เมื่อวาน เวลา 04:02 • สิ่งแวดล้อม

'วิตติงแฮม นักเคมีโนเบล' แนะไทยเร่งตลาด 2 ล้อไฟฟ้า ทำแบตเตอรี่หนุนธุรกิจกรีน

"แต่สิ่งที่ผมแปลกใจคือยังไม่เห็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ามากนัก ทั้งที่ในจีนแทบจะเป็นไฟฟ้าทั้งหมดแล้ว และเวียดนามก็กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งจริงๆ แล้วตลาดสองล้อเป็นตลาดที่เปลี่ยนผ่านได้ง่ายกว่ารถยนต์ ผมจึงคาดว่าไทยควรจะเห็นความคืบหน้าในด้านนี้มากขึ้นในอนาคต"
— ศาสตราจารย์ เอ็ม. สแตนลีย์ วิตติงแฮม (Prof. M. Stanley Whittingham) ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมี
'วิตติงแฮม นักเคมีโนเบล' แนะไทยเร่งตลาด 2 ล้อไฟฟ้า ทำแบตเตอรี่หนุนธุรกิจกรีน
ศาสตราจารย์ เอ็ม. สแตนลีย์ วิตติงแฮม (Prof. M. Stanley Whittingham) ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมี ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะ "บิดาแห่งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน" ได้ให้สัมภาษณ์กับ ‘กรุงเทพธุรกิจ’ เกี่ยวกับทิศทางของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ รวมถึงบทบาทของประเทศไทยในการก้าวสู่ยุคพลังงานสะอาด
โดย "ศ. วิตติงแฮม" ได้เยือนประเทศไทยเพื่อร่วม "การประชุมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ของอาเซียน" (ASEAN Battery Technology Conference) ปี 2025 หรือ ABTC 2025 ระหว่าง​วันที่​ 27-29 สิงหาคม​ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 3 ต่อจากครั้งที่ 2 ที่ประเทศสิงคโปร์ และครั้งแรกที่อินโดนีเซีย โดยปีนี้สมาคมเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานไทย (TESTA) เป็นฐานะเจ้าภาพหลักในการจัดงาน และมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 320 คนจากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก
“ศ.วิตติงแฮม” กล่าวว่า ความพยายามของประเทศไทยในการผลักดันพลังงานสะอาดและยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ว่า เทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน (Lithium-ion Battery) หรือแบตเตอรี่แบบชาร์จไฟได้ จะสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านพลังงานของไทยในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า
ปัจจุบันแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนยังคงมีความหนาแน่นพลังงานสูงที่สุด จึงถือว่าเป็นตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพที่สุดในตอนนี้ แต่ในอนาคตอาจมีเทคโนโลยีอื่นที่มีต้นทุนถูกกว่า หรือใช้แร่ธาตุที่หาง่ายและเข้าถึงได้มากกว่า
ทั้งนี้ โคบอลต์และนิกเกิล มีอยู่ในหลายประเภทแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน แต่บางประเภท เช่น LFP แทบไม่มีโคบอลต์ และมีนิกเกิลน้อย ทำให้ต้นทุนต่ำและปลอดภัยกว่า ดังนั้น ในสหรัฐอเมริกามีโคบอลต์และนิกเกิลน้อยมาก จึงมีแนวโน้มเร่งการเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีลิเทียมไอออนเร็วกว่าที่คาดไว้ เหมือนกับที่เอเชียได้ก้าวล้ำไปแล้ว
ขณะเดียวกัน ประเทศอย่างอินโดนีเซียซึ่งมีทรัพยากรนิกเกิลจำนวนมาก อาจก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ และในอนาคต แอฟริกาอาจไม่ได้เป็นเพียงผู้ส่งออกวัตถุดิบเท่านั้น แต่สามารถผลิตแบตเตอรี่ของตนเองได้เช่นกัน
โฆษณา