Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ทันโลกกับ Trader KP
•
ติดตาม
5 ก.ย. เวลา 11:08 • ไลฟ์สไตล์
📌 ระวัง! ช้อปก่อนจ่ายทีหลัง กับดักทางการเงินที่มองไม่เห็น
เคยไหมเวลาเห็นของที่อยากได้จนใจจะขาด แต่เงินในบัญชีดันไม่พอ? สถานการณ์แบบนี้เองที่ทำให้บริการ ‘ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง’ หรือ Buy Now Pay Later (BNPL) กลายเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักช้อปออนไลน์ เพราะมันช่วยให้เราได้ของที่ต้องการ หรือกินมื้อที่อยากกินได้ก่อน แล้วค่อยจ่ายทีหลัง ฟังดูดีใช่ไหมล่ะ?
BNPL จึงเป็นเหมือนตัวช่วยของนักช้อปในยุคดิจิทัล ที่ทำให้การซื้อของแพง ๆ กลายเป็นเรื่องง่ายแค่ปลายนิ้ว แต่ก่อนจะเพลิดเพลินกับการช้อปจนลืมตัว เรามาดูอีกด้านของบริการนี้กันดีกว่า เพราะถ้าใช้จ่ายอย่างไม่ระวัง เราอาจจะโดนหนี้สินเล่นงานเสียเอง
----------
🟢 ด้านมืดของความสะดวกสบาย กับดักที่ซ่อนอยู่
ความง่ายของ BNPL นี่แหละคือจุดเริ่มต้นของปัญหา เพราะมันจะทำให้เรารู้สึกว่า "จ่ายไหว" ทั้งที่ความจริงอาจไม่ใช่แบบนั้นเลย และนี่คือกับดักที่หลายคนมักเผลอเดินเข้าไปติด
1 ) เกิดหนี้ที่มองไม่เห็น : ปัญหาใหญ่ของ BNPL คือหนี้ส่วนใหญ่มักไม่ถูกบันทึกในเครดิตบูโร ทำให้เรารู้สึกว่าสถานะการเงินยังดีอยู่ ทั้งที่ความจริงอาจกำลังสร้าง ‘ภูเขาหนี้ซ้อน’ จากการใช้บริการ BNPL หลาย ๆ เจ้าพร้อมกัน (Debt Stacking) จนสุดท้ายก็จ่ายไม่ไหว
2 ) ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมแอบแฝง : แม้จะบอกว่าผ่อนสบาย ๆ แต่ถ้าคุณจ่ายช้าแม้แต่วันเดียว บางเจ้าอาจมีค่าปรับหรือดอกเบี้ยมหาโหดรออยู่ ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้มักซ่อนอยู่ในเงื่อนไขตัวเล็ก ๆ ที่เราไม่ค่อยได้อ่านกัน
3 ) สร้างนิสัยใช้จ่ายเกินตัว : การที่ไม่ต้องจ่ายเงินก้อนโตทันที ทำให้เรากล้าซื้อของที่ไม่จำเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ จากที่ตั้งใจจะซื้อแค่ชิ้นเดียว อาจกลายเป็นสิบชิ้นโดยไม่รู้ตัว สุดท้ายก็กลายเป็นหนี้สินรุงรังที่จัดการได้ยาก
----------
🟢 Pay Later vs ผ่อน 0% เหมือนหรือต่างกัน?
หลายคนอาจสงสัยว่า BNPL ต่างจากการผ่อน 0% ผ่านบัตรเครดิตอย่างไร?
• BNPL มักจะอนุมัติง่ายกว่า ไม่ซับซ้อน เหมาะกับคนไม่มีบัตรเครดิต แต่ก็มีความเสี่ยงเรื่องค่าปรับและดอกเบี้ยที่ซ่อนอยู่หากผิดนัด
• ในขณะที่การผ่อน 0% มักจะต้องใช้บัตรเครดิต มีระยะเวลาและจำนวนเงินที่ต้องจ่ายชัดเจน แต่ถ้าผิดนัดชำระ ก็อาจโดนคิดดอกเบี้ยย้อนหลังทั้งหมดในอัตราที่สูงมากเช่นกัน
สรุปง่าย ๆ คือ BNPL ให้ความยืดหยุ่นกว่า แต่ก็เสี่ยงกว่า ส่วนการผ่อน 0% มีโครงสร้างชัดเจน แต่เงื่อนไขก็เข้มงวดกว่า
----------
🟢 ใช้ BNPL อย่างไรให้รอดและไม่เจ็บตัว
BNPL ไม่ใช่ผู้ร้ายเสมอไป หากเราใช้มันอย่างชาญฉลาด มันก็จะเป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีประโยชน์ได้เหมือนกัน แค่ต้องมีสติและทำตามนี้
📌 ตั้งสติก่อนสตาร์ท ถามตัวเองทุกครั้งว่า "ของชิ้นนี้จำเป็นจริง ๆ หรือแค่ 'อยากได้'?" อย่าให้ความสะดวกสบายมาทำให้เราใช้จ่ายเกินตัว
📌 จำกัดวงเงิน อย่าใช้ BNPL พร้อมกันหลายเจ้า พยายามจำกัดให้มีแค่ 1-2 แผนการชำระเงินในแต่ละช่วงเวลา เพื่อให้ง่ายต่อการติดตามและจัดการ
📌 อ่านให้เคลียร์ ก่อนกด ‘ยอมรับ’ ใช้เวลาสักนิดอ่านเงื่อนไขต่าง ๆ ให้เข้าใจ โดยเฉพาะเรื่องค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ยเมื่อจ่ายล่าช้า
📌 ติดตามยอดหนี้ ตั้งแจ้งเตือนวันครบกำหนดชำระเงินเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่พลาดเด็ดขาด การจ่ายตรงเวลาคือหัวใจสำคัญที่สุด
📌 มองมันเหมือนบัตรเครดิต โดยปฏิบัติต่อ BNPL เหมือนเป็นหนี้ก้อนหนึ่ง ไม่ใช่เงินฟรี คิดเสมอว่าคุณมีความสามารถที่จะจ่ายคืนครบตามกำหนดหรือไม่
----------
🟢 ใช้ให้เป็นก็เห็นแต่ประโยชน์
หัวใจสำคัญของการใช้ BNPL ไม่ได้อยู่ที่ตัวบริการ แต่อยู่ที่ 'วินัย' ของผู้ใช้อย่างเราเอง หากเราควบคุมการใช้จ่ายให้อยู่ในงบและชำระคืนตรงเวลา มันก็จะเป็น 'ตัวช่วย' ที่มอบทั้งความสะดวกสบายและช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงิน
แต่ในทางกลับกัน หากขาดวินัย 'ตัวช่วย' ก็สามารถกลายเป็น 'ภาระ' ที่สร้างปัญหาได้ในทันที จริงอยู่ที่ความสะดวกสบายเป็นสิ่งที่ดี แต่การใช้จ่ายอย่างมีสติและรอบคอบนั้นสำคัญกว่าเสมอ เพราะอิสรภาพทางการเงินที่แท้จริง ไม่ใช่การมีทุกอย่างที่อยากได้ แต่คือการไม่ต้องเป็นหนี้ใครต่างหาก
#FollowTheMoney #BuyNowPayLater #BNPL #ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง #การเงิน #วางแผนการเงิน #หนี้ #ช้อปออนไลน์ #วินัยทางการเงิน
1 บันทึก
7
2
1
7
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย