Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
อำพันมรกต
•
ติดตาม
8 ก.ย. เวลา 11:45 • นิยาย เรื่องสั้น
ตัวตนที่หายไป 6 # ใครที่ไม่ใช่เธอ
ไฟจากสปอตไลท์สี่ดวงที่มุมสนามพลันสาดส่องตามกำหนดเวลาที่ตั้งไว้ในยามที่พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า แสงไฟทุกลำแสงสาดตรงไปที่ใครคนหนึ่งที่ยืนอยู่ที่กลางสนาม ราวกับจะบอกให้รู้ว่า คนที่โดดเด่นที่สุดในเวลานี้ไม่ใช่ใคร คือ ลินดา!!
เสียงตบมือของจูนช่วยเปลี่ยนบรรยากาศที่เงียบงันในสนามลงได้ พาให้นักเรียนคนอื่นๆ ทำตามอย่างว่าง่าย
"สุดยอดเลยเจ๊ สามลูกรวด ตั้งแต่รอบแรกเลย เจ๋งสุดๆ" จูนสลัดความตะลึงงันที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ออกไป และพยายามทำทุกอย่างให้ดูปกติที่สุด
"นี่เราต้องเลี้ยงข้าวเจ๊สิ่นะ" ลูซี่หมายถึงเธอกับจูนที่เป็นผู้แพ้ จะต้องร่วมกันเลี้ยงอาหารมื้อค่ำวันนี้ "เจ๊อยากกินอะไรเต็มที่เลยนะ ข้าว น้ำ ขนม ได้หมดเลย" เธอเองก็พยายามปกปิดความเคลือบแคลงใจเอาไว้
ลินดายังคงยืนนิ่ง สีหน้าเรียบเฉย มีเพียงรอยยิ้มที่ดูเหมือนพยายามจะยิ้มมากกว่า แสดงออกมาเล็กน้อย
'อึก' เสียงที่เกิดจากการหดตัวผิดปกติของกล้ามเนื้อกระบังลม พร้อมกับอาการสะดุ้งเล็กน้อยของลินดา ดึงความสนของจูนได้ทันที
"เจ๊สะอึกหรอ กินน้ำก่อนดีกว่า" จูนบอกพร้อมยื่นขวดน้ำให้ลินดา
ลินดายกขวดน้ำขึ้นจิบ ก่อนจะดื่มตามเข้าไปอีกจำนวนหนึ่ง
"เจ๊เหนื่อยมากเลย ขอนั่งพักแป๊บนึงนะ" เป็นครั้งแรกที่ลินดาพูดเป็นประโยคยาวๆ ตั้งแต่มาที่สนามบาสวันนี้
"เอ้า ก็เจ๊วิ่งทั่วสนาม ทั้งชู้ตทั้งรีบาวด์แทบไม่หยุดพักขนาดนั้น ไม่เหนื่อยก็แปลกแล้ว" ลูซี่พูดน้ำเสียงกวนๆ
“หรอ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ๊แทบไม่รู้ตัวเลย” ลินดาหัวเราะกับการพูดกวนๆ ของลูซี่ โดยไม่มีท่าทีโกรธเคืองหรือหงุดหงิดแม้แต่น้อย
‘นี่มันคนละคนกับเมื่อกี้เลย’ จูนคิด ‘หรือว่าการสะอึกนั้น…’ เธอเก็บสมมุติฐานนี้ไว้ในใจ
ทั้งสามคนเดินมาถึงหอพักนักเรียน ด้วยตกลงกันแล้วว่ามื้อค่ำวันนี้คงต้องพึ่งพาแคนทีนของหอพัก เพราะเลยเวลาทำการของโรงอาหารโรงเรียนไปแล้ว และอีกไม่กี่นาทีจะถึงกำหนดหนึ่งทุ่มตรง — เวลาที่ประตูรั้วเหล็กหอพักจะปิดลง
นักเรียนหอพักอีกหลายคนทยอยเดินกลับเข้าพื้นที่ เสียงพูดคุยเซ็งแซ่ที่จับใจความไม่ได้ว่าพูดคุยเรื่องอะไรกันบ้าง นักเรียนหญิงบางคนยืนเกาะรั้วคุยกับนักเรียนชายที่กำลังคบหากันอยู่แบบไม่อายสายตาเพื่อนๆ บางคนตั้งใจทำแบบนั้นเพื่อจะอวดเพื่อนว่า ‘ฉันมีแฟนแล้วนะ แฟนฉันหน้าตาดีนะ’ มากกว่าจะอยากคุยกับแฟนจริงๆ ซะอีก
“เราไปอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวกันก่อนดีกว่าเนอะ ค่อยลงมากินข้าวกัน” จูนเสนอ
“เจ๊กินไรดี เดี๋ยวลูกับจูนจะไปสั่งไว้ก่อน เผื่อคิวเยอะจะได้ไม่ต้องรอนาน เจ๊ขึ้นไปข้างบนก่อนได้เลย” ลูซี่เห็นด้วยและรับอาสาดูแลผู้ชนะการแข่งชู้ตบาสในวันนี้
“เหมือนเดิมแหละ ผัดพริกไก่ราดข้าว เอาต้มยำด้วยดีมั้ย กินด้วยกัน” ลินดานึกถึงเมนูอาหารด้วยแววตาเป็นประกาย น้ำเสียงสดใส
“ใส่หอมใหญ่เยอะๆ ด้วยใช่มั้ยเจ๊ จูนรู้ว่าเจ๊ชอบ” จูนพูดอย่างอารมณ์ดี
“อื้มม ใช่ๆ ใส่ใจตลอดนะเราอ่ะ” ลินดายิ้มกว้าง พลางใช้กำปั้นขวาแกล้งต่อยเบาๆ เข้าที่ต้นแขนจูน
‘จ้อกก…’ เสียงจากท้องใครคนหนึ่งลั่นขึ้น บ่งบอกว่าหิวแล้ว ทั้งสามคนหัวเราะเสียงดังลั่น แล้วลินดาก็แยกตัวขึ้นไปยังห้องของตัวเอง จูนกับลูซี่รีบเดินผ่านห้องอ่านหนังสือตรงไปยังประตูทางออกไปแคนทีนที่ด้านหลังห้อง มีนักเรียนกลุ่มหนึ่งยืนออกันหน้าจุดสั่งอาหาร ลูซี่แทรกตัวเข้าไปเอื้อมหยิบกระดาษและปากกาเพื่อจดรายการอาหารที่จะสั่ง
‘ - ผัดพริกไก่ราดข้าว (ใส่หอมใหญ่) 1
- ผัดกระเพาทะเลราดข้าว 1
- หมึกผัดไข่เค็มราดข้าว 1
- ต้มยำรวมมิตรน้ำข้น เป็นกับข้าว (หอมใหญ่เยอะๆ) 1
- ไข่เจียวกุ้งสับ (ใส่หอมใหญ่ด้วย) 1
ใส่จาน เดี๋ยวลงมากินจ้า’
จูนเขียนรายการอาหารที่จะสั่งลงกระดาษ แล้วส่งให้แม่ครัว แล้วทั้งสองคนก็รีบขึ้นไปชั้นสอง — ห้องนอนของพวกเธอ
“เจ๊แกชอบกินหอมใหญ่ขนาดนั้นเลยหรอวะ” ลูซี่ถามขึ้นระหว่างเดินขึ้นบันได
“ใช่แก เจ๊ลินชอบกินผักทุกอย่างแหละ โดยเฉพาะหอมใหญ่เนี่ย เวลาเราไม่กินนะ เจ๊แกจะโกยไปหมดเลย” จูนบอก
ก่อนจะถึงห้องนอน จูนก้าวเท้าช้าลง ดึงแขนลูซี่เบาๆ ให้เดินช้าลงตามเธอ
“แกคิดเหมือนเรามั้ย…” จูนเอ่ยเสียงเบา “…ตอนเจ๊ลินชู้ตบาสแม่นโคตรๆ น่ะ เจ๊แกดูนิ่งผิดปกติเลยนะ ไม่ยิ้ม ไม่พูดสักคำ”
ลูซี่กลืนน้ำลายเบาๆ “จริง… ตอนนั้นเราก็ขนลุกอยู่เหมือนกัน แต่พอสะอึกทีเดียว กลับมาหัวเราะร่าเริงเหมือนเดิม… เหมือนเจ๊ลินคนเดิมเลย… นี่ถ้าเจ๊แกกลับลงมาอีก จะยังเป็นแบบนั้นมั้ยวะ”
“เราไม่รู้…” จูนส่ายหน้าช้าๆ เสียงแผ่วจนแทบไม่พ้นริมฝีปาก “…มันเหมือนเจ๊แกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เหมือนมีใครอีกคนซ่อนอยู่ในนั้น”
ลูซี่รีบเสริมขึ้น “ใช่! แกจำได้มั้ย ตอนที่กลับมาเปลี่ยนชุด เจ๊ลินหันไปมองเพื่อนกลุ่มนั้น… แค่แววตาอย่างเดียว เพื่อนพวกนั้นถึงกับถอยหลังเลยนะ มันไม่ใช่เจ๊ลินที่เรารู้จักแน่ๆ!”
ความเงียบโรยตัวปกคลุมรอบๆ สองคนมองหน้ากันเหมือนอยากได้คำยืนยัน แต่กลับได้เพียงความรู้สึกวูบวาบในอก… ความกลัวที่เริ่มก่อตัวขึ้นโดยไม่ได้นัดหมาย
“เอาเหอะ เรื่องนี้เราคงยังบอกใครไม่ได้ เดี๋ยวจะแตกตื่นกันไปหมด เราค่อยๆ ลองสังเกตต่อไปละกัน” จูนสรุป ทั้งที่ใจยังสั่นๆ
ลูซี่พยักหน้า “ใช่แก เราคงต้องทำทุกอย่างให้เหมือนปกติที่สุด รีบไปอาบน้ำกันเถอะ เดี๋ยวเจ๊แกรอ” เธอเร่งเพื่อน เพื่อจะได้รีบกลับไปเจอลินดา — ที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าใช่เธอหรือไม่
ระหว่างที่จูนจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำ ความคิดเกี่ยวกับลินดากลับวนเวียนไม่ยอมเลือนหายจากหัวเธอ ความรู้สึกมากมายประดังเข้ามาพร้อมกัน — ทั้งความหวาดกลัวต่อสิ่งที่ไม่อาจอธิบายได้ ความกังวลห่วงใยต่อเพื่อนรุ่นพี่คนสนิท และความลับที่ต้องเก็บงำเอาไว้เพียงลำพัง แต่ท่ามกลางอารมณ์หนักหน่วงเหล่านั้น ยังมีบางสิ่งที่คอยประคับประคองใจเธอให้ไม่ล้มลงง่ายๆ …นั่นคือมิตรภาพที่มั่นคงจากเพื่อนรัก — ลูซี่!! ผู้ที่ยังอยู่เคียงข้าง ไม่ทอดทิ้งกันในยามที่ทุกอย่างคลุมเครือที่สุด
อาหารทุกจานที่สั่งไว้ถูกจัดวางบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว จูนกับลูซี่นั่งฝั่งเดียวกัน ตรงกันข้ามกับลินดา โต๊ะอื่นๆ ก็มีเพื่อนนักเรียนมานั่งกันเต็มพื้นที่ อาจเพราะว่ากิจกรรมคัดตัวนักกีฬาโรงเรียนในวันนี้ทำให้หลายๆ คนกลับช้ากว่าปกติ จึงต้องมาอาศัยแคนทีนหอพักเช่นเดียวกับพวกเธอ
"เริ่มได้เลยทุกคน หิวจะแย่ วันนี้เสียพลังไปเยอะมากเลย" ลูซี่เปิดคนแรก
และอีกครั้ง ที่ลินดาสีหน้าเรียบเฉย ไม่พูดไม่จา…เธอนั่งเขี่ยหอมใหญ่แยกออกจากกับข้าวในจานของเธอ!!
“ใส่มาทำไมเยอะแยะเนี่ย” น้ำเสียงบ่งบอกความหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัดเจน
จูนและลูซี่รู้ได้ทันทีว่า นี่ไม่ใช่ลินดา!!
“เอ้าเจ๊ไม่กินเดี๋ยวจูนช่วยแยกออก สงสัยแม่ครัวจะทำผิดน่ะ” จูนรีบคล้อยตามทันที เพื่อลดความตึงเครียดของสถานการณ์ให้เบาบางลง
ลูซี่รีบตักหอมใหญ่ที่อยู่ในต้มยำออกแยกไว้—เธอเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วทันโดยที่จูนไม่ต้องบอก ในขณะที่จูนรีบตักไข่เจียวมาแยกหอมใหญ่ออก
“อ่ะเจ๊ ชิมต้มยำหน่อย นี่ๆ กุ้งตัวใหญ่มาก” ลูซี่ตักกุ้งใส่ในจานของลินดา
ท่ามกลางเสียงช้อนส้อมกระทบจานและเสียงพูดคุยจอแจของพื้นที่รับประทานอาหารประจำหอพัก บรรยากาศมื้อค่ำวันนั้นอึมครึมอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แม้ว่าลูซี่จะพยายามชวนคุยสร้างบรรยากาศสนุกสนาน แต่ก็เหมือนเป็นการคุยกันสองคนกับจูนซะมากกว่า ท่าทีนิ่งเฉยของลินดาทำให้รุ่นน้องทั้งสองคนอึดอัดใจและเป็นกังวลมากขึ้นไปอีก
“เจ๊ พรุ่งนี้วันพุธ เราไปตลาดนัดกันมั้ย” จูนลองชวนลินดาดูว่าเธอจะคิดยังไง เพราะถ้าหากเป็นลินดาจริง การไปเดินซื้อของกินของใช้ที่ตลาดนัดคือสิ่งที่เธอหลงรักเป็นชีวิตจิตใจ และเธอจะดีใจมากๆ ทุกครั้งที่มีเพื่อนไปด้วยกัน
“อืมม ก็ดีนะ” ลินดาตอบอย่างเย็นชา ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มแสดงความดีใจออกมาให้เห็นเลย ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง
“ลูไปด้วยนะ อยากกินลูกชิ้นทอด หืมม…นึกแล้วอยากจะกินตอนนี้เลยอ่ะ” ลูซี่รับเสนอตัวเข้าร่วม เธอไม่อยากปล่อยให้จูนตกเป็นผู้ประสบภัยคนเดียว และตั้งใจแล้วว่ายังไงก็จะร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกัน
ระหว่างที่ช่วยกันเก็บจานอาหารไปคืนให้กับร้านค้านั่นเอง สิ่งที่จูนรอคอยก็เกิดขึ้น...
‘อึกก’ ลินดาสะอึก ‘เจ๊จะเปลี่ยนไปอีกมั้ยนะ’ ทั้งจูนและลูซี่คิดเหมือนกัน แทบจะกลั้นหายใจรอดูสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา
“หืมม... อิ่มมากเลย ขอบใจนะน้องรักทั้งสอง อาหารค่ำมื้อนี้จัดเต็มจริงๆ” สีหน้า แววตา และท่าทางของลินดาหวนกลับมาเป็นปกติ
‘เจ๊กลับมาแล้ว จริงด้วย!! การสะอึกคือจุดเปลี่ยน!!” ลูซี่อดไม่ได้ที่จะหันมามองหน้าจูนที่มีสีหน้าตกตะลึงไม่แพ้กัน
จูนรีบปรับอารมณ์ตามลินดา “ใช่เจ๊ อิ่มแปล้เลย” เธอพูดด้วยน้ำเสียงสดใส หากแต่เก็บความกังวลใจไว้ลึกๆ
เธอกับลูซี่จะจัดการกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ได้อย่างไรกัน
เมื่อทั้งสามคนเดินเข้ามาภายในห้องอ่านหนังสือ ซึ่งเป็นทางผ่านไปยังบันไดที่อยู่กลางอาคารหอพัก ก็พบว่าเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆ มาพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว ใช่!! ถึงเวลากิจกรรมประจำวันพอดี
โดยปกติในกิจกรรมประจำวันจะเป็นการเช็คชื่อสมาชิกในแต่ละห้องนอน ต่อด้วยการแจ้งข่าวสารต่างๆ รวมถึงเน้นย้ำกฎกติกา แจ้งเตือนผู้ที่โดนหักคะแนนจากการทำผิดกฎของการอยู่ร่วมกันในหอพักแห่งนี้
ลูซี่ได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าประจำห้องนอนหมายเลขสอง เธอรีบไปหยิบกระดาษรายชื่อนักเรียนตามลำดับหมายเลขเตียงนอน มือซ้ายถือปากกา เงยหน้ามองหาเพื่อนแต่ละเตียงแล้วก้มลงติ๊กถูกในกระดาษ เธอจำเพื่อนและหมายเลขเตียงทุกคนในห้องได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องตะโกนเรียกชื่อเหมือนเทอมที่แล้ว
"วันนี้เช็คชื่อเสร็จแล้วแยกย้ายได้เลยค่ะ" ประธานหอพักนักเรียนหญิงประกาศ
นักเรียนต่างลุกขึ้นยืนพร้อมๆ กัน เสียงเก้าอี้เลื่อนดังระงม เพียงอึดใจห้องก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง
"เจ๊รู้สึกเพลียๆ สงสัยวันนี้จะหนักไปหน่อย" ลินดาพูดขึ้น พลางเดินขึ้นบันไดไปห้องนอน
"ว่าจะชวนไปนั่งคุยที่ห้องน้องก่อน เจ๊จะขึ้นห้องเลยป่าวล่ะ เดี๋ยวไปส่งที่ห้อง" จูนหยั่งเชิง
"เอ้าหรอ งั้นเจ๊แวะห้องพวกเธอก่อนก็ได้ นอนเล่น ฟังพวกเธอคุยกัน...ได้ป่ะล่ะ" ลินดามักจะชอบแหย่อย่างนี้เสมอ ตั้งแต่กลุ่มเพื่อนๆ ของเธอต่างคนก็ต่างมีกิจกรรมที่ตัวเองชอบแตกต่างกันไป เธอจึงมักจะมานั่งเล่นกันน้องๆ และน้องๆ เองก็มักจะมาปรึกษา ขอคำแนะนำและให้ลินดาช่วยทำการบ้านเสมอ
"ไปคุยกันที่เตียงแกละกันนะจูน เตียงฉันอยู่ใกล้ทางเดินเข้าออกห้อง เม้าท์มอยไม่สะดวก ฮ่า ฮ่า ฮ่า" ลูซี่เอามือป้องปากทำท่าเหมือนซุบซิบ พูดเสร็จก็หัวเราะร่า
ในห้องนอนตอนนี้ยังไม่ค่อยมีใครขึ้นมา ส่วนใหญ่จะอยู่ห้องอ่านหนังสือหรือไม่ก็ดูละคร แต่ก็พอจะมีเพื่อนบางคนประจำที่บนเตียงแล้ว บางคนกำลังสวดมนต์ก่อนนอน
และเมื่อทั้งสามคนเดินมาถึงเตียงของจูน ลินดาทิ้งตัวลงทั้งที่ยังไม่ทันได้นั่งด้วยซ้ำ!! หัวของเธอเกือบจะฟาดเข้ากับขอบเตียงชั้นบน และเป็นอีกครั้งที่จูนคว้าแขนหิ้วปีกเธอไว้ได้
"เฮ้ย!! อีกแล้วว่ะ เหมือนเมื่อคืนเลย" จูนอุทานตกใจ พร้อมกันนั้น ลูซี่รีบถลาเข้ามาช่วยพยุงลินดาให้นอนลง
ลูซี่ตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น เธอเพิ่งเคยเจออาการสับสวิทช์ของลินดาเป็นครั้งแรก ความรู้สึกเย็นวูบไปทั่วร่างกาย ขนแขนตั้งขึ้นอย่างไม่สามารถบังคับได้ ไฟในห้องดูเหมือนจะมืดสลัวลงทั้งที่ไม่มีใครปิดไฟแม้แต่ดวงเดียว เธอนั่งลงข้างๆ จูน เรียกได้ว่า 'นั่งเบียดจูน' น่าจะใกล้เคียงกว่า
"ยังไงวะแก...อันนี้คือยังไงอีกอ่ะ" เธอถามจูนเสียงแหบพร่า
"ก็นี่แหละที่เราเจอเมื่อวานกับเมื่อเช้าอ่ะ" จูนเล่าสิ่งที่ได้พบเจอมาก่อน
"เฮ้ยๆ เหมือนเจ๊แกฝันอะไรป่ะ ดูดิ่...ลูกตากลิ้งไปมาอ่ะ" ลูซี่ชี้ให้จูนดูความเคลื่อนไหวของลูกตาใต้เปลือกตาที่ปิดสนิทอยู่
"เออ แต่พอเจ๊ตื่น เราถาม...เจ๊แกว่าไม่ฝันอะไรเลย เรางงมาก" จูนบอก
"ลองปลุกมั้ย" ลูซี่เสนอ
จูนพยักหน้า "เจ๊ เจ๊ หลับแล้วหรอ" เธอพยายามปลุกลินดา แต่ลินดาไม่มีทีท่าว่าจะต้องสนองใดๆ ทั้งที่หลับไปยังไม่ถึงสามนาที
"ไม่ตื่น!! เหมือนเดิมเลย" จูนบอกลูซี่
"ไปตามครูเวรมั้ย เผื่อจะช่วยคิดว่าทำไงดี" ลูซี่เสนออีก "เจ๊แกจะตื่นมั้ยอ่ะ" น้ำเสียงบ่งบอกความกังวลใจ กลัวลินดาจะปลุกไม่ตื่น
ลูซี่ไม่รอคำตอบ รีบลุกเดินกึ่งวิ่งไปยังห้องครูเวรประจำหอพักวันนี้ เธอเคาะประตูห้องพักครูอยู่พักใหญ่
"ครูคะ ครูคะ เพื่อนหนูไม่รู้เป็นอะไรค่ะ ครูช่วยไปดูทีนะคะ" ลูซี่เรียกครูเวรอย่างเกรงใจ แต่ภายในใจร้อนรน คิดอะไรไม่ออก ทำอะไรไม่ถูก
ประตูห้องพักครูเปิดออก ท่าทางครูเหมือนเพิ่งออกจากห้องน้ำ ยังแต่งตัวไม่เรียบร้อยดี มีผ้าคาดผมอยู่บนศรีษะ
"ห้องไหน ไป…พาครูไปดูหน่อย" ครูเวรเดินตามลูซี่ ที่ตอนนี้เดินนำไปก่อนแล้ว
"ห้องสองค่ะครู ทางนี้ค่ะ" ลูซี่บอกน้ำเสียงตื่นเต้นและเร่งรีบ
เมื่อลูซี่และครูเวรมาถึงจุดเกิดเหตุ ก็พบว่า ลินดานั่งอยู่บนเตียงของจูน ก้มหน้านิ่ง ในขณะที่จูนกำลังพยายามถามอะไรบางอย่าง แต่ไม่มีคำพูดใดออกจากปากลินดาเลยแม้แต่คำเดียว
"ใครเป็นอะไร ไม่สบายรึเปล่า" ครูถามหานักเรียนที่เป็นต้นเหตุให้เพื่อนต้องไปตามเธอมา
ลินดาค่อยๆ หันหน้ามามองครูอย่างช้าๆ ชั่วระยะเวลาเพียงเสี้ยววินาทีที่ครูสัมผัสได้ถึงสายตาที่เกรี้ยวกราด ภายในห้องเงียบสงัด ครูผงะถอยหลังนิดนึง แต่ต้องเก็บความตกตะลึงนั้นไว้ เพื่อไม่ให้นักเรียนในห้องแตกตื่น
"หนูน่าจะเพลียจากการซ้อมบาสเมื่อตอนเย็น ไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ" ลินดาตอบครูด้วยน้ำเสียงเรียบปกติ
ครูสาวใช้หลังมือแตะที่หน้าผากลินดาที่ยังคงนั่งนิ่ง อุณหภูมิร่างกายเธอน่าจะสูงกว่าปกตินิดหน่อยจากการประมาณด้วยความรู้สึกของครู
"งั้นกินยาพาราหน่อยมั้ย แล้วก็นอนซะนะ พักผ่อนเยอะๆ" ครูแนะนำ "เธอตามมาเอายาที่ห้องครูให้เพื่อนกินก่อนนอนนะ" พลางชี้มาที่ลูซี่ แล้วเดินนำกลับห้องพักครูไป
ลูซี่หันมามองจูนด้วยสีหน้างุนงง 'อะไรกันวะเนี่ย' คือคำที่จะบรรยายความรู้สึกของเธอตอนนี้ได้ดีที่สุด
จูนยังนั่งอยู่ที่เดิม มองหน้าลินดาที่ไม่แสดงความรู้สึกใด ความเงียบเข้ายึดพื้นที่อีกครั้ง 'ขนาดครูยังตกใจเลย น่าจะช่วยอะไรเราไม่ได้แล้ว' เธอสังเกตเห็นตอนที่ครูผงะถอยหลังแม่ว่าจะแค่เสี้ยววินาทีก็ตาม ความรู้สึกภายในใจจูนตอนนี้ มันไม่ใช่ความกลัวอีกต่อไป!! แต่กลับกลายเป็นความเป็นห่วงลินดาที่มีมากขึ้นทวีคูณ
"เจ๊ มีอะไรอยากเล่าให้จูนฟังมั้ย" เสียงแผ่วเบาของจูนเบียดแทรกความเงียบขึ้นมา
ลินดาส่ายหน้า "ไม่มี...เจ๊ก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น บางทีก็เหมือนภาพตัดไปเฉยๆ เจ๊จำอะไรไม่ได้เลย"
ลูซี่เดินกลับมาพร้อมด้วยยาสองเม็ดและแก้วน้ำดื่ม ทันได้ยินประโยคที่ลินดากำลังบอกจูน
"เจ๊ลองกินยาแล้วนอนมั้ย เผื่อจะได้พักผ่อนมากขึ้นอย่างที่ครูบอก" ลูซี่เองก็จนปัญญาว่าจะช่วยเพื่อนยังไงดี
"อืม หวังว่าคงไม่มีอะไรอย่างนะ งั้นคืนนี้เจ๊นอนที่นี่อีกคืนละกัน เดี๋ยวจูนกับลูซี่จะคอยผลัดกันมาดูนะ" จูนเสนอ "ลูไปนอนก่อนได้เลย เดี๋ยวเราง่วงค่อยไปปลุก ผลัดเวรกัน" สิ่งเดียวที่จูนคิดออกในเวลานี้
"ได้แก มีอะไรเรียกได้เลยนะ" ลูซี่เห็นด้วยกับความคิดของเพื่อนรัก
ลินดาวางแก้วลงข้างเตียง เธอพยายามฝืนยิ้มให้เพื่อนทั้งสอง แม้ในดวงตายังคงแฝงไปด้วยความว่างเปล่าและสับสน
“เจ๊…พักเถอะนะ เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้น” จูนพูดเบาๆ พร้อมจัดผ้าห่มให้
ห้องทั้งห้องกลับสู่ความเงียบอีกครั้ง เสียงเข็มนาฬิกาบนหัวเตียงเดินไปช้าๆ คล้ายจงใจยืดเวลาให้ยาวนานกว่าปกติ จูนยังนั่งมองลินดาอย่างไม่วางตา ความรู้สึกบางอย่างบอกเธอว่า ถ้าหลับตาแม้เพียงเสี้ยววินาที อาจมีสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นแทรกเข้ามา
ก่อนที่เปลือกตาของลินดาจะปิดสนิท เธอเอ่ยประโยคสั้นๆ ที่ทำให้หัวใจจูนเต้นแรงจนแทบหยุด
“ถ้าเจ๊…ทำอะไรแปลกๆ …อย่าให้เจ๊อยู่คนเดียวนะ”
จูนชะงักไปทันที ความหมายของคำพูดนั้นยิ่งกว่าลางร้าย แต่เธอไม่กล้าถามต่อ ได้เพียงนั่งกุมมือของลินดาแน่น ปล่อยให้เพื่อนรุ่นพี่ค่อยๆ หลับไปภายใต้เงาความมืดที่กำลังคืบคลานคลี่คลุมห้อง
คืนนี้…ความเงียบไม่ได้หมายถึงความสงบ แต่คือการรอคอยบางสิ่งที่จะมาเยือนอีกครั้ง
ตอนต่อไป
ตอนที่ 7 # อย่าให้คลาดสายตา
#อำพันมรกต #ตัวตนที่หายไป
กดติดตาม กดใจ คอมเม้นต์ กดแชร์ ให้ด้วยนะคะ
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ตัวตนที่หายไป โดย อำพันมรกต
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย