Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ทันโลกกับ Trader KP
•
ติดตาม
3 ก.ย. เวลา 07:49 • หุ้น & เศรษฐกิจ
📌 ทองคำทำ New High ยิ่งสูงยิ่งเสี่ยงจริงหรือ?
ราคาทองคำในตลาดโลกที่ทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ (All-Time High) สร้างความคึกคักให้กับนักลงทุนอย่างกว้างขวาง ทว่าท่ามกลางความยินดีนั้น คุณประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด นักวิเคราะห์ผู้คร่ำหวอดในวงการ กลับให้มุมมองที่น่าสนใจว่าทองคำตอนนี้ "ยิ่งสูง ยิ่งอันตราย" ดังนั้นลองมาดูภาพรวมประเด็นสำคัญและกลยุทธ์การลงทุนที่ต้องรู้ ในวันที่ราคาทองคำกำลังสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยจุดสูงสุดตลอดกาลกัน
🟢 อะไรคือสิ่งที่ขับเคลื่อนราคาทองคำ?
การพุ่งขึ้นของราคาทองคำในรอบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างเลื่อนลอย แต่มีปัจจัยสนับสนุนที่ชัดเจนหลายประการ โดยปัจจัยสำคัญที่สุดคือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในระดับโลก ดังนี้
• เทรนด์ลดการพึ่งพาดอลลาร์ (De-dollarization) : เหตุการณ์ที่รัสเซียถูกคว่ำบาตรและยึดทุนสำรองดอลลาร์ กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ธนาคารกลางทั่วโลก โดยเฉพาะจีนและกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (Global South) ขาดความเชื่อมั่นในเงินดอลลาร์ และหันมา ‘ไล่ซื้อทองคำเข้าคลัง’ อย่างจริงจัง เพื่อเป็นสินทรัพย์สำรองที่ปลอดภัยอย่างแท้จริง
• ปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค : การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ และการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ยังคงเป็นปัจจัยคลาสสิกที่ช่วยหนุนราคาทองคำ
• ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ : สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ยังคงดำเนินต่อไป ทำให้ความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ยังคงอยู่ในระดับสูง
🟢 สัญญาณทางเทคนิค คำเตือนจาก "คลื่นลูกสุดท้าย"
นอกเหนือจากปัจจัยพื้นฐานแล้ว ในเชิงเทคนิคคุณประกิตได้ชี้ให้เห็นถึงสัญญาณที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษผ่านทฤษฎี Elliott Wave ของกราฟทองคำ
• ทองคำเข้าสู่ Wave 5 : การปรับตัวขึ้นรอบนี้ถูกมองว่าเป็นการเคลื่อนที่ใน "คลื่นลูกที่ 5" ซึ่งตามทฤษฎีมักจะเป็นคลื่นลูกสุดท้ายของวัฏจักรขาขึ้น
• ความเสี่ยงปรับฐานรุนแรง : สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือ "เมื่อ Wave 5 จบลง อาจตามมาด้วยการปรับฐานครั้งใหญ่และรุนแรง" ซึ่งมีโอกาสที่ราคาจะร่วงลงกลับไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 3,400 ดอลลาร์ หรืออาจลึกถึงระดับ 3,000 ดอลลาร์
🟢 กลยุทธ์การลงทุน ใครควรทำอะไรในตอนนี้?
เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ คุณประกิตได้แบ่งคำแนะนำสำหรับนักลงทุนออกเป็น 2 กลุ่มอย่างชัดเจน
📌 สำหรับผู้ที่มีทองคำอยู่แล้ว
"ถือต่อไป (Let Profit Run)" คือคำแนะนำหลัก เพราะราคายังมีโมเมนตัมขาขึ้นที่แข็งแกร่ง ไม่จำเป็นต้องรีบขายทำกำไร แต่ให้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
📌 สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าซื้อใหม่
"ไม่แนะนำให้ซื้อไล่ราคาในตอนนี้" เนื่องจากราคาปรับตัวขึ้นมาสูงมากแล้ว ทำให้ความเสี่ยงเมื่อเทียบกับผลตอบแทน (Risk/Reward Ratio) ยังไม่น่าสนใจ
🟢 หากต้องการลงทุนจริง ๆ มีทางเลือกอื่นที่น่าสนใจกว่า เช่น
• ทองคำในประเทศ (ทองแท่ง/รูปพรรณ) : ราคาในรูปเงินบาทยังปรับตัวขึ้นช้ากว่าตลาดโลกจากผลของเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้พอมีช่องว่างในการเข้าลงทุน
• กองทุนรวมทองคำ (แบบไม่ป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน) : เพื่อเปิดโอกาสรับกำไรสองต่อ หากในอนาคตเงินบาทกลับมาอ่อนค่า
🟢 ประเด็นที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
• ท่าทีของธนาคารกลาง : หากธนาคารกลางทั่วโลกเริ่ม "ชะลอการเข้าซื้อ" ทองคำ จะกลายเป็นแรงกดดันสำคัญต่อราคา
• นโยบายดอกเบี้ยของ FED : หาก FED ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะ "ไม่ลดดอกเบี้ย" ตามที่ตลาดคาดการณ์ จะทำให้ดอลลาร์แข็งค่าและเป็นผลลบต่อทองคำทันที
• สถานการณ์สงคราม : การเจรจาสงบศึกใด ๆ ที่เกิดขึ้น จะลดทอนความน่าสนใจของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลง
แม้ราคาทองคำจะอยู่ในช่วงขาขึ้นที่น่าตื่นเต้น แต่ก็เต็มไปด้วยความเสี่ยงของการปรับฐานที่รุนแรง นักลงทุนที่มีทองคำอยู่แล้วสามารถถือเพื่อรอทำกำไรต่อได้ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าลงทุนใหม่ ควรใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างสูงและพิจารณาทางเลือกอื่นที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า โดยคุณประกิตได้พูดไว้อย่างน่าสนใจว่า
“ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่เราไม่จำเป็นต้องมาเครียดข้ามวันข้ามคืนแบบนั้น มันเป็นสินทรัพย์ที่สามารถถือไปได้เรื่อย ๆ ผมเลยไม่อยากให้มาเน้นการเทรดระยะสั้นในตลาดอนุพันธ์ แล้วก็ต้องมานั่งเครียดกันข้ามคืน อย่างนี้มันดูไม่โอเคเท่าไหร่ ผมอยากให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่สร้างความสุขให้กับเราได้มากกว่า”
คุณคิดอย่างไรกับการลงทุนทองคำตอนนี้ มาคอมเมนต์แลกเปลี่ยนความเห็นกันได้เลย
#FollowTheMoney #ราคาทอง #ทองคำ #ลงทุน #การเงินการลงทุน #เศรษฐกิจ
บันทึก
3
2
3
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย