2 ก.ย. เวลา 01:49 • ข่าวรอบโลก

ไหวไหม เยอรมนี

นิติการุณย์
มิ่งรุจิราลัย
 
30 สิงหาคม 2025 สำนักงานจัดหางานของรัฐบาลเยอรมนียอมรับว่าตัวเลขการว่างงานในประเทศเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยเดือนละ 4.6 หมื่นคน
ถึงวันที่รายงาน มีเยอรมันว่างงาน 3.025 ล้านคน
 
นายธีโล บรอดท์แมน ประธานสมาคมผู้ผลิตเครื่องจักรวีดีเอ็มเอบอกว่า นักการเมืองเยอรมันต้องตื่นตัว และต้นทุนการผลิตต้องลดลง
นางแบร์เบล บาส รัฐมนตรีแรงงานเยอรมนีบอกว่า รัฐบาลใช้งบหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐไปปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังจะทรุดโทรมในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
 
นายฟรีดริช แมทซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ไปปราศรัยให้สมาชิกพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียนที่เมืองออสนาบรูค รัฐโลเวอร์แซกโซนี แกเตือนว่า...
รัฐสวัสดิการของเยอรมนีทำในรูปแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว เพราะมีข้อจำกัดทางการเงิน
“ไม่สามารถจัดหาเงินได้อีกต่อไปแล้ว ด้วยศักยภาพทางเศรษฐกิจที่เรามี”
นายกรัฐมนตรีเยอรมนียอมรับว่า เยอรมนีประสบกับปัญหาวิกฤติโครงสร้าง และไม่ใช่เป็นปัญหาชั่วคราว
ค.ศ.2023 เศรษฐกิจเยอรมนีหดตัวร้อยละ 0.3
พอถึง ค.ศ.2024 หดตัวร้อยละ 0.2
 
“เยอรมนีมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรปกำลังจะเดินต่อไปไม่ไหว”
นี่ไม่ใช่คำพูดของผมเอง หรือคำพูดของไอ้ปื๊ด อีเปี๊ยกลูกเจ๊น้องก้นซอยสองที่ไหน แต่เป็นคำพูดของนายกฯ เยอรมัน
เยอรมนีเคยนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียร้อยละ 55 สงครามรัสเซีย-อูเครนเกิดขึ้นเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2022
พอถึงเดือนสิงหาคม 2022 การนำเข้าพลังงานทางท่อโดยตรงจากรัสเซียก็หยุด
รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนีที่ชื่อนายโรแบร์ท ฮาเบ็ค ออกมาพูดอย่างภาคภูมิใจในตอนนั้นว่า...
“เยอรมนีของเรามีเป้าหมายยุติการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในกลาง ค.ศ.2024”
 
หลังจากนั้น เยอรมนีก็ไปซื้อก๊าซจากนอร์เวย์
ทว่าทดแทนก๊าซที่เคยได้จากรัสเซียเพียงบางส่วนเท่านั้น
............................
รัฐบาลเยอรมันโม้กับประชาชนว่า อย่าเป็นห่วงเลย เรากำลังแก้ไขด้วยการใช้ 'เอเนอร์กีเวนเดอ (Energiewende)'
ซึ่งหมายถึงการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานหมุนเวียน
โดยบอกว่า วันที่ 1 มกราคม 2025 เรา เยอรมนีจะผลิตพลังงานจากพลังงานหมุนเวียนได้มากถึงร้อยละ 120 ของความต้องการ
 
คนเยอรมันต่างละเมอเพ้อพก ฝันถึงคำที่รัฐบาลเยอรมันโม้ให้ฟัง
1
ผู้อ่านท่านครับ รัฐมนตรีเยอรมันพูดไม่หมด 1 มกราคม 2025 มันเป็นเวลาหน้าหนาว มีลมแรง ทำให้กังหันลมกับโซลาร์ผลิตไฟฟ้าได้มากเกินความต้องการ
จึงเกิดปรากฏการณ์ overproduction ‘การผลิตมากเกินความต้องการ’
 
ผู้อ่านท่านผู้เจริญ ร้อยละ 120 ที่รัฐมนตรีเยอรมันพูดนั้นมันเกิดได้ชั่วคราวเท่านั้น
หน้าหนาวลมแรง เยอรมนีมีกลางวันกับกลางคืนไม่เท่ากัน บางช่วง กลางวัน 8 ชั่วโมง กลางคืน 16 ชั่วโมง
เดือนมกราคม เยอรมนีมีกลางวัน 8-9 ชั่วโมง กลางคืนยาวกว่าคือประมาณ 15-16 ชั่วโมง
ความไม่แน่นอนทำให้พลังงานหมุนเวียนของเยอรมนีไม่เสถียร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่คนเยอรมันเรียกว่าดุงเคิลเฟลาเทอะ (Dunkelflaute)
ที่หมายถึง ‘ฟ้ามืดและลมสงบ’
คุณเอ๋ย ทั้งประเทศแทบผลิตพลังงานอะไรไม่ได้เลย แสงแดดไม่มี ลมก็ไม่มา
............................
เยอรมนียอมซื้อ LNG ในราคาแพงจากสหรัฐ และก๊าซธรรมชาติจากนอร์เวย์
ค่าไฟแพงกระทบกับอุตสาหกรรมเหล็ก กลุ่มเคมี ปุ๋ย กระจก อะลูมิเนียม
โรงงานหลายแห่งต้องหยุด จำนวนไม่น้อยต้องย้ายฐานการผลิตออกนอกยุโรป
ใครจะนึกเล่าครับว่า ‘บาดิเชอ อานีลีน อุนท์ โซดา ฟาบรีค’ ที่คนเยอรมันเรียกกันว่า ‘บาเอสเอฟ’ คนไทยเรียก ‘บาสฟ์’ (BASF)
ซึ่งเป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองลูดวิกส์ฮาเฟิน อัม ไรน์
ต้องลดการผลิตในเยอรมนี และย้ายฐานการลงทุนไปจีนกับสหรัฐ
เยอรมนีมีชื่อเสียงเรื่องรถโฟล์กสวาเกน ผู้อ่านท่านเชื่อไหมครับว่า บริษัท โฟล์กสวาเกิน เวิร์ก เดรสเดิน กำลังวางแผนปิดโรงงานในปีนี้
ส่วนบริษัท โฟล์กสวาเกิน เวิร์ก โอสนาบรึค (ที่ผลิตรถเปิดประทุน T-Roc Cabrio) ก็กำลังวางแผนปิดโรงงานใน ค.ศ.2027
และขณะนี้กำลังไปขอความเมตตากรุณาจากจีนให้ซื้อบริษัทนี้
............................
ผู้อ่านท่านที่เคารพ ประเทศที่มีพื้นที่ขนาดเล็ก ไม่มีทรัพยากรพลังงานของตนเองอย่างเยอรมนี
ไปเหิมเกริมกับประเทศที่มีพลังงานมากที่สุดในโลกอย่างรัสเซีย โดยที่ไม่ดูศักยภาพตัวเอง
ก็จะไปไม่รอดอย่างนี้ละครับ.
โฆษณา