็ฝันกลางวันว่า...
กองทัพยุโรปจะมาช่วยฟิลิปปินส์จริงๆ
ถ้าฟิลิปปินส์ยังคิดอย่างนี้ ผมก็อยากจะเรียนว่า คุณแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มสงคราม สิ่งที่อียูทำได้
ผมว่าน่าจะเป็นเป็นแค่เรื่องการงัดไม้จิ้มฟันออกมาขู่จีน
บอกว่า อ้า นี่ไม่ใช่ไม้จิ้มฟันธรรมดานะโว้ย
มันสามารถจะพองตัวเป็นขีปนาวุธยิงจีนให้พังพาบทุกเมืองได้
จินตนาการเป็นเรื่องดีครับ
แต่การเพ้อฝันควรอยู่บนความเป็นจริงด้วย.
โฆษณา