11 ก.ย. เวลา 16:00 • สิ่งแวดล้อม

‘อินเดีย’ มี ‘สิงโต’ มากเกินไป เดินเกลื่อนเมือง บุกพื้นที่มนุษย์ หวั่นเกิดปัญหาระหว่างคนกับสัตว์

กรมป่าไม้ของรัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเผยแพร่ผลการสำรวจสำมะโนประชากรสิงโตครั้งแรกของประเทศนับตั้งแต่ปี 2020 พบว่า จำนวนสิงโตป่าของอินเดียเพิ่มขึ้น 32% ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา เป็น 891 ตัว
อินเดียพยายามอนุรักษ์สิงโตมาเป็นเวลานาน โดยตั้งอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ากีร์ในปี 1965 ปัจจุบันทำให้สิงโตได้กระจายตัวและตั้งถิ่นฐานใหม่นอกเขตกีร์ และพบได้ใน 11 เขตของรัฐคุชราต โดยในพื้นที่ส่วนนี้มีสิงโตอาศัยอยู่มากถึง 497 ตัว มากกว่าถิ่นที่ถูกอาศัยเดิมที่มีอยู่ 394 ตัว
นอกจากนี้ ยังมีสิงโตอาศัยอยู่แนวชายฝั่งของรัฐคุชราตอีก 212 ตัว ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวห่างไกลจากถิ่นที่อยู่อาศัยหลักมาก แต่มีต้นกระถินหางกระรอก เป็นแหล่งหลบภัยของสิงโตในตอนกลางวัน และสามารถออกมาหากินในทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ในเวลากลางคืนได้
ตั้งแต่ปี 2010 ประชากรสิงโตในรัฐคุชราตเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า และพื้นที่อยู่อาศัยของพวกมันเพิ่มขึ้น 75% จาก 20,000 เป็น 35,000 ตร.กม. แต่มีเพียง 250 ตร.กม. เท่านั้นที่อยู่ในเขตคุ้มครอง
สิงโต 45% อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ใช่ป่า เช่น พื้นที่รกร้าง พื้นที่เกษตรกรรม และบริเวณใกล้เคียงที่อยู่อาศัยของมนุษย์ ปัจจุบันมีการพบเห็นสิงโตในสถานที่ไม่ควรอยู่ เช่น บนระเบียงบ้าน ในลานจอดรถใต้ดินของโรงแรม และบนทางหลวงที่พลุกพล่านเป็นประจำ
ด้วยจำนวนสิงโตที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นกังวลว่าอาจจะเป็นปัญหาได้ หากอินเดียไม่มาตรการลดความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับสัตว์ และรับรองการอนุรักษ์ในระยะยาว เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. สิงโตตัวหนึ่งได้ขย้ำเด็กชายวัย 5 ขวบเสียชีวิตในเขตอัมเรลี รัฐคุชราต หลังจากลากเด็กออกจากฟาร์ม
1
จากการศึกษาความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับสิงโตในวารสาร Conservation Biology พบว่ามีรายงานสิงโตโจมตีฟาร์มปศุสัตว์ในรัฐคุชราตเพิ่มขึ้น 10% ต่อปี และจำนวนสัตว์ในฟาร์มถูกฆ่าเพิ่มขึ้น 15% ต่อปี
จำนวนสิงโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็เป็นเรื่องที่ดี แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการอนุรักษ์ แต่ขณะเดียวกันการเพิ่มขึ้นของสิงโตก็ทำให้ชีวิตของผู้คนนับหมื่นตกอยู่ในความเสี่ยง และไม่เว้นแม้แต่ตัวมันเอง เพราะมีหลายครั้งที่เกิดความขัดแย้งระหว่างคนกับสิงโต เนื่องจากพวกมันบุกรุกพื้นที่ของมนุษย์ และมีแนวโน้มที่สิงโตจะโจมตีผู้คนมากขึ้น
อ่านต่อ :
โฆษณา