ผู้อ่านจะเห็นว่าทั้งสองตัวอย่างนี้มีครบทั้ง การบรรยายสถานการณ์ (Descriptive) มุมมองของผู้อื่น (Perspective) การชี้นำพฤติกรรม (Directive) การย้ำคุณค่า (Affirmative) และ การมีบทบาทสนับสนุนจากผู้อื่น (Cooperative) ซึ่งตรงกับหลักการของ Social Story ที่เน้นการสร้างความเข้าใจ ไม่ใช่การสั่งสอน
แม้ว่า Social Story จะถูกพัฒนาขึ้นโดย แคโรล เกรย์ เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของเด็กออทิซึมฯ แต่แท้จริงแล้วพลังของมันก้าวข้ามขอบเขตนั้นไปไกลกว่ามาก เรื่องราวที่ใช้ภาษาง่าย ชัดเจน และมีโครงสร้างแบบเป็นระบบ ไม่เพียงช่วยเปิดโลกให้เด็กออทิซึมฯ เข้าใจสังคมรอบตัวได้ลึกขึ้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นเครื่องมือปลูกฝังทักษะการมองจากมุมมองผู้อื่น การควบคุมตนเอง และการสร้างปฏิสัมพันธ์เชิงบวกให้กับเด็กทุกคน
กล่าวอีกนัยหนึ่ง Social Story คือ “สะพานเชื่อม” ระหว่างการเรียนรู้ข้อเท็จจริงกับการซึมซับคุณค่าทางสังคม เด็กทุกคนสามารถได้รับประโยชน์จากการเล่าเรื่องที่อธิบายสถานการณ์ มุมมอง และพฤติกรรมที่เหมาะสมอย่างสมดุล ดังนั้น พลังของ Social Story จึงไม่ได้อยู่ที่การช่วยเหลือเด็กออทิซึมฯ เพียงกลุ่มเดียว หากแต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างคนให้เข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อื่น และอยู่ร่วมในสังคมได้อย่างงดงาม
อ้างอิง
Gray, C., & Garand, J. D. (1993). Social stories: Improving responses of students with autism with accurate social information. Focus on Autistic Behavior, 8(1), 1–10. https://doi.org/10.1177/108835769300800101
Kokina, A., & Kern, L. (2010). Social story interventions for students with autism spectrum disorders: A meta-analysis. Journal of Autism and Developmental Disorders, 40(7), 812–826. https://doi.org/10.1007/s10803-009-0931-0