3 ก.ย. เวลา 07:30 • การเมือง

“อนุทิน” จรดปากการับข้อตกลงพรรคประชาชน ขอบคุณหนุนเป็นนายกฯ คนที่ 32

“อนุทิน” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จรดปากการับข้อตกลงพรรคประชาชน ขอบคุณหนุนเป็นนายกฯ คนที่ 32 พร้อมเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ยุบสภาใน 4 เดือน ย้ำ พูดแล้วทำ
วันที่ 3 กันยายน 2568 ภายหลัง นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน มีมติคณะกรรมการบริหารพรรคประชาชน โหวตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 จากพรรคภูมิใจไทย โดยมีเงื่อนไขว่ามติดังกล่าวจะมีผลก็ต่อเมื่อพรรคภูมิใจไทยลงนามในข้อตกลงร่วมกัน
1
ในขณะเดียวกัน ทางด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่ามีการดำเนินการทูลเกล้าฯ เรื่องยุบสภาแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2568 หลังจากนี้เป็นเรื่องของพระราชอำนาจ
1
เวลาประมาณ 10.40 น. พบว่า สส. และพรรคที่ร่วมสนับสนุน นายอนุทิน ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทย ทยอยเดินทางเข้าไปยังห้องประชุม อาทิ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการศึกษา และหัวหน้าพรรคกล้าธรรม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม นำ สส.พรรคกล้าธรรมมา นายสุชาติ ชมกลิ่น สส.บัญชีรายชื่อ
และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ นำ สส.บางส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติมา กลุ่ม สส.เพชรบูรณ์พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งนำมาโดย นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ รวมถึง นายศักดา วิเชียรศิลป์ สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย โดยมีพรรคภูมิใจไทยออกมารอต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
1
ต่อมาเมื่อเวลา 11.10 น. เปิดให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปยังห้องประชุม จากนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แถลงข่าวที่อาคารรัฐสภา ว่า สวัสดีพี่น้องสื่อมวลชนที่อยู่ที่อาคารรัฐสภา ขอกราบสวัสดีประชาชนพี่น้องคนไทยที่เคารพรักของเราทุกคนวันนี้ตนและบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 146 คน ที่อยู่ในที่นี้ จะขอทำการแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องของการจัดตั้งรัฐบาล
ซึ่งเมื่อเช้านี้ทุกคนคงได้รับทราบข้อมูลจากการแถลงข่าวของหัวหน้าพรรคประชาชนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตนได้นำเงื่อนไขและข้อสรุปที่ออกมาเป็นข้อตกลงร่วมระหว่างพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทยว่าด้วยกรณีการเลือกบุคคลไปดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาแจ้งให้กับบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 146 คนรับทราบ พร้อมถือโอกาสนี้แถลงข่าวให้พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพทุกท่านได้รับทราบสถานะของพวกเราในวันนี้
พวกเราทุกคนต้องขอขอบคุณพรรคประชาชน คณะกรรมการบริหารของพรรคประชาชน, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาชน เจ้าหน้าที่ พนักงานและพี่น้องประชาชนผู้สนับสนุนพรรคประชาชนทุกท่านที่ได้มีมติของที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาชนในการให้การสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 146 คน
ซึ่งมาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ได้มอบรายชื่อและให้คำมั่นกับพรรคประชาชนว่า จะให้การสนับสนุนตัวกระผมเป็นนายกรัฐมนตรี จะได้จัดตั้งรัฐบาลตามข้อเสนอของพรรคประชาชนซึ่งทุกคนได้ลงลายมือชื่อและเอกสารแสดงคำมั่นและผมจะได้จัดนำส่งให้กับผู้บริหารพรรคประชาชนไว้เป็นข้อมูลต่อไป
จากนี้ไปเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎรโดยประธานสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขอเรียนทุกท่านให้ทราบว่าพรรคภูมิใจไทยและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 146 คน ที่ได้มาปรากฏตัว
1
ณ ที่นี้ เราตระหนักดีว่าการจัดตั้งรัฐบาลที่กำลังจะดำเนินต่อไปจากนี้ พรรคประชาชนให้ความร่วมมือเสียสละในการที่จะหาทางออกให้กับประเทศไทยในช่วงสถานการณ์วิกฤติทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง และภัยธรรมชาติ
ส่วนเรื่องอื่นๆ ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนที่ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ พวกเราทุกคนจะร่วมกันทำหนังสือที่แสดงถึงความพร้อมที่จะให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาบรรจุวาระการเลือกนายกรัฐมนตรีเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรโดยเร็วที่สุด เพื่อเป็นการยืนยันให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้รับทราบว่าพวกเราทุกคนมีความพร้อม
ด้วยการสนับสนุนและความเข้าใจของพรรคประชาชนเรามีความมั่นใจว่าการจัดตั้งรัฐบาลชุดถัดไปนี้จะดำเนินไปได้ด้วยความราบรื่น และการทำงานของรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นตามข้อตกลงระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย เปรียบเสมือนพรรคภูมิใจไทยเป็นตัวแทนเพราะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะเป็นไปตามเงื่อนไขทั้ง 5 ข้อที่หัวหน้าพรรคประชาชนได้แถลงไปเมื่อเช้านี้
จากนั้นเวลา 11.22 น. นายอนุทิน จรดปากกาลงนามโดยมีพรรคร่วมและ สส.ทั้ง 146 คน เป็นสักขีพยาน ก่อนจะยกข้อตกลงร่วมที่มีลายเซ็นของนายณัฐพงษ์ กับนายอนุทิน ขึ้นให้สื่อมวลชนได้เก็บภาพ
ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังได้ขอบคุณเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 146 คน ที่สนับสนุนให้ตนได้รับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต้องถือเป็นความเสียสละ ความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่เราผ่านอุปสรรคต่างๆ มากมาย และผ่านความกดดัน สิ่งที่พวกเรามีอยู่ในหัวจิตหัวใจคือความรักชาติ รักแผ่นดิน ห่วงแหนแผ่นดิน และความจงรักภักดีต่อสถาบันอันเป็นที่เคารพสักการะสูงสุดของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ความรักพี่น้องประชาชน ความห่วงใยต่อคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน จึงทำให้พวกเราทุกคนตัดสินใจที่จะมาทำงานร่วมกัน
“ผมขอให้ความมั่นใจว่าพวกเราทุกคนรู้จักกันมาเป็นเวลาเนิ่นนาน รู้ฝีมือ รู้ถึงความทุ่มเทที่ให้กับประชาชนและประเทศชาติของเรา ประเทศไทยที่รักของเรา ขอให้ความมั่นใจว่าเราจะใช้เวลาทุกวัน ทุกนาที ทุกชั่วโมง ในการปฏิบัติหน้าที่รัฐบาลของพวกท่านให้ดีที่สุด ให้คุ้มค่าที่สุดกับความไว้วางใจที่พวกเรามีต่อกัน และความไว้วางใจที่พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่านได้มอบหมายให้เรามาทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรของท่านครับ”
เมื่อถามว่าขณะนี้มีการทูลเกล้าฯ ยุบสภาแล้ว กระบวนการเลือกนายกฯจะเป็นอย่างไร นายอนุทิน ตอบว่า ทุกอย่างมีขั้นตอน ขณะนี้มีสภาอยู่ ยังไม่ยุบ ไม่มีข้อมูลใดๆ ลงมาให้รับทราบจะยุบสภาหรือไม่ ต้องมีการตีความอย่างใดหรือไม่ เป็นเรื่องของผู้ยื่นว่า จะรับผิดชอบต่อเรื่องนี้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามต่อ มั่นใจว่ารัฐบาลรักษาการไม่มีอำนาจยุบสภาใช่หรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า พวกเราทำตามภารกิจและหน้าที่ความเป็น สส. จะจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุดตามกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ ส่วนคำถามว่าจะยื่นตีความการยุบสภาหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า รอดูก่อน เพราะยังไม่ได้รับทราบอะไรอย่างเป็นทางการ ให้คำมั่นไม่เติมเสียงเพิ่มให้เกิน 146
ทางด้านคำถาม มองอย่างไรที่พรรคประชาชนตัดสินใจเลือกนายอนุทิน เป็นนายกฯ นายอนุทิน ระบุว่า ทุกพรรค โดยเฉพาะพรรคประชาชนให้ความเชื่อถือว่าทุกคนในที่นี้จะทำตามเงื่อนไข พรรคประชาชนประเมินและให้ความเชื่อมั่นทุกคนที่จะหาทางแก้ปัญหาให้ประเทศ ขณะที่เงื่อนไขแก้รัฐธรรมนูญ 4 เดือนนั้น เรามีความตั้งใจ จะทำให้ไปถึงจุดที่เป็นความต้องการของประชาชน
เมื่อถามอีกว่ารัฐบาลชุดนี้จะเป็นรัฐบาล 146 เสียง ไม่มีคนมาเติมแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่าถูกต้อง เพราะมีเงื่อนไขอยู่ในข้อ 4 ระบุว่า เพื่อสร้างหลักประกันนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะยุบสภาภายใน 4 เดือน
พรรคภูมิใจไทยต้องไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อทำให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก การดำเนินการ 4 เดือนนี้จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ปัญหาปากท้องประชาชน ความขัดแย้งกับกัมพูชา ทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ 4 เดือนเพียงพอ ไม่ได้ทำให้รู้สึกรวดเร็ว แต่เป็นตัวเลขที่พรรคประชาชน และพรรคที่มารวมกัน 146 เสียง หารือกันแล้วคิดว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม
  • ไม่หวั่นเสียงข้างน้อยโหวตกฎหมายราบรื่น
ในประเด็นคำถามสภาฯ จะโหวตกฎหมายผ่านได้หรือไม่ เพราะมีเสียง 146 เสียง นายอนุทิน เผยว่า ได้รับการยืนยันจากพรรคประชาชน กฎหมายใดถ้าเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม พรรคประชาชนพร้อมสนับสนุนให้ร่างกฎหมายผ่าน ยึดประโยชน์ประชาชนและประเทศเป็นเป้าหมาย
เมื่อถามอีกว่าการจับมือกับพรรคประชาชน สะท้อนภาพเงาการเมืองปี 2570 หรือไม่ว่าจะจับมือกับพรรคประชาชนได้ นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้เอาเรื่องนี้ให้เรียบร้อยก่อน ทำทุกอย่างด้วยความสมบูรณ์ เงื่อนไขที่ถูกลงนามแล้ว 4 เดือนนับจากวันที่รัฐบาลได้แถลงนโยบาย ต้องเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างอื่นไม่ได้ ให้ความมั่นใจพูดแล้วทำ
  • ยันไม่มีขยายไทม์ไลน์ทำงาน 4 เดือน
ในช่วงท้าย นายอนุทิน ยืนยันว่าจะไม่มีการขยายกรอบเวลาทำงานเกินกว่า 4 เดือนแน่ เนื่องจากมีข้อตกลงไว้แล้ว ส่วนข้อวิจารณ์การเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยอาจจะพาประเทศเดินหน้าไม่ได้นั้น ทำไมจะไปไม่ได้ เมื่อพรรคประชาชนให้การยืนยันเรื่องการออกกฎหมาย หากเป็นประโยชน์ต่อประชาชน บ้านเมืองยินดีจะสนับสนุน เหมือนตอนที่เราเป็นฝ่ายค้าน ที่ฝ่ายรัฐบาลเสนอกฎหมาย เราก็สนับสนุน
1
ส่วนจะพูดคุยกับวุฒิสภาให้ช่วยผ่านกฎหมายหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า การประสานงานกับหน่วยงานใด หากได้ประโยชน์กับประชาชนต้องทำทุกอย่าง เป็นหน้าที่ฝ่ายบริหาร เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยกล่าวหาว่ามีการดีลเรื่องคดี 44 สส.ของพรรคประชาชนในชั้น ป.ป.ช. แลกกับพรรคภูมิใจไทยได้เสียงเพิ่มนั้น นายอนุทิน หัวเราะและส่ายศีรษะ พร้อมบอกว่า “เขาต้องไม่เอาสิ่งที่ไปเทียบว่า คนอื่นจะต้องทำแบบเขาหมดทุกอย่าง ต่างคนก็ต่างมีสไตล์การทำงานของตัวเอง”
โฆษณา