🃏 เกมชิงเก้าอี้นายกฯ: พรรคประชาชน “ถือไพ่” ทำไทยลุ้นระทึก
Political Poker: People’s Party Keeps Thailand Guessing on the Next PM
🔶 ฉากเปิด
หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยปลดนางสาวแพทองธาร ชินวัตร พ้นตำแหน่ง นายภูมิธรรม เวชยชัย ขึ้นรักษาการนายกฯ ขณะที่สภายังไม่กำหนดวันโหวตผู้นำคนที่ 32 ชัดเจน ทำให้ “พรรคประชาชน” ซึ่งมี ส.ส. 143 คน กลายเป็นตัวแปรชี้ขาด และยัง “ไม่ตัดสินใจ” ว่าจะเทไปฝั่งเพื่อไทยหรือภูมิใจไทย
ตามคำยืนยันของโฆษกพรรค พริษฐ์ วัชรสินธุ ที่บอกว่าพรรคยังชั่งน้ำหนักทางเลือกและเสียงสมาชิกทั่วประเทศอยู่ (มีประชุมเพิ่มวันนี้) โดยย้ำว่าทางออกที่ตรงหลักการคือ “ยุบสภาเลือกตั้งใหม่” มากกว่าการตั้งรัฐบาลสืบเนื่องร่วมกันสองขั้วใหญ่
🟥 แรงสั่นสะเทือนต้นตอ
คำวินิจฉัยศาลฯ ปลดนายกฯ จากกรณีโทรศัพท์คุยกับอดีตผู้นำกัมพูชา ทำให้เกิดสุญญากาศทางการเมืองทันที และเปิดทางต่อรองตั้งรัฐบาลใหม่แบบเร่งด่วน โดยมี 2 ชื่อหลักบนกระดานคือ นายชัยเกษม นิติสิริ (พรรคเพื่อไทย) และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) ที่ต่างเร่งล็อบบี้เสียง "พรรคประชาชน" ให้ทันเกม
🟡 เส้นแดงของ "พรรคประชาชน"
พรรคประกาศชัด “ไม่สนับสนุนสูตรเพื่อไทยจับมือภูมิใจไทยเพื่ออยู่ต่ออีก 2 ปี” เพราะมองว่าไม่ตอบโจทย์ประชาธิปไตยและความคาดหวังประชาชน พร้อมกังวลการได้ผู้นำด้วยวิธีไม่เป็นประชาธิปไตย จึงต้อง “ลงมือ” ไม่ปล่อยให้ 2 ขั้วตัดสินใจลำพัง ขณะที่กระแส “ยุบสภา” ถูกหยิบมาพูดอีกครั้ง แต่ก็ถูกโต้แย้งว่ารักษาการนายกฯ อาจไม่ชอบด้วยอำนาจยุบสภา ข้อถกเถียงทางกฎหมายที่ร้อนแรงยิ่งขึ้น
🎭 สามพล็อตที่เป็นไปได้ และผลที่จะเกิดกับเศรษฐกิจไทย
✨ พล็อตที่ 1: ยุบสภา รีเซ็ตทั้งกระดาน
ความไม่แน่นอนจะพุ่งขึ้นทันที งบประมาณ–นโยบายใหม่ถูก “แช่แข็ง” ชั่วคราว ภาคลงทุนรัฐชะลอ โครงการใหญ่เสี่ยงเลื่อน ทุนต่างชาติรอความชัดเจน ค่าเงินบาทผันผวนตามข่าวการเมืองแบบวันต่อวัน ผู้ชนะคือหุ้นป้องกันความเสี่ยง–กระแสเงินสดคงที่ ส่วนผู้แพ้คือรับเหมา–วัสดุก่อสร้าง–ทีวีสื่อที่รอเม็ดเงินรัฐ
🧭 มุมคิดต่อยอด: ผู้ประกอบการปรับเกมด้วย “แผน A/B” — เร่งรายได้จากต่างประเทศ ตรึงต้นทุน และเก็บกระสุนสภาพคล่องไว้รอจังหวะหลังผลเลือกตั้งชัด
✨ พล็อตที่ 2: "พรรคประชาชน" หนุนเพื่อไทย (ชัยเกษม)
ถ้าเกิดรัฐบาลเสียงข้างมากที่ขับเคลื่อนแบบ “อนุรักษ์เสถียรภาพ-เดินหน้านโยบายต่อเนื่อง” ตลาดจะตีความบวกต่อกรอบงบประมาณ อุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐาน–พลังงาน–ท่องเที่ยว ได้แรงหนุนจากนโยบายรัฐที่แน่นอนขึ้น
🧭 มุมคิดต่อยอด: ผู้ประกอบการเตรียม “Pipeline โครงการ” ให้พร้อมยื่นทันทีเมื่อกรอบนโยบายคลายหมอก
✨ พล็อตที่ 3: "พรรคประชาชน" หนุนภูมิใจไทย (อนุทิน)
ธีม “สุขภาพ–เมืองอยู่ได้ คนอยู่ดี” และท้องถิ่นนิยมมีน้ำหนักขึ้น โครงข่ายคมนาคม–โรงพยาบาล–เศรษฐกิจชุมชน–ท่องเที่ยวเมืองรองได้อานิสงส์ นโยบายพืชพลังงาน–พืชเศรษฐกิจเฉพาะทางถูกจับตา
🧭 มุมคิดต่อยอด: ธุรกิจบริการสุขภาพ–โลจิสติกส์ภูมิภาค–ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ วางแผนบุกเมืองรองและเส้นทางชายแดน
หมายเหตุข่าว: สถานการณ์ข้างต้นยืนบนฐานข้อเท็จจริงล่าสุด
- ศาลฯ ปลดนายกฯ, PP ยังไม่ชี้ขาด
- สนามชิงเสียงยังเปิดกว้าง
- และยังมีดีเบตเรื่องอำนาจยุบสภาของรักษาการนายกฯ อยู่ระหว่างตีความ
🧩 Ripple Effect ต่อ “อุตสาหกรรม–นโยบาย” แบบเข้าใจง่าย
🛰️ เสถียรภาพการเมือง = ค่าเงินบาท & ต้นทุนการเงิน
ถ้า “ขาวสะอาด–เร็ว–ชัด” → ต้นทุนกู้ยืดลง/สเปรดบอนด์แคบลง โครงการลงทุนเอกชนเดินเร็วขึ้น
ถ้า “ยืดเยื้อ–ลุ้นยุบสภา” → เงินไหลเข้าชะลอ บอนด์ยีลด์เหวี่ยง ต้นทุนระดมทุนของธุรกิจขนาดกลาง–เล็กตึงตัว
🚧 นโยบายรัฐลงทุน
ชะงัก = ผู้รับเหมาหลัก–ซัพพลายเชนคอนกรีต–เหล็ก–ไฟฟ้า จังหวะรายได้เลื่อน
เดินหน้า = โครงสร้างพื้นฐาน/พลังงาน/ดิจิทัล เปิดประมูลใหม่–เร่งเบิกจ่าย
✈️ ท่องเที่ยว & ชายแดน
ผู้นำใหม่ที่ “โปร–ท่องเที่ยว” จะเร่งวีซ่า/เที่ยวบิน/อีเวนต์ เม็ดเงินไหลเข้าบริษัทสนามบิน–โรงแรม–ค้าปลีกท่องเที่ยว ขณะเดียวกัน สถานการณ์ชายแดนหลังดราม่าทางการทูตถูกจับตาอย่างมาก
📈 หุ้นเด่นที่ควรจับตา (SET/mai) — วิเคราะห์แบบไม่ซ้ำมุม
🛫 AOT (ท่าอากาศยานไทย)
ถ้าการเมืองคลี่คลายเร็วและรัฐบาลใหม่เดินหน้านโยบายอำนวยความสะดวกด้านวีซ่า พร้อมเพิ่มเส้นทางบินระหว่างประเทศ ปริมาณผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออกมักฟื้นอย่างรวดเร็ว รายได้จากค่าธรรมเนียมและเชิงพาณิชย์ในสนามบินจึงมีโอกาสเติบโตตามทันที ตรงกันข้าม หากการจัดตั้งรัฐบาลยืดเยื้อและค่าเงินบาทผันผวน นักท่องเที่ยวต่างชาติจะชะลอการตัดสินใจเดินทาง ทำให้กระแสเงินสดระยะสั้นอาจสะดุด
🏨 MINT (ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล)
เสถียรภาพทางการเมืองช่วยปลุกความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวและผู้จัดอีเวนต์ ส่งผลให้การจองห้องพักและราคาขายเฉลี่ยของเครือโรงแรมทั้งในยุโรปและไทยกลับมาแข็งแรง โดยเฉพาะช่วงไฮซีซัน หากรัฐบาลผลักมาตรการส่งเสริมท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ผลบวกจะส่งผ่านมายังกำไรของกลุ่มโรงแรมและธุรกิจอาหารอย่างชัดเจน
🏥 BDMS (กรุงเทพดุสิตเวชการ)
นโยบาย “เมดิคัลฮับ” ที่จริงจังและกติกาวีซ่าที่เป็นมิตรกับผู้ป่วยต่างชาติ ช่วยให้เคสเข้ารับการรักษาจากต่างประเทศกลับมาคึกคักและดันอัตรากำไรดีขึ้น เพราะรายได้ต่อเคสสูงกว่าตลาดในประเทศ อย่างไรก็ดีความตึงเครียดทางการทูตหรือข้อจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศอาจทำให้เคสต่างชาติชะลอลงเป็นระยะ
🛒 CPAXT (ซีพี แอ็กซ์ตร้า)
มาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของภาครัฐ เช่น โครงการเงินดิจิทัลหรือการลดภาระค่าครองชีพ มักสะท้อนมายอดขายในช่องทางค้าส่งและค้าปลีกค่อนข้างเร็ว หากการเมืองนิ่ง ผู้ประกอบการรายย่อยกล้าสต็อกสินค้าเพิ่มและจัดโปรโมชันมากขึ้น ทำให้ยอดขายสาขาเดิมมีโอกาสเติบโต แต่ถ้าความไม่แน่นอนยืดเยื้อ ผู้ค้าปลีกจะระมัดระวังมากขึ้น ส่งผลให้รอบหมุนสินค้าช้าลง
💳 WSOL (ดับบลิว เอส โอ แอล)
ทิศทาง “รัฐบาลดิจิทัล” และการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ลึกขึ้น เปิดทางให้แพลตฟอร์มจุดชำระเงินและเครือข่ายบริการของ WSOL ขยายการใช้งานในวงกว้างได้ง่ายขึ้น ทั้งในภาคประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อย หากรัฐเดินหน้าโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัลหรือเชื่อมต่อบริการภาครัฐผ่านช่องทางดิจิทัลจริง การเติบโตของจำนวนธุรกรรมและพันธมิตรเชิงระบบจะเด่นชัดมากขึ้น
🚚 SJWD (เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์)
นโยบายผลักดันเขตเศรษฐกิจตะวันออก ด่านศุลกากรสมัยใหม่ และโครงข่ายโลจิสติกส์ชายแดน ช่วยให้ปริมาณงานคลังสินค้า โดยเฉพาะคลังเย็น และงานขนส่งข้ามแดนเพิ่มขึ้นตามการค้าในภูมิภาค หากรัฐบาลใหม่เร่งเปิดด่านและอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร การหมุนเวียนของสินค้าจะลื่นไหลและสะท้อนเป็นรายได้ที่มั่นคงกว่าเดิม
🏦 KBANK (ธนาคารกสิกรไทย)
เมื่อความไม่แน่นอนทางการเมืองลดลง ความเสี่ยงด้านเครดิตของลูกหนี้โดยรวมจะดีขึ้นและต้นทุนทางการเงินของระบบลดความตึงตัว ทำให้การปล่อยสินเชื่อโครงการภาครัฐและธุรกิจเอกชนมีโอกาสเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ธนาคารยังได้ประโยชน์จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับมาคึกคักซึ่งช่วยลดแรงกดดันต่อการตั้งสำรอง ขณะเดียวกันหากการเมืองล่าช้า ความต้องการสินเชื่ออาจชะลอและความเสี่ยงหนี้เสียสูงกว่าที่ควรจะเป็น
📡 TRUE (ทรู คอร์ปอเรชั่น)
ความชัดเจนด้านคลื่นความถี่ การกำกับดูแล และแผนดิจิทัลของภาครัฐ เป็นตัวเร่งให้การลงทุนโครงข่ายและศูนย์ข้อมูลเดินตามแผน หลังการควบรวมกิจการ บริษัทมีโอกาสปรับแพ็กเกจและบริการข้อมูลให้คุ้มค่ามากขึ้น ซึ่งช่วยยกระดับรายได้ต่อผู้ใช้ หากกฎเกณฑ์และการจัดสรรคลื่นมีทิศทางแน่นอน การเติบโตของบริการดิจิทัลสำหรับหน่วยงานรัฐและเอกชนจะยิ่งชัด
⚡ GULF (กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์)
โครงการขนาดใหญ่ทั้งด้านพลังงาน โครงสร้างพื้นฐานท่าเรือ และเครือข่ายดิจิทัล ต่างต้องพึ่งพาความชัดเจนของนโยบายและกระบวนการอนุมัติสัญญาระยะยาว หากรัฐบาลใหม่เดินเครื่องอนุมัติเร็ว โครงการที่ค้างอยู่จะถูกปลดล็อกและสะท้อนมูลค่าในงบประมาณทีละช่วง แต่ถ้ากระบวนการล่าช้า การรับรู้รายได้และความคืบหน้าโครงการก็จะถูกร่นเวลาออกไป
🔌 BGRIM (บี.กริม เพาเวอร์)
ทิศทางค่าไฟฟ้าผันแปรตามสูตรของภาครัฐและต้นทุนเงินกู้เป็นตัวแปรสำคัญต่อกำไรของโรงไฟฟ้าเอกชน หากดอกเบี้ยเริ่มลดลงและนโยบายพลังงานมีเสถียรภาพ การปิดดีลโครงการใหม่ทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้านจะทำได้ง่ายขึ้น ทำให้การเติบโตระยะกลางน่าเชื่อถือมากขึ้น
🔋 EGCO (ผลิตไฟฟ้า)
พอร์ตโรงไฟฟ้าที่มีสัญญาซื้อขายระยะยาวช่วยสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคง การเมืองที่นิ่งช่วยให้การรีไฟแนนซ์หนี้และการเข้าซื้อโครงการใหม่ทำได้ในเงื่อนไขที่เป็นประโยชน์มากขึ้น แม้ราคาหุ้นอาจผันผวนตามข่าวนโยบาย แต่ฐานรายได้จากสัญญายังคงเป็นแบ็กโบนที่รองรับความเสี่ยง
🏗️ STECON (สเตคอน กรุ๊ป)
ผลประกอบการผูกกับรอบเปิดประมูลและความเร็วการเบิกจ่ายภาครัฐอย่างใกล้ชิด หากได้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่เร็วและมีการเร่งโครงการรถไฟ มอเตอร์เวย์ และสนามบิน มูลค่างานในมือจะเพิ่มและทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง แต่หากเดินเข้าสู่เส้นทางยุบสภาหรือชะลอประมูล การรับรู้รายได้มีแนวโน้มยืดออกไป
🚇 BEM (ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ)
ทิศทางคมนาคมในกรุงเทพฯ ทั้งการต่ออายุสัมปทาน การขยายเส้นทางรถไฟฟ้า และโครงสร้างค่าโดยสาร ล้วนเป็นตัวกำหนดรายได้หลักของบริษัท หากรัฐตัดสินใจได้เร็วในประเด็นเหล่านี้ ปริมาณผู้โดยสารและรายได้ค่าผ่านทางจะเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น ในทางกลับกัน ความล่าช้าในการตัดสินใจจะทำให้โครงการสำคัญหยุดรอและกระทบต่อประมาณการเติบโต
🧠 กลยุทธ์นักลงทุน–ผู้ประกอบการ (สรุปสั้น ใช้ได้จริง)
🟢 รับความไม่แน่นอน: จัดพอร์ตแบบ Barbell ส่วนหนึ่งถือสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ/เงินสด อีกส่วนคัดหุ้นคุณภาพที่ได้อานิสงส์ทุกพล็อต (สนามบิน–ไฟฟ้า–ดิจิทัลรัฐ)
🔵 เล่นธีมตามเหตุการณ์: หากเห็นสัญญาณ “ตั้งรัฐบาลเร็ว” เพิ่มน้ำหนักรับเหมา–พลังงาน–ท่องเที่ยว ถ้า “ยืดเยื้อ” หมุนสู่หุ้นกระแสเงินสดมั่นคง–สาธารณูปโภค
🟣 เก็บกระสุน: ใช้ข่าวการเมืองเป็นจังหวะ “Scale-in” แทนไล่ราคา รอ confirmation จากเสถียรภาพนโยบาย
🗺️ เช็คพอยต์ข่าวที่ต้องเฝ้าดู (อัปเดตต่อเนื่อง)
1. เส้นตาย–วันนัดโหวตนายกฯ ของรัฐสภา
2. จุดยืนสุดท้ายของพรรคประชาชน หลังรับฟังสมาชิก
3. ข้อสรุปกฎหมายอำนาจยุบสภาของรักษาการนายกฯ
4. สัญญาณแรกของคณะรัฐมนตรี–นโยบายเร่งด่วน
🗣️ ร่วมวงสนทนา
- คุณคิดว่า “พล็อตไหน” จะเกิดขึ้นจริง — ยุบสภา หรือ พรรคประชาชนหนุนเพื่อไทย หรือเทให้ภูมิใจไทย?
- และผลต่อธุรกิจ–หุ้นในพอร์ตของคุณจะเป็นอย่างไรบ้าง (ท่องเที่ยว รับเหมา พลังงาน ดิจิทัลรัฐ โลจิสติกส์ ธนาคาร)?
มาเล่าให้ฟังกันหน่อยนะคะ
Hashtags:
#ประชาธิปไตยระอุ #ThaiPolitics #ThailandPM #พรรคประชาชน #เพื่อไทย #ภูมิใจไทย #รัฐสภา #ยุบสภา #โหวตนายก #นโยบายรัฐ #เสถียรภาพการเมือง #RippleEffect #SET #หุ้นไทย #WorldScope #WorldScopeTH
Reference: The Thaiger
Political poker: People’s Party keeps Thailand guessing on next PM
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
