3 ก.ย. เวลา 15:42 • ความคิดเห็น

สิบกระบวนท่า ปราณสงบสยบเคลื่อนไหว

จุดอ่อนของผมที่เป็นมาตลอดทั้งชีวิตก็คือ เวลามีอะไรให้ตื่นเต้นตกใจ หรือโมโห หลายครั้งก็รู้ตัวเลยว่าควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ไม่ดี บางครั้งก็มีน็อตหลุด ต่อให้ไม่ได้โหวกเหวกโวยวาย แต่พอใจไม่สงบ ก็ทำให้ตัดสินใจผิดพลาดและต้องมาเสียดายหรือเสียใจทีหลังก็บ่อย
3
รู้ตัวเลยว่า ถ้านิ่งกว่านี้ เย็นกว่านี้ ก็น่าจะมีสติที่ตอบโต้หรือแก้ไขได้ดีกว่าใช้อารมณ์มาก ตัวอย่างของน้องที่สติแตก อาละวาดน้องผู้หญิงอีกคนบนรถใต้ดินล่าสุดก็เป็นตัวอย่างชัดเจนว่า ฝั่งที่นิ่งกว่า เย็นกว่า ในที่สุดก็เป็นฝ่ายชนะจากสังคมแบบชัดเจน
ตัวอย่างทั้งฝั่งธุรกิจ ในห้องประชุม หรือแม้แต่การเมืองก็มีให้เห็นเรื่อยๆ
ล่าสุด ผมได้ฟังช่อง Jamie Social แล้วเขาสอนเทคนิคความสงบนิ่งไว้อย่างน่าคิดตามมากๆ น่าจะเอาไว้เตือนไว้ฝึกตัวเองที่ชอบคุมอารมณ์ได้ไม่ดี ในยามที่ต้องการความนิ่งได้เป็นอย่างดี
เลยอยากจะสรุป สิบกระบวนท่าของปราณสงบสยบเคลื่อนไหว เผื่อจะได้ฝึกเป็นเสาหลักแห่งความสงบกันไว้ดังนี้ครับ…
— กระบวนท่าแรก ความเข้าใจเรื่องสัญชาติญานมนุษย์
สมองมนุษย์เราถูกเทรนมาให้ตื่นเต้นตกใจ เพื่อที่จะหลบภัยจากสิงโตหรือสัตว์ร้ายมาเป็นหมื่นปี แต่ถ้าเราอยู่ในสภาวะนิ่ง (calm) สมองส่วนหน้าที่เป็นโลจิกจะทำงาน เราจะตัดสินใจเรื่องต่างๆได้เป็นเหตุเป็นผลขึ้นมาก และในสภาวะนั้น ต่อมอะมิดาล่าที่เป็นเหมือน panic button ก็จะหดตัว ถ้าเราฝึกสมองให้เทำงานใน calm stage การตัดสินใจก็จะคมขึ้น แม่นยำขึ้นมาก
2
— กระบวนท่าที่สอง หายใจให้เป็นอาวุธ
การหายใจที่ถูกต้องที่หน่วยซีลกับซามูไรในอดีตใช้สยบความตื่นเต้นนั้นมีเทคนิคเดียวกัน ก็คือใช้หลัก 4-7-8 หายใจเข้านับถึง 4 กลั้นไว้นับถึง 7 และปล่อยลมหายใจช้าๆนับถึง 8
พอทำแบบนี้ อัตราการเต้นของหัวใจก็จะลดลง ฮอร์โมนความเครียดก็จะลดตาม เราจะแทบไม่สามารถมีสภาวะกระวนกระวายได้ในการหายใจแบบนี้เลยด้วยซ้ำ พอเริ่มมีอารมณ์เครียด ของกำลังจะขึ้น กำลังตื่นเต้นที่จะขึ้นเวที หรือโกรธ ให้ลองใช้การหายใจ 4-7-8 เพื่อสยบมันได้เลย
2
— กระบวนท่าที่สาม ความลับของพวก stoic
พวก stoic คือนักคิด นักปรัชญามีมาตั้งแต่สมัยโรมัน ชื่อแรกของชาว stoic ที่ทุกคนนึกถึงก็คือจักรพรรดิ มาคัส ออริเรียส ผู้ปกครองอาณาจักรโรมันและได้รับการยกย่องว่าทำให้โรมันรุ่งเรืองและมั่งคั่งเป็นอย่างมาก จักรพรรดิออริเรียส ผู้ที่ต้องเจอศึกนอกศึกในตลอดเวลา ใช้เวลาช่วงเช้าฝึกหาความสงบในใจทุกวัน ไม่ใช่คิดเรื่องสมบัติหรืออำนาจ
1
ความคิดหลักของชาว stoic ก็คือ มีสิ่งเดียวเท่านั้นในจักรวาลที่เราสามารถควบคุมได้ ก็คือ การ
ตอบสนองต่อเรื่องต่างของเราเอง ( our response) เราคุมได้แค่ความคิดเรา การกระทำของเราและการตัดสินใจของเราเท่านั้น เราคุมสภาพอากาศ ความคิดคนอื่น ผลแพ้ชนะ และเรื่องอื่นๆรอบตัวไม่ได้
5
เมื่อใดที่มีความกระวนกระวาย ความโมโหโทโสเกิดขึ้นมา ให้ถามตัวเองว่า เป็นปัญหาที่เราแก้หรือเรา พอทำอะไรได้หรือไม่ ถ้าใช่ก็ทำ ถ้าไม่ใช่ เราทำอะไรไม่ได้ คิดไปก็แก้ไม่ได้ ก็ปล่อยวาง …. เท่านั้นเอง
2
— กระบวนท่าที่สี่ การจัดระเบียบร่างกายให้ถูกต้อง
ลักษณะท่าทางของระเบียบร่างกายนั้น ไม่ใช่แค่เป็นผลของความคิดในใจเรา แต่มันมีส่วนกำหนดความคิดเราด้วย มีท่ายืนที่เรียกว่า power pose ที่พิสูจน์ว่าเพิ่มฮอร์โมนเพศชายและลดฮอร์โมนความเครียด เพิ่มความมั่นใจให้มากขึ้น
พวกสัตว์นักล่าทั้งหลายนั้นน่ากลัวที่การจ้องเขม็งอยู่นิ่งๆ ไม่ใช่เคลื่อนไหวรัวๆ การยืนนิ่ง power pose แล้วมองลง 10 องศา ก็เป็นท่าโบราณที่หัวหน้าเผ่าใช้สะกดฝูงชน มือต้องเห็นชัด ไม่ซ่อนและต้องให้มือนิ่งไว้ มือที่ขยับไปมาเป็นการแสดงการที่เราควบคุมตัวเองไม่ได้
ระเบียบของร่างกายมีผลต่อการสยบผู้คนตรงหน้าไม่ว่าจะเป็นห้องประชุมหรือการนำเผ่าโบราณอย่างนึกไม่ถึง
— กระบวนท่าที่ห้า พลังแห่งความเงียบ
พลังอำนาจสูงสุดของคำพูดคือการไม่พูด โลกเรานั้นคุ้นชินกับเสียง การโต้เถียง บทสนทนา การเล่าเรื่อง ลองแค่นิ่งเงียบแค่เกิน 3 วินาทีในจังหวะที่คนคาดว่าเราจะพูด คนจะ panic ทันที และจะรอฟังว่าเราจะพูดอะไร
1
ลองใช้เทคนิคในการเจรจาถ้าถึงคิวเราพูดแล้วลองนิ่งก่อนพูดตามจังหวะปกติ 3 วินาที ผู้ฟังจะเริ่มอึดอัด ให้พูดช้าลง 30% กว่าปกติด้วย การกระทำแบบนี้จะทำให้เกิดสิ่งที่นักจิตวิทยาเรียกว่า processing load อีกฝั่งจะตั้งใจและรับสารได้ชัดเจนกว่าที่เราพูดจังหวะปกติมาก เพราะเขาจะมีเวลาย่อยและคิดตาม
1
— กระบวนท่าที่หก Emotional Akido
ไอคิโด้เป็นศิลปะการต่อสู้แบบญี่ปุ่นที่ใช้แรงของคู่ต่อสู้มาเป็นพลังของเรา ยิ่งเขาแรงมา เรายิ่งผ่อน แล้วเอาแรงเขาเล่นงานคู่ต่อสู้กลับ ในด้านอารมณ์ก็เช่นกัน ยิ่งฝ่ายตรงข้ามโมโหเท่าไหร่ เรายิ่งนิ่งเท่านั้น
มวลอารมณ์นั้นแปลกมาก มันเหมือนโรคติดต่อ ยิ่งโมโห ยิ่งด่าทอ ยิ่งเกรี้ยวกราดใส่กัน เรื่องยิ่งบานปลาย แต่ถ้าเรานิ่ง เราก็จะเหมือนคริปโตไนท์ของอารมณ์ร้าย คนที่โมโหนั้น สมองจะคาดหวังอารมณ์รุนแรงในระดับเดียวกันกลับมา แต่ถ้าเรานิ่ง เขาจะงงและไปไม่เป็น ไม่รู้จะทำยังไงต่อ
ยิ่งอีกฝั่งขึ้นเสียง เรายิ่งต้องโทนเสียงเราต่ำ ยิ่งเขาเร่ง เรายิ่งช้า ยิ่งเขาไม่มองหน้า เรายิ่งจ้อง แล้วทั้งห้องก็จะกลับมาสู่สภาวะปกติ เราก็จะเป็นผู้ควบคุมเกมส์ได้โดยเบ็ดเสร็จ
2
— กระบวนท่าที่เจ็ด Confident circuit
ความเชื่อมั่นในใจคนนั้น เกิดได้ทั้งเราทำมันอย่างเชื่อมั่น หรือเราสร้างความเชื่อมั่นขึ้นมาเองได้ก่อนทำ สมองเราทำงานแบบนั้น ลองตื่นเช้ามาอย่างแรกก่อนจับมือถือ ไปยืนหน้ากระจกแล้วมองจ้องตาตัวเองให้ได้ 30 วินาที เหมือนจะทำง่าย แต่ลองดูแล้วไม่ง่ายนัก คนส่วนใหญ่มองแค่ 10 วิก็เลิกแล้ว
วัตรปฏิบัติที่จ้องตาตัวเองทุกเช้าเป็นการเทรนตัวเองว่าการสบตาคนเป็นการสร้างความมั่นใจและเชื่อมั่น ไม่ใช่เป็นการฝืนธรรมชาติ ถ้าลองทำจนชินแล้ว จะพบว่าพลังของการสบตาคนด้วยความเชื่อมั่นนั้นสามารถสยบความกลัวและพาความมั่นใจมาเต็ม
4
— กระบวนท่าที่แปด เคลื่อนย้ายจุดสำคัญ
เราสามารถเป็นบุคคลที่น่าเกรงขามที่สุดในห้องได้ ไม่ใช่ด้วยความก้าวร้าว เสียงดัง แต่ผ่านภาวะผู้นำที่นิ่ง ไม่สั่นไหวต่ออารมณ์ใดๆ เมื่อเวลามีการโต้เดือด เกิดความขัดแย้ง เถียงกันเละเทะในห้อง ทุกคนก็จะหันมาที่คนที่นิ่งที่สุด ซึ่งจะเป็นพื้นที่ปลอดภัยท่ามกลางพายุเดือด และถ้าเราคุมอุณหภูมิห้องให้เย็นลงได้ ภาวะผู้นำในห้องนั้นก็จะตกอยู่ที่เราโดยธรรมชาติ
2
— กระบวนท่าที่เก้า วินัยสงบที่ต้องฝึกฝนทุกวัน
ไม่ว่าจะเป็นปรมาจารย์ที่นิ่ง สงบ สยบทุกคนได้แต่ไหนแต่ไรก็ต้องฝึกฝนอย่างหนักทุกวัน เราเองก็เช่นกัน ถ้าเราอยากมีสภาวะสงบนิ่งเป็นอาวุธในใจ ตื่นมา 25 นาทีแรกก็ควรเริ่มด้วยการอยู่กับตัวเอง ไม่มีโทรศัพท์ หัดหายใจให้ถูก 10 นาที หัดจัดระเบียบร่างกาย 5 นาที แล้วลองฝึกใจ นึกถึงปัญหาที่ต้องแก้ด้วยความนิ่ง ไม่เอาอารมณ์ไปเกี่ยวข้อง เริ่มทีละนิดในวันแรกๆแล้วค่อยๆทำให้เป็นวัตรปฏิบัติทุกวัน
1
เริ่มง่ายๆแค่พอจบวันให้ถามตัวเองว่า วันนี้ได้เลือกที่จะลองนิ่ง สงบ เมื่อเจอปัญหากับไปสายตื่นเต้น โมโห โวยวายได้กี่ครั้ง ค่อยๆเพิ่ม ค่อยๆปรับไปทีละวันเพื่อเรียนรู้วิชาสงบสยบความเคลื่อนไหวนี้ไป
— กระบวนท่าที่สิบ the nervous making presence
พอความสงบนิ่งกลายเป็นตัวตนของเรา พอเราปรากฏตัว ทุกคนในห้องจะรู้สึกได้ และจะมีคนมาลองเทสต์เราในมุมต่างๆว่าเราจะมีปฏิกิริยากับอารมณ์แรงๆอย่างไร แต่ถ้าเราบรรลุถึงขั้นนั้น เราจะไม่ได้ต้องการเอาชนะ ไม่ได้ต้องการพิสูจน์อะไรอีก และจะเห็นภาพรวมได้อย่างกระจ่างชัด ก็จะบรรลุถึงสุดยอดวิชาสงบสยบเคลื่่อนไหวและจะเป็นผู้นำในหมู่คณะที่เราอยู่
อันจะนำมาซึ่งการตัดสินใจที่ถูกต้องและปัญญาที่จะเกิดตามมาในที่สุด
1
สิบกระบวนท่านี่น่าสนใจสำหรับผมมากจากจุดอ่อนที่ผมมี เพราะมันผสมทั้งวิธีคิด การจัดระเบียบร่างกาย การหายใจ และที่สำคัญคือเป็นสิ่งที่ตัวเราทดลองและกำหนด อยู่ในความควบคุมของเราเองได้จริงๆ
ก็ว่าจะต้องลองหลายข้อในนี้ และหวังว่าเจออะไรยากๆ ที่กดดัน ที่ทำให้อารมณ์ขึ้นครั้งต่อไปผมจะทำได้ดีขึ้น นึกอะไรเฉพาะหน้าไม่ออกก็หายใจ 478 ไปก่อน
ครึ้มๆไปว่า ถ้าฝึกบ่อยๆก็อาจจะได้เป็นเสาหลักปราณสงบนี้กับเขาได้เหมือนกันนะครับ
以静制
1
โฆษณา