2 ก.ย. เวลา 05:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

Dead Poets Society : เมื่อบทกวีสอนให้คว้าชีวิตเอาไว้ ไม่ใช่แค่ ใช้ชีวิต…

Good teacher informs, great teacher inspires.
คุณครูคนหนึ่ง
*หากคุณดูหนังเรื่องนี้แล้วมิได้ร้องไห้ คุณต้องมาเคลียกับผมหน่อยแล้วล่ะ
คุณยังคงจำได้ไหม... ครั้งหนึ่งเมื่อครั้นยังเป็นนักเรียนในห้องเรียน เคยมีครูคนไหนที่ทำให้คุณรู้สึกราวกับว่า ‘ บทเรียนนี้มีความหมายกับชีวิตของฉัน ’ มากกว่าตัวหนังสือบนหน้ากระดาษไหม? มีครูคนไหนไหมที่สอนให้คุณมองโลกต่างออกไปจากที่คุณเคยมองเห็น ผมเชื่อว่าหากใครมี ครูคนนั้นคงจะยังอยู่ในความทรงจำของคุณเป็นแน่
หากชายคนหนึ่งที่เดินเข้ามาในห้องเรียนพร้อมกับรอยยิ้มขี้เล่น บอกให้คุณฉีกตำราเรียนทิ้ง ลุกขึ้นยืนบนโต๊ะเรียน กวาดสายตามองให้รอบ เรียนรู้ที่จะมองสิ่งรอบตัวด้วยมุมมองที่ต่างออกไป ก้าวเดินด้วยท่วงท่าและจังหวะของคุณเอง ทั้งหมดนี้คือวิธีการสอนของคุณครู John Keating ครูสอนภาษาอังกฤษ ที่ไม่ได้ให้นักเรียนเพียงแค่อ่านบทกวี หากแต่ให้พวกเขาฟัง ในสิ่งที่บทกวีพยายามจะบอก
Gather ye rosebuds while ye may
Robert Herrick
"จงเก็บเกี่ยวดอกไม้แย้มบานที่ยังงามในยามนี้"
คำกล่าวข้างต้นเป็นหนึ่งในบทกวีของ Robert Herrick ซึ่งคุณครู Keating ใช้สอนนักเรียนของเขาให้รู้จักไขว่คว้าเวลาที่พวกเธอมีอย่างคุ้มค่า เพราะดอกไม้แรกอาจจะยังบานในวันนี้ แต่พรุ่งนี้ก็อาจเหี่ยวเฉาโรยรา
ครู Keating ยังมอบคำๆหนึ่งให้กับนักเรียนของเขา เป็นคำจากภาษาลาตินสั้นๆ
“Carpe Diem” คา-เพ-เดียม!
ซึ่งแปลว่า “จงไขว่คว้าวันเวลาของเธอเอาไว้!” นี่ไม่ใช่เพียงคำปลุกใจ ครู Keating ไม่ได้พยายามจะบอกว่า ‘จงใช้ชีวิตอย่างสุดเหวี่ยง ไร้ขอบเขต’ หากแต่กำลังสอนว่า ‘ให้เลือกทำสิ่งที่คุ้มค่ากับการมีชีวิตอยู่จริงๆ เพราะชีวิตนั้นแสนสั้นนัก และเธอควรที่จะใช้มันอย่างมีความหมาย’
หากพูดถึงบทกวี สำหรับใครหลายๆคนอาจมองมันเป็นเพียงถ้อยคำสละสลวยที่ประดับอยู่บนหน้ากระดาษ แต่สำหรับครู Keating และเหล่านักเรียนของเขา บทกวีนั้นเปรียบเสมือน ‘ เสียงหายใจของชีวิต '
เราไม่ได้อ่านหรือเขียนกวี เพียงเพราะว่ามันฟังดูน่ารักหรอกนะ แต่เราซาบซึ้งกับบทกวีเพราะเราคือส่วนหนึ่งของสิ่งที่เรียกว่ามนุษย์ เพราะมนุษย์นั้นเต็มเปี่ยมเอ่อล้นไปด้วยแรงปรารถนา… แพทย์ กฎหมาย ธุรกิจ หรือวิศวะ ล้วนเป็นสาขาวิชาอันสูงส่งและจำเป็นต่อการดำรงชีพ หากแต่บทกวี ความงดงาม ความโรแมนติก และความรัก สิ่งเหล่านี้ต่างหากล่ะ ที่ทำให้เรายังอยากมีชีวิตอยู่”
คุณครู John Keating
บทกวีย้ำเตือนในสิ่งที่เรามักหลงลืมไป ว่าเรานั้น รักได้ เจ็บปวดได้ ฝันได้ และกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเองได้ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้ชีวิตของใครสมบูรณ์แบบ หากแต่ทำให้ชีวิต ‘ มีชีวิต ’ ขึ้นมา
ผมอยากให้ทุกคนลองสูดหายใจลึกๆ และลองนึกถึงช่วงเวลาอันแสนสาหัสของคุณ เพราะเหตุใดกัน ในวันที่เราแทบจะล้มหมดเรี่ยวแรง ถ้อยคำเพียงไม่กี่ประโยคจากบทกวี บทเพลง หรือแม้แต่คำปลอบโยนง่ายๆจากคนที่คุณรัก ถึงสามารถดึงเรากลับมาลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง?
ก็เพราะเหล่าตัวอักษร ที่ร้อยเรียงกันเป็นคำพูดเหล่านั้น คือสิ่งที่ย้ำเตือนว่าเรายังมีชีวิตอยู่ และไม่ว่าจะเป็นชีวิตของใคร ก็ควรถูกใช้ไปกับสิ่งที่คุณรัก สิ่งที่คุณเชื่อ หรือสิ่งที่คุณทำแล้วจะไม่มีวันกลับมาเสียใจในภายหลัง สิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับคุณ…
ไม่ว่าใครจะเคยบอกเธอไว้ว่าอย่างไร จงจำไว้ว่า… คำพูดและความคิดน่ะ มีพลังพอที่จะเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบได้
คุณครู John Keating
ในชีวิตของผมก็เคยได้พบเจอครูที่คล้ายคลึงกับครู John Keating อาจไม่เหมือนในหนังเรื่องนี้ แต่ก็ถือได้ว่าใกล้เคียงยิ่ง เมื่อมองย้อนกลับไป คุณครูที่สอนบทเรียนที่อยู่นอกเหนือตำรา แต่กลับส่งผลอย่างมากต่อชีวิตของผม พวกเขาและพวกเธอ ได้ส่งมอบบางอย่างให้แก่ผม บางสิ่งที่ยากจะอธิบายเป็นคำพูดได้ แต่มันยังคงฝังลึกอยู่ในอก ประหนึ่งรินเติมบทกวีชีวิตให้พบเจอกับความหมายแท้จริง
จนในทุกวันนี้ ที่ผมจบการศึกษาระดับมัธยมมาเนิ่นนานแล้ว ผมก็ยังคงพกบทเรียนนั้นเสมือนเครื่องรางติดตัวไปด้วยทุกแห่งหนเสมอ แล้วคุณล่ะ… เคยมีครูแบบนั้นบ้างหรือป่าว?
ปล. ณ ตอนนี้ หนังเรื่องนี้สามารถหาดูได้ใน Netflix นะครับ
หากใครชื่นชอบบทความเช่นนี้ สามารถติดตามอ่านบทความอื่นๆได้ที่ Page : Velvet on Ground มีทั้งใน Facebook และ Instagram เลยนะครับ
ขอให้ทุกคนไขว่คว้าวันเวลาของตนเอาไว้ให้ได้นะครับ 😊
โฆษณา