Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Wisdom investor
•
ติดตาม
3 ก.ย. เวลา 04:11 • การศึกษา
สินทรัพย์ที่สร้างและสินทรัพย์ที่ใช้เงินสด (Net Cashflow Positive vs Negative Asset)
ในโลกของการเงินส่วนบุคคล การทำความเข้าใจแนวคิดของ "กระแสเงินสดสุทธิ" (Net Cash Flow) เป็นหัวใจสำคัญที่สามารถแบ่งแยกผู้ที่สร้างความมั่งคั่งได้สำเร็จออกจากผู้ที่ทำงานหนักแต่ยังคงมีภาระทางการเงิน การรู้จักจำแนกสินทรัพย์ในครอบครองว่าเป็น "สินทรัพย์ที่สร้างเงินสด" (Net Cash Flow Positive) หรือ "สินทรัพย์ที่ใช้เงินสด" (Net Cash Flow Negative) จะเป็นรากฐานที่นำไปสู่อิสรภาพทางการเงินในระยะยาว
Net Cash Flow คืออะไร? 💸
Net Cash Flow หรือ กระแสเงินสดสุทธิ คือจำนวนเงินสดที่คงเหลืออย่างแท้จริงหลังจากนำรายรับจากสินทรัพย์นั้นๆ มาหักลบกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาสินทรัพย์ดังกล่าวในหนึ่งช่วงเวลา (เช่น ต่อเดือน หรือต่อปี)
✓
ถ้าค่าเป็นบวก (> 0): หมายความว่าสินทรัพย์นั้นสร้างรายรับมากกว่าค่าใช้จ่าย เราเรียกสินทรัพย์ประเภทนี้ว่า Net Cash Flow Positive Asset หรือสินทรัพย์ที่สร้างกระแสเงินสด
✓
ถ้าค่าเป็นลบ (< 0): หมายความว่าสินทรัพย์นั้นมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสูงกว่ารายรับที่มันสร้างขึ้น (หรืออาจไม่สร้างรายรับเลย) เราเรียกสินทรัพย์ประเภทนี้ว่า Net Cash Flow Negative Asset หรือสินทรัพย์ที่ใช้ (หรือเผา) เงินสด
ตัวอย่างสินทรัพย์ Positive และ Negative 🏦
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน เราสามารถจำแนกสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ที่คนส่วนใหญ่ครอบครองได้ดังนี้
■
บ้าน (ที่ปล่อยเช่า) (+) : ค่าเช่าที่ได้รับในแต่ละเดือนสูงกว่าค่าใช้จ่ายรวม (ค่าผ่อนธนาคาร, ค่าส่วนกลาง, ภาษี, ค่าซ่อมบำรุง) ทำให้มีเงินสดเหลือเข้ากระเป๋า
■
บ้าน (ที่อยู่อาศัยเอง)(-) : ไม่มีรายรับจากค่าเช่า แต่มีรายจ่ายต่อเนื่อง เช่น ค่าผ่อน, ค่าตกแต่งซ่อมแซม, ค่าส่วนกลาง, ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
■
ที่ดินเปล่า (-) : โดยทั่วไปไม่สร้างรายรับ แต่มีค่าใช้จ่าย เช่น ภาษีที่ดิน ค่าดูแลรักษา หากไม่ได้ปล่อยเช่าหรือใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์
■
รถยนต์ (ส่วนบุคคล) (-) : เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ใช้เงินสดมากที่สุด มีค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง เช่น ค่าน้ำมัน, ค่าประกัน, ค่าบำรุงรักษา, ค่าเสื่อมราคา โดยไม่สร้างรายรับโดยตรง
■
พันธบัตรรัฐบาล (+) : สร้างกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอและคาดการณ์ได้ในรูปแบบของดอกเบี้ยตามงวดที่กำหนด และมีความเสี่ยงต่ำ
■
หุ้น (ส่วนของเงินปันผล) (+) : หุ้นของบริษัทที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล จะสร้างกระแสเงินสดให้ผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ (รายไตรมาสหรือรายปี)
■
เครื่องประดับ/แหวนเพชร (-) : ไม่สร้างกระแสเงินสดระหว่างถือครอง มีค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา และมูลค่าขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดเมื่อต้องการขายเปลี่ยนเป็นเงินสดเท่านั้น
⏳ ความแตกต่างเมื่อเวลาผ่านไป
ผลกระทบของสินทรัพย์ทั้งสองประเภทจะชัดเจนขึ้นอย่างมากเมื่อเวลาผ่านไป
■
Net Cash Flow Positive Asset: ยิ่งเวลาผ่านไป สินทรัพย์เหล่านี้จะเปรียบเสมือน "เครื่องผลิตเงินสด" ที่ทำงานให้เราอย่างต่อเนื่อง ค่าเช่าบ้านมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตามเงินเฟ้อ ในขณะที่เงินผ่อนธนาคารอาจคงที่หรือลดลงเมื่อรีไฟแนนซ์ เงินปันผลจากหุ้นอาจเพิ่มขึ้นตามผลประกอบการของบริษัท กระแสเงินสดส่วนเกินนี้สามารถนำไปลงทุนต่อยอดเพื่อซื้อสินทรัพย์ Positive เพิ่มเติม สร้างผลตอบแทนแบบทบต้น (Compounding Effect) ได้
■
Net Cash Flow Negative Asset: ในทางกลับกัน สินทรัพย์เหล่านี้จะค่อยๆ ดูดเงินออกจากกระเป๋าเราไปเรื่อยๆ รถยนต์มีมูลค่าลดลงทุกปี (ค่าเสื่อมราคา) แต่ค่าบำรุงรักษากลับสูงขึ้นตามอายุการใช้งาน บ้านที่อยู่อาศัยเองก็มีค่าซ่อมแซมที่เพิ่มขึ้นตามกาลเวลา สินทรัพย์เหล่านี้สร้างภาระทางการเงินที่เพิ่มขึ้นและลดทอนความสามารถในการนำเงินไปลงทุน
📈 กลยุทธ์เพื่อความมั่งคั่งในระยะยาว
ความเข้าใจในเรื่องนี้ นำไปสู่กลยุทธ์ทางการเงินที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง
✓
มี Net Cash Flow Negative Asset เท่าที่จำเป็น: สินทรัพย์ประเภทนี้หลายอย่างจำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่น บ้านสำหรับอยู่อาศัย หรือรถยนต์สำหรับเดินทาง อย่างไรก็ตาม ควรมีในปริมาณที่เหมาะสมและควบคุมค่าใช้จ่ายให้อยู่ในระดับที่จัดการได้ เพื่อไม่ให้เป็นภาระที่หนักเกินไปและขัดขวางการสร้างความมั่งคั่ง
✓
สะสม Net Cash Flow Positive Asset ให้มากที่สุด: นี่คือกุญแจสู่ความมั่นคงและมั่งคั่งในระยะยาว การมุ่งมั่นสะสมสินทรัพย์ที่สร้างกระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอ เช่น อสังหาริมทรัพย์ให้เช่า, หุ้นปันผล, หรือพอร์ตพันธบัตร จะทำให้คุณมีรายได้หลายทาง (Multiple Streams of Income) เมื่อกระแสเงินสดรับจากสินทรัพย์เหล่านี้มีมากพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันทั้งหมด ก็จะนำไปสู่ "อิสรภาพทางการเงิน" ได้ในที่สุด
โดยสรุป การเปลี่ยนมุมมองจากการครอบครอง "สินทรัพย์" ทั่วไป มาเป็นการวิเคราะห์ "กระแสเงินสด" ของสินทรัพย์แต่ละชิ้น จะช่วยให้เราสามารถตัดสินใจทางการเงินได้อย่างเฉียบคมขึ้น และเดินบนเส้นทางสู่ความมั่งคั่งที่ยั่งยืนได้อย่างแท้จริง
การเงิน
วางแผนการเงิน
พัฒนาตัวเอง
1 บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Principle of VI
Wisdom journal
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย