เซนเน่อ ลัมเมนส์ : งานง่าย ๆ เพื่อให้ได้เป็นมือ 1 ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด | Main Stand
งานของ เซนเน่อ ลัมเมนส์ ง่ายมาก ๆ ในการเป็นมือ 1 ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะเขาแค่ทำให้ดีกว่านายทวารที่ผลัดกันพลาดแทบทุกสัปดาห์อย่าง อองเดร โอนาน่า และ อัลตาย บายินดีร์
เพียงแต่ว่าภายใต้คำว่า "ง่าย" เมื่อเจาะลงไปแล้วมัน "โคตรยาก" เพื่อให้ได้เป็นผู้รักษาประตูมือ 1 ที่ไว้ใจได้
ดาวรุ่งจากลีกเบลเยียมรายนี้เป็นใคร มีดีพอจะทำงานง่าย ๆ ที่แสนจะยากนี้ได้หรือไม่ ? ติดตามกับ Main Stand
เป็นใครมาจากไหน ?
เซนเน่อ ลัมเมนส์ เป็นชื่อที่น่าจะไม่คุ้นหูแฟนบอลบ้านเรามากนัก เพราะนอกจากจะค้าแข้งกับทีมอย่าง รอยัล อันท์เวิร์ป ในลีกเบลเยียมแล้ว เขาก็เพิ่งจะได้โอกาสในการเล่นฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยในช่วงแค่ราว ๆ 1 ปีที่ผ่านมาเท่านั้นเอง
ตัวของ ลัมเมนส์ เป็นเด็กฝึกหัดของ คลับ บรูช สโมสรอันดับ 1 ของลีกเบลเยียมในเวลานี้ ช่วงที่เขายังเป็นดาวรุ่ง ลัมเมนส์ เคยสร้างชื่อในเกมระดับ ยู 19 ในแมตช์ ยูฟ่า ยูธลีก ที่ คลับ บรูช เจอกับ เรอัล มาดริด ซึ่งนเกมนั้น ลัมเมนส์ เติมเกมขึ้นมาโหม่งประตูจากลูกตั้งเตะในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ช่วยให้ คลับ บรูช เสมอกับ มาดริด 2-2 และเข้ารอบน็อกเอาต์ได้สำเร็จในปี 2019
จากนั้นเขาใช้เวลาอีก 2 ปี ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะของทีมชุดใหญ่ และได้รับการคาดหมายว่าจะกลายเป็นมือ 1 ของทีม คลับ บรูช รวมถึงสืบทอดตำแหน่งนายทวารมือ 1 ทีมชาติเบลเยียมต่อจาก ธิโบต์ กูร์กตัวส์ เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม เส้นทางของเขาถูกขวางไว้ตั้งแต่ด่านแรก เพราะ ซิมง มินโญเล่ต์ นายทหวารจอมเก๋าย้ายจาก ลิเวอร์พูล กลับมาอยู่กับ คลับ บรูช ทำให้ ลัมเมนส์ ต้องนั่งเป็นมือ 2 อยู่ถึง 2 ปีเต็ม ๆ โดยได้ลงบ้างตามโอกาส แต่มันก็ไม่มากพอสำหรับเขา เพราะแทบไม่ได้เล่นเกมใหญ่เกมสำคัญเลยนอกจาก มินโญเล่ต์ จะเจ็บ ดังนั้นเจ้าตัวจึงรอให้หมดสัญญา และย้ายไปอยู่กับ อันท์เวิร์ป ในปี 2023 เพื่อโอกาสที่มากขึ้น
บาร์ต แทมซิน ผู้จัดการประจำพื้นที่ลีกเบลเยียมของเว็บไซต์ชื่อดังอย่าง Transfermarkt และเคยเป็นอดีตแมวมองของ คลับ บรูช เล่าถึง เลมเมนส์ ว่า
"ที่ บรูช แลมเมนส์ ได้รับการยกย่องสูงมากจากคนในวงการฟุตบอลเบลเยียมช่วงที่เขาเป็นเยาวชน นี่คือหนึ่งในผู้รักษาประตูที่มีพรสวรรค์นับตั้งแต่ยุคของ ธิโบต์ กูร์กตัวส์ ที่แจ้งเกิดกับ เกงค์ เมื่อครั้งอดีต"
"เขาควรจะได้เล่น แต่โลกของมืออาชีพมันก็โหดร้ายแบบนี้แหละ ซิมง มินโญเลต์ ย้ายกลับมาและขวางทางของเขาไว้ มันเป็นเหตุผลที่เขาตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับทีม และเลือกย้ายไป อันท์เวิร์ป ในซัมเมอร์ปี 2023"
"ที่นั่นก็ไม่ได้ง่ายไปกว่ากันเท่าไรนัก เพราะช่วงแรก ๆ เขาก็เป็นตัวสำรองของ ฌอง บูเตซ ก่อนที่เขาจะค่อย ๆ ฉายแววโดดเด่นและกลายเป็นประตูมือ 1 ของ อันท์เวิร์ป เต็มตัวในซีซั่นที่แล้ว"
แทมซิน ยังเปิดเผยมุมมองถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของ ลัมเมนส์ ว่า มีจุดแข็งที่เรื่องของการมีสมาธิและสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง มีความเยือกเย็น มีปฏิกิริยาและการเซฟที่โดดเด่น ส่วนจุดอ่อนนั้นยังมีอีกไม่น้อย เพราะถึงแม้จะถนัดทั้ง 2 เท้า แต่การเตะเปิดเกมของเขานั้นไม่ดีนัก ในปีที่แล้ว การเปิดเกมพลาดของเขานำมาซึ่งการเสียประตู 2-3 ลูกเป็นอย่างน้อย
และเพื่อต้องไปให้ถึงจุดที่เรียกว่าประตูแถวหน้า แทมซิน เชื่อว่า ลัมเมนส์ ยังต้องแก้เรื่องการออกบอลด้วยเท้าอีกพอสมควร แต่ก็เชื่อว่ายังมีโอกาสที่เขาไปถึงจุดนั้นได้
ปีที่แล้วเล่นอย่างพระเอก
ไปกันให้ลึกขึ้นอีก เพื่อที่จะดูว่า ลัมเมนส์ พร้อมสำหรับการเป็นมือ 1 ของ แมนฯ ยูไนเต็ด แค่ไหน ?
ประการแรก เขามีความเป็น Shot Stopper หรือสายเซฟประตูที่ยอดเยี่ยมมาก จากสถิติกับ อันท์เวิร์ป ในซีซั่นที่แล้ว หากวัดกับนายประตูทุกคนใน 8 ลีกยุโรป ลัมเมนส์ คือผู้รักษาประตูที่มีค่าการเซฟเป็นอันดับ 3 รองจาก ดาวี่ รูฟ ของ เกนท์ และ เยวาน ดิยุฟ จาก แร็งส์ ในเลิกเอิง
ส่วนสถิติที่น่าสนใจอื่น ๆ คือ ลัมเมนส์ มีสถิติการเซฟจากลูกยิงที่มีโอกาสเข้าประตู (PSxG) มากที่สุดในลีก และเซฟไปทั้งหมด 127 ครั้ง คิดเป็น 81.4% และสิ่งที่ยืนยันว่าเขาเป็นผู้รักษาประตูที่เยือกเย็น นิ่งสงบในสถานการณ์กดดันได้ก็คือ การเซฟจุดโทษได้ถึงหมด 5 ครั้งจากการโดนยิงทั้งหมด 7 ครั้ง ไม่มีผู้รักษาประตูคนไหนใน 10 ลีกชั้นนำของยุโรปที่เซฟลูกโทษได้มากกว่าผู้รักษาประตูทีมชาติเบลเยียมรุ่นอายุต่ำกว่า 21 ปีคนนี้ในช่วงเวลาดังกล่าว
คาร์ล อังกา และ แมตต์ พิซโดรว์สกี้ 2 นักวิเคราะห์จาก The Atheltic เสาะหาข้อมูลเหล่านี้มานำเสนอ และอธิบายต่อว่า สไตล์การเล่นของ ลัมเมนส์ ชวนให้นึกถึงผู้รักษาประตูในความทรงจำของแฟน แมนฯ ยูไนเต็ด หลาย ๆ คน อาทิ ดาบิด เด เคอา ที่เก่งมากในสถานการณ์ดวลกันแบบ 1-1 ปฎิกิริยาในการออกตัวดีเยี่ยม ออกมาปิดมุมด้วยความเร็วและความดุดัน ปิดได้มิด จากการมีความสูง 195 เซนติเมตร
"สิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากผู้รักษาประตูดาวรุ่งคนอื่นๆ คือการยืนตำแหน่ง เขารักษาสมดุลได้ดี และเป็นคนที่สามารถตั้งท่ารับแบบบีบให้กองหน้าคู่แข่งต้องตัดสินใจยาก การเซฟแต่ละครั้งของเขาคล้าย ๆ กับ เด เคอา ที่มักจะใช้เท้าช่วยเซฟในระยะที่โดนยิงจ่อ ๆ"
"เขามีเทคนิคการยืนตำแหน่งและปิดมุมได้ดี สมดุลดีมาก ทำให้เขาสามารถพุ่งปัดได้ทั้ง 2 ทิศทางเมื่อบอลออกจากเท้าคนยิง" คาร์ล อังก้า ว่าถึงจุดแข็ง ก่อนจะตบกลับมาเรื่องจุดอ่อนว่า
"อย่างไรก็ตาม การเล่นของเขามีความเสี่ยง เพราะการชอบก้าวขึ้นมาด้านหน้าเพื่อปิดมุมยิงก่อน 1 จังหวะ หากเขาโดนคู่แข่งจับทางได้ก็จะทำให้เขาโดนยิงย้อนทางได้ง่าย และเขาจะกลับมาเซฟได้ช้าไป การยืนตำแหน่งที่ดุดันของเขาอาจจะทำให้คู่แข่งดึงเขาออกมานอกกรอบประตูในบางครั้ง และมันจะทำให้เกิดช่องว่างให้ฝ่ายรุกฉวยโอกาสนี้ได้"
สิ่งเหล่านี้หาดูได้ไม่ยาก เชื่อว่าหลายคนน่าจะเห็นในคลิปการเล่นของเขามาแล้วทั้งในแบบที่ "ตัดเฉพาะตอนเซฟ" หรือ "ตัดเฉพาะตอนพลาด" ... แล้วสิ่งที่เขาทำได้นี้จะดีพอสำหรับการเป็นมือ 1 ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด หรือไม่ ?
เรื่องง่ายก็มี...เรื่องที่ยากก็เยอะ
จริง ๆ ก็ดังที่เราได้กล่าวเอาไว้ในข้างต้นว่า งานของ ลัมเมนส์ ง่ายนิดเดียว เพราะแค่เขาเล่นให้ไว้ใจได้มากกว่า โอนาน่า และ บายินดีร์ ที่สลับกันพลาดในทุกสัปดาห์ก็พอแล้ว ... การเล่นให้ดีกว่า โอนาน่า และ บายินดีร์ นั้นไม่ยากเลย แต่ที่ยากอีกระดับก็คือ การเป็นผู้รักษาประตูที่ไว้ใจได้ ในสโมสรที่ถูกจับจ้องทุกความผิดพลาดอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด
การเป็นผู้รักษาประตูของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเวลานี้ถือว่าเป็นงานกดดัน ใครที่มาอยู่ตรงนี้จะต้องถูกจับตามองทุกจังหวะ ทุกอย่างที่คุณทำ จะถูกจับมาขยายให้เป็นเรื่องใหญ่ทั้งหมด สิ่งเดียวที่ผู้รักษาประตูของ แมนฯ ยูไนเต็ด จะทำให้ตัวเองหลุดพ้นจากคำวิจารณ์ได้คือ การเล่นในมาตรฐานระดับผู้รักษาประตูแถวหน้า ลูกยาก ๆ มีเซฟให้เห็น ส่วนลูกง่าย ๆ ลูกหมู ๆ ต้องห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะจะกลายเป็นแผลที่โดนขยี้ได้ง่ายที่สุด
ในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ถ้าใครจิตใจไม่แข็งพอ รับรองได้ว่าเสียหลักยาว ๆ แบบที่ โอนาน่า และ บายินดีร์ เป็นในเวลานี้ ความไม่มั่นใจของพวกเขาไม่ต้องเป็นยอดโค้ชก็สามารถรับรู้ได้ เพราะสีหน้า แววตา และอาการในสนามที่เงอะ ๆ งะ ๆ งก ๆ เงิ่น ๆ เหมือนคนไม่มั่นใจ ได้ตอบแทนทั้งหมดแล้ว
แม้ ลัมเมนส์ จะได้รับคำชมเรื่องความแข็งแกร่งของจิตใจและความนิ่งในสถานการณ์กดดัน แต่การเล่นกับ อันท์เวิร์ป และ ยูไนเต็ด มันเป็นคนละเรื่องกัน ความกดดันทั้ง 2 ที่แตกต่างกันมาก ๆ และเขากำลังจะได้ทดสอบสิ่งนี้ด้วยตัวเองว่าในบรรยากาศที่ตึงเครียด และทุกคนจ้องตาไม่กระพริบ เขาจะรับมือและเล่นในมาตรฐานที่สูงกว่า โอนาน่า และ บายินดีร์ ได้หรือไม่
นี่ไม่ใช่การมองโลกให้แย่เกินกว่าเหตุ เพราะสิ่งที่ โอนาน่า และ บายินดีร์ เจอมาก่อน มันบอก ลัมเมนส์ แบบนั้นจริง ๆ ... ส่วนจะทำได้หรือไม่ นั่นขึ้นอยู่กับว่าเขาเป็นผู้รักษาประตูที่มีคุณสมบัติพิเศษมากแค่ไหน เพราะในตำแหน่งนี้ที่ ยูไนเต็ด แค่เซฟลูกยิงเก่ง ไม่เพียงพอแน่นอน
ลัมเมนส์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อในบ้านเกิดว่า ตัวของเขาพยายามจะเป็นคนที่เก่งขึ้นอีกให้ได้ในทุกวัน ๆ ด้วยความที่เขาเป็นคนแบบ Perfectionist มันทำให้เขากลับมาทบทวนความผิดพลาดของตัวเองเสมอ และเขารู้ว่าตัวเองยังห่างไกลจากเป้าที่หวังไว้ ดังนั้นตลอดช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา เขาจึงเป็นคนที่ต้องขอเทปบันทึกการแข่งขัน และบันทึกการเล่นของเขากลับมาศึกษาด้วยตัวเองเป็นประจำ
เขาเปิดเผยว่า ตัวเองกำลังจะแก้ไขสิ่งเหล่านี้เพื่อให้เกิดภาพจำในหัว หรือเกิด Memory Muscle ที่ทำให้ร่างกายสามารถจดจำสิ่งที่ถูกต้องควรทำได้อย่างอัตโนมัติให้ได้ เพื่อลบจุดอ่อนที่เขามีให้หมดในอนาคตอันใกล้นี้
ไม่นานมานี้ ธิโบต์ กูร์กตัวส์ ก็ชม ลัมเมนส์ ผ่านการสัมภาษณ์กับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ว่า “เขามีลักษณะพฤติกรรมที่เหมาะกับผู้รักษาประตูสมัยใหม่ สงบนิ่ง มีความมั่นใจ และมีศักยภาพให้พัฒนาได้อีกมาก เขาคือประตูพรสวรรค์สูง แม้ประสบการณ์อาจยังน้อย แต่ด้วยสไตล์ของเขา น่าจะเหมาะสมกับพรีเมียร์ลีก”
ประโยคนี้จากคนที่เคยเป็นผู้รักษาประตูจากลีกเบลเยียม ก้าวข้ามาเล่นให้กับทีมยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีก และกลายเป็นประตูระดับท็อปของโลก อาจช่วยทำให้แฟนผีเบาใจได้บ้างระดับหนึ่ง
แต่บททดสอบที่ดูง่าย ๆ นี้ ไม่สามารถแก้โจทย์ได้เพียงการคาดเดา ลัมเมนส์ จะต้องได้ลงสนามรับมือกับมันเท่านั้น ... ทางเดียวที่เขาจะรอด คือเขาต้องเล่นด้วยมาตรฐานที่คงที่ ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนทุกคนเห็นการเซฟของเขา หรือการทำให้แนวรับของทีมดูสงบนิ่งเป็นเรื่องธรรมดา
ถ้าทำได้ การเป็นเป้าสายตาก็จะจบลง และเขาจะได้มีสมาธิโฟกัสกับงานของตัวเองอย่างเต็มที่ โดยที่ไม่ต้องโดนสื่อตามจับผิดตามขยี้ เหมือนที่ โอนาน่า และ บายินดีร์ เป็น ... ตรงนี้แหละงานยากของจริง ยิ่งกว่าการแย่งตำแหน่งมือ 1 จากทั้ง 2 คนด้วยซ้ำ
บทความโดย : ชยันธร ใจมูล
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
