4 ก.ย. เวลา 12:16 • ประวัติศาสตร์

ตำนานโคตรโกง7,000ล้านเยน แผนลวงยักษ์ใหญ่ซื้อที่ดินสุดเนียน

คุณเชื่อหรือไม่?
บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1960 และปัจจุบันมี Market Cap. สูงถึง 1.8 ล้านล้านเยน (3.9แสนล้านบาท) รวมถึงยังสามารถขยายกิจการออกไปนอกประเทศ จนคลอบคลุมตลาดอเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย และ เอเชียแปซิฟิก
เคยพลาดพลั้งเสียท่า “สูญเงิน” ให้กับ “การหลอกลวง” ของ “แก๊งอาชญากร” คิดเป็นมูลค่าความเสียหายมากถึง 7,000 ล้านเยน (1,500ล้านบาท) จนกลายเป็นข่าวครึกโครมไปทั่วทั้งเกาะญี่ปุ่น
เรื่องราว “สุดเหลือเชื่อเช่นนี้ เกิดขึ้นได้อย่างไร?”
และ “กลลวง” ที่นำไปสู่ “หลุมพราง” สำหรับการล่อลวงเงินจำนวนมหาศาล กับ บริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลกเช่นนี้ มี “ชั้นเชิงและวิธีการ” ที่ พวกเราในฐานะคนปกติธรรมดา ควรได้รับทราบเพื่อป้องกันตัวเองจากเหล่า 18 มงกุฏ อย่างไร?
วันนี้ “เรา” ได้รวบรวมเรื่องราวและข้อมูลเหล่านั้น มาให้ “คุณ” ได้ร่วมกันพิจารณาแล้ว
Sekisui House (เซกิซุย เฮ้าส์) :
“เซกิซุย เฮ้าส์” (Sekisui House) เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1960 ปัจจุบัน (ปี2025) มี Market Cap. สูงถึง 1.8 ล้านล้านเยน (3.9แสนล้านบาท)
โดย เซกิซุย เฮ้าส์ มีความเชี่ยวชาญเรื่องการสร้างบ้านสำเร็จรูป และมีชื่อเสียงในเรื่องการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้วยนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ขยายการลงทุนออกไปยังต่างประเทศ จนคลอบคลุมตลาดอเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย และ เอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะที่ตลาดอเมริกาเหนือ นั้น ปัจจุบันมียอดขายเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 20% ของยอดขายทั้งหมดของบริษัท
โดย รายงานผลประกอบการ ณ สิ้นปี 2024 “เซกิซุย เฮ้าส์” มียอดขายสุทธิรวม 4,058,583 ล้านเยน (883,716 ล้านบาท) +30.6% เมื่อเปรียบเทียบแบบปีต่อปี และมีกำไรสุทธิรวม 301,627 ล้านเยน (65,676 ล้านบาท) +12.4% เมื่อเปรียบเทียบแบบปีต่อปี
ส่วนรายงานผลประกอบการ ไตรมาสแรกปี 2025 บริษัทมียอดขายสุทธิรวม 894,044 ล้านเยน
(194,669 ล้านบาท) +15.1% เมื่อเปรียบเทียบแบบปีต่อปี และมีกำไรสุทธิรวม 46,811 ล้านเยน (10,192 ล้านบาท) +34.1% เมื่อเปรียบเทียบแบบปีต่อปี
ชายปริศนา :
30มี.ค.2017 “ยูจิ โอดะ” (Yuji Oda) รองผู้จัดการทั่วไปแผนกคอนโดมีเนียมพื้นที่โตเกียว ของ บริษัทเซกิซุย เฮ้าส์ ได้พบกับชายปริศนาคนหนึ่ง ที่มีชื่อว่า “ซึโยชิ อิคุตะ” (Tsuyoshi Ikuta) ในงานเลี้ยงส่วนตัว
โดยในการพบกันครั้งนั้น “ซึโยชิ อิคุตะ” ได้ทำทีเข้าสอบถามกับ “ยูจิ โอดะ” ว่า ตนเองกำลังจะทำสัญญาซื้อขาย กับ “เจ้าของที่ดินผืนงาม” ในย่านโกทันดะ ของ กรุงโตเกียว
ทำให้ “รองผู้จัดการของบริษัทเซกิซุย เฮ้าส์” ซึ่งคร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์ มาอย่างยาวนาน และทราบดีว่า ที่ดินผืนงามดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับพื้นที่ ที่รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังเร่งพัฒนา เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดกีฬาโอลิมปิค ปี 2020 นั้น ผู้คนในวงการอสังหาริมทรัพย์ญี่ปุ่น ต่างรับทราบโดยทั่วกันดีว่า “เจ้าของที่ดินผืนงาม ซึ่งเป็นหญิงชราวัย 70 ปี” ยืนกรานมาโดยตลอดว่า “จะไม่มีวันขายที่ดิน ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของโรงแรมแบบเรียวกัง ที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ อย่างเด็ดขาด”
อีกทั้งในอดีตที่ผ่านมา บรรดาบริษัทอสังหาริมทรัพย์ใดๆ ก็ยังไม่มีโอกาสได้ติดต่อหรือพบกับ “ตัวจริง” ของ “เจ้าของที่ดินผืนงาม” ที่เบื้องต้นได้รับการประเมินว่า น่าจะมีมูลค่าระหว่าง 8,000 - 10,000 ล้านเยน (1,741ล้านบาท - 2,177ล้านบาท) มาก่อน
ด้วยเหตุนี้ ในตอนแรก “รองผู้จัดการของบริษัทเซกิซุย เฮ้าส์” จึงปรามาส “ชายปริศนา” อย่าง “ซึโยชิ อิคุตะ” คนนี้…น่าจะเป็นเพียง “มือสมัครเล่น” ในวงการเท่านั้น
พร้อมกับได้ให้คำแนะนำไปด้วยว่า “หากเจ้าของที่ดินต้องการที่จะขายที่ดินผืนดังกล่าวจริง” จะต้อง “ผ่านการตรวจสอบตัวตน” รวมถึงไม่ควร “จ่ายเงินมัดจำ” จนกว่ากระบวนการดังกล่าวจะได้รับการยืนยันด้วย
หลุมพราง :
หลังการพบกันในครั้งนั้น “ยูจิ โอดะ” (Yuji Oda) รองผู้จัดการทั่วไปแผนกคอนโดมีเนียมพื้นที่โตเกียว ของ บริษัทเซกิซุย เฮ้าส์ ได้รับการติดต่ออีกครั้ง จาก “ซึโยชิ อิคุตะ” ซึ่งอ้างว่า ตนเองเป็นประธานบริษัทที่มีชื่อว่า “บริษัทอิคุตะ โฮลดิ้ง”  (IKUTA HOLDINGS Co.,Ltd.) ว่า ตนเอง สามารถนัด “เจ้าของที่ดินรายผืนงาม” มาทำการตรวจสอบเรื่องการ “ยืนยันตัวตน” ผ่านเอกสารทางการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น หนังสือเดินทาง , ตราประทับประจำตัว , ใบรับรองตราประทับประจำตัว , เอกสารการโอนกรรมสิทธิ์ที่มีการลงนาม ได้เรียบร้อยแล้ว
รวมถึง ยังได้มีการจ่ายเงินมัดจำก้อนแรก เป็นเงิน 20 ล้านเยน (4.3 ล้านบาท) ที่ สำนักงานทนายความ เมื่อวันที่ 3เม.ย.2017 ไปแล้วอีกด้วย
จากนั้น บุคคลที่อ้างตัวเองว่าเป็น “ประธานบริษัทอิคุตะ โฮลดิ้ง” จึงได้สอบถามกับ รองผู้จัดการทั่วไป บริษัทเซกิซุย เฮ้าส์ ว่า… “สนใจที่จะซื้อที่ดินผืนงามนี้ ในราคา 7,000 ล้านเยน (1,524ล้านบาท) ผ่านบริษัทของตนเองหรือไม่?”
ซึ่งแน่นอนว่า “คำตอบ” ที่ได้รับกลับมาจาก “ยูจิ โอดะ” คือ “มีความสนใจเป็นอย่างยิ่ง” ทั้งๆที่ เรื่องราวทั้งหมดเป็น เพียงการบอกเล่าของ “ซึโยชิ อิคุตะ” ทั้งสิ้น
รีบเร่งจนหละหลวม :
โดยปกติกระบวนการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ของ บริษัทใหญ่ๆในญี่ปุ่น จะมีความรัดกุมในเรื่องการตรวจสอบและใช้เวลาพิจารณาเพื่อขออนุมัตินานพอสมควร อย่างไรก็ดีในกรณีนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า..
ในวันที่ 14เม.ย.2017 “ยูจิ โอดะ” (Yuji Oda) รองผู้จัดการทั่วไปแผนกคอนโดมีเนียมพื้นที่โตเกียว ของ บริษัทเซกิซุย เฮ้าส์ ได้นำข้อเสนอของ “ซึโยชิ อิคุตะ” เข้าสู่ที่ประชุมบริษัท จนกระทั่งได้รับ “ความเห็นชอบ” สำหรับการเดินหน้าซื้อที่ดินผืนงามดังกล่าว พร้อมกับมีการเร่งจัดทำเอกสารสำหรับการอนุมัติภายใน เพื่อซื้อที่ดินดังกล่าว ภายในวันที่ 17เม.ย.2017 หรือเพียง 3 วัน หลังมีการนำเรื่องเข้าที่ประชุม
และไม่เพียงเท่านั้น เอกสารสำหรับการอนุมัติภายในดังกล่าว ยังมีการระบุชื่อ ของ ประธานบริษัทเซกิซุย เฮ้าส์ ด้วยว่า “เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้เข้าตรวจสอบที่ดินผืนดังกล่าว” เพื่อหวังเพิ่มความน่าเชื่อถือ ในวันที่ 18เม.ย.2017 ก่อนที่จะมีการส่งเอกสารดังกล่าวจาก “สำนักงานธุรกิจคอนโดมีเนียม” ไปยัง “แผนกอสังหารริมทรัพย์” ในวันเดียวกันนั้นทันที
ทำให้อีกเพียงหนึ่งวันหลังจากนั้น (19เม.ย.2017) “แผนกอสังหารริมทรัพย์” ได้ผ่านความเห็นชอบ และส่งเรื่องไปยังผู้บริหารระดับสูงในแผนกต่างๆ รวมถึง แผนกกฎหมาย เพื่อตรวจสอบ
และจากความเร่งรีบ เพื่อรวบรัดกระบวนการต่างๆ ด้วยเหตุที่ว่า....ที่ดินผืนงามอาจถูกบริษัทอื่นชิงตัดหน้าซื้อไปนี้เอง ทำให้ “เอกสารคำขออนุมัติภายในดังกล่าว” ซึ่งควรจะใช้เวลาในการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนเสียก่อน จึงได้ถูกนำคืนส่งกลับมาให้ “ประธานบริษัทเซกิซุย เฮ้าส์” ลงนามอนุมัติในขั้นตอนสุดท้าย ในวันถัดมาทันที! (20เม.ย.2017)
ทั้งๆที่ ที่มาที่ไปของ “บริษัทอิคุตะ โฮลดิ้ง”  (IKUTA HOLDINGS Co.,Ltd.) นั้น มีจุดที่น่าตั้งข้อสังเกตหลายจุด โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง “ความน่าเชื่อถือ” และ “ความสามารถในการชำระหนี้”
แต่กลับ ไม่มีการทักท้วงใดๆ จากแผนกต่างๆ เกี่ยวกับ “ข้อพิรุธอันน่าสงสัย” ในรายงานการขออนุมัติภายในนี้เลยแม้น้อย
การหลอกลวง :
20เม.ย.2017 กระบวนการซื้อขายได้เริ่มต้นขึ้น โดย “ยูจิ โอดะ” ในฐานะผู้แทนของบริษัทเซกิซุย เฮ้าส์ ได้เข้าพบกับ “กลุ่มบุคคล” ที่อ้างว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายที่ดินผืนงาม รวม 6 คน เป็น “ครั้งแรก” เพื่อตรวจสอบขั้นต้น สำหรับการเตรียมความพร้อมในการซื้อขายอย่างเป็นทางการ ที่กำหนดขึ้นในวันที่ 24เม.ย.2017
โดยในการพบกัน “ครั้งแรก” นี้ ผู้แทนของบริษัทเซกิซุย เฮ้าส์ และบุคคลที่มีชื่อว่า “ซากิโกะ เอบิซาวะ” (Sakiko Ebisawa) ซึ่งอ้างว่าตัวเองเป็น “เจ้าของที่ดิน” ได้ทำข้อตกลงร่วมกันว่า “สัญญาการซื้อขายเดิม” ระหว่าง เจ้าของที่ดินและ “บริษัทอิคุตะ โฮลดิ้ง” ของ ชายปริศนา “ซึโยชิ อิคุตะ” จะต้องถูก “ยกเลิก”
และทาง บริษัทเซกิซุย เฮ้าส์ ยังเสนอที่จะจ่ายเงินมัดจำก้อนแรก เป็นเงินมากถึง 1,400 ล้านเยน! (304ล้านบาท) แทนที่จะเป็นเงินเพียง 20 ล้านเยน (4.3 ล้านบาท) ซึ่งเป็นตัวเลขที่ “เท่ากับกับของบริษัทอิคุตะ โฮลดิ้ง” อีกด้วย
โดยให้เหตุผลว่า เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ “เจ้าของที่ดิน” เปลี่ยนใจ “ขอยกเลิกการซื้อขาย” ในขณะที่ภาระค่าใช้จ่ายสำหรับการรื้อถอนต่างๆ ฝ่ายเจ้าของที่ดินจะเป็นผู้รับผิดชอบ
ทำให้ จำนวนเงินที่ต้องชำระที่เหลืออีก 5,600 ล้านเยน (1,219ล้านบาท) รวมถึงการโอนกรรมสิทธิ์ในขั้นตอนสุดท้าย จึงได้ถูกกำหนดไว้ใน “วันที่ 31ก.ค.2017” เพื่อให้ฝ่ายเจ้าของที่ดิน มีเวลาสำหรับการรื้อถอนอาคารต่างๆ รวมถึงให้เวลา “ซึโยชิ
อิคุตะ” จัดการเรื่อง “เปลี่ยนคู่สัญญา” จาก บริษัทอิคุตะ โฮลดิ้ง (IKUTA HOLDINGS Co.,Ltd.) ไปเป็น “บริษัทอิคุตะ คอร์ปอเรชั่น” (IKUTA Corp.) ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่า เพื่อเป็นการ “หลบเลี่ยงภาษี”
การปลอมแปลง :
** ติดตามอ่านบทความส่วนที่เหลือ จากบทความฉบับเต็ม ได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้ **
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม :
รักเวียดนามชิงชังไทย เหตุใดเขมรจึงลำเอียง (ชมคลิป)
ภาระผู้ลี้ภัยจากเพื่อนบ้าน น้ำใจไทยใยเขมรจึงลืมเลือน (ชมคลิป)
สำรวจวงจรเชื่อมผลประโยชน์ สายใยที่ยึดโยงตระกูลฮุน
สำรวจวีรเวร ที่ไม่ ใช่วีรกรรม BHQ องค์รักษ์ประจำตัว ฮุนเซน (ชมคลิป)
เรียนรู้ถึงตัวตนของฮุนเซน ผ่านการดิ้นรนเพื่อไปสู่อำนาจ (ชมคลิป)
ย้อนรอย จลาจลเผาสถานทูตไทย บทเรียนข่าวเท็จ กัมพูชา ปี2546 (ชมคลิป)
ย้อนสงครามไทย-กัมพูชา 2554 BM 21 VS ปืนใหญ่ “บิ๊กตู่” ลั่น อยากรบก็รบ! (ชมคลิป)
#ญี่ปุ่น #เซกิซุยเฮ้าส์ #SekisuiHouse #โกงซื้อที่ดิน #18มงกุฎ #OUTFIELDMAN #สำนักข่าวทรัสต์นิวส์ #Trustnews #TokyoSwindlers
โฆษณา