6 ก.ย. เวลา 12:12 • ข่าวรอบโลก

150 ปี มีวิธี แต่ยังจะเป็นมนุษย์รึเปล่าล่ะ ?

ก็เหมือนตลกร้ายเหมือนกัน…
วันก่อนสี่คุยกับปู เรื่องจะอยู่กัน 150 ปี
แบบเฮฮาสุดๆ จนเมาท์กันไปทั่วโลก สารพัดทฤษฎีสมคบคิด
บ้างก็ว่า พวกทั่นผู้นำโคลนมนุษย์อะไหล่อะไรไว้เรียบร้อยแล้ว
พร้อมใช้งาน อย่างน้อยก็คงอยู่ได้เป็น 100 ปี อะไรงั้น
มาวันนี้ ฝั่งสหรัฐมีข่าวทั่นผู้นเฒ่า ออกมาไล่เลี่ยกันเลย
ทั้งอาการมะเร็งของไบเดน อดีต ปธน.
และรอยช้ำปริศนาที่หมออเมริกันพยายามวิเคราะห์สาเหตุอยู่ ว่าเป็นผลจากโรคอะไรบนมือของทรัมป์ และหน้าทรัมป์เองก็ดูบวมๆ แปลกๆ แต่ทางโฆษกของทรัมป์บอกว่าเกิดจากการจับมือมากเกินไป ซึ่งหมอก็ว่าไม่ใช่
…คือ ทรัมป์ในช่วงสัปดาห์เศษนี่ เขาหายไปด้วย
มันกึเลยเป็นประเด็นเรื่องสุขภาพขึ้นมา….
อืม ว่ากันตามตรงนะ อายุก็ปูนนี้กันหมดแล้ว มันควร
จะถึงเวลาพักผ่อนกันแล้วล่ะ โลกนี้น่ะ ให้คนรุ่นหลังเขาดีกว่า
…แต่ก็อย่างว่า คนเรายิ่งมีมาก ทั้งทรัพย์และอำนาจ…
…ก็ยิ่งกลัวตาย และอยากเสพย์สุขไปนานๆทุกคน….
…แต่มันเป็นไปไม่ได้หรอก ไม่ว่าจะมีอำนาจล้นฟ้าแค่ไหน…
ทฤษฎีมนุษย์โคลนอะไหล่ของสี่และปูตินนั้น
น่าจะเกิดจากคำพูดของสี่ ถึงการปลูกถ่ายต่างๆ
แต่ เท่าที่อ่านๆมา พวกนักวิทย์บอกว่า ทฤษฎีนี้เป็นไปไม่ได้
เหตุผลคือ ต่อให้คุณปลูกถ่ายสิ่งต่างๆได้กับร่างโคลน
แต่สิ่งที่ไม่มีทางทำอะไรกับมันได้ บนร่างกายเดิม
คือ สมอง และระบบประสาทต่างๆ ที่จะเสื่อมไปเรื่อยๆ
และมันซับซ้อนเกินกว่าจะปลูกถ่ายให้สมบูรณ์ได้
และพื้นฐานร่างกายเดิม ยิ่งอายุมาก ก็ยิ่งไม่พร้อมรับ
และปรับตัวกับการปลูกถ่ายสิ่งต่างๆ
ความจริงคือ การไปปลูกถ่าย มีความเสี่ยงทำให้ตาย
มากกว่าที่อายุจะถูกยืดออกไป
…และสมมุติว่า การปลูกถ่ายอวัยวะต่างๆ ทำได้สมบูรณ์
ปัญหาสุดท้าย ก็ยังคือ สมอง และระบบประสาทต่างๆนั่นเอง..
1
ถึงต่อให้คิดมุมกลับมากขึ้นไปอีก โดยเอาสมองคนแก่
ไปใส่ร่างกายที่หนุ่ม สุดท้ายสมองของมนุษย์ก็ยังมีขีด
จำกัด และอายุใช้งานอยู่ดี
…หมายความว่า สมมุติ สี่หรือปู สั่งให้คนเอาสมองตัวเอง
ไปใส่ร่างโคลนที่หนุ่ม สมองของพวกเขาก็ยังจะเสื่อม
ไปเรื่อยๆอยู่ดี ผลที่ได้ก็อาจจะได้คนหนุ่มซึ่งเป็นอัลไซเมอร์
มากกว่าที่จะมีประสิทธิภาพในการทำงานนั่นเอง…
โดยสรุป หมอทั้งหลายบอกว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่การปลูก
ถ่ายจะช่วยให้คนมีอายุได้ขนาดนั้น ไม่ว่าด้วยวิธีใด
ในทศวรรษนี้ ….
…บางท่านถึงกับว่า ด้วยเทคนิคทางชีวภาพอย่างเดียว
มันเป็นไปไม่ได้เลยก็มี…
ส่วนตัว ผมยังเชื่อว่าการพูดถึงเรื่องนี้ของสี่และปู
เขาไม่ได้คิดว่าจะอยู่จริงๆแบบนั้นหรอก ถึงจะหวังก็เหอะ
…มันน่าจะเป็นแค่การจงใจ ส่งสัญญาณทางการเมือง
ว่าพวกข้าจะอยู่ไปอีกนานเสียมากกว่า….
1
แต่สำหรับวิศวกร พวกเขามองต่างไป
พวกนี้บอกว่า มีความเป็นไปได้
และอย่าว่าแต่ 150 ปีเลย อมตะก็ยังได้
แต่ไม่ใช่ในร่างเลือดเนื้อนะ แต่เป็นหุ่นยนต์
หรืออยู่ในรูปของระบบคอมพิวเตอร์ ที่บันทึกเจตคติ
หรือง่ายๆ ก็คือวิญญาณเอาไว้
แม่เจ้า อ่านแล้วก็แบบ….นิยายวิทยาศาสตร์มากเลย
แต่พวกนักวิทย์ฯเขาว่ามันเป็นไปได้ ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์
ระดับควอนตัม หรือไบโอคอมพิวเตอร์ อะไรงั้น
ปัญหาก็คือว่าจะบันทึกข้อมูล เจตคติลงไปอย่างไร
ให้สมบูรณ์ ก็เท่านั้น ตอนนี้มันยังไม่มีใครทำได้
คือ ถ้าสมมุติว่ามันจริง ก็คือการที่สี่และปูจะละทิ้งกายเนื้อ
แล้วเอาวิญญาณตัวเองไปสิงสถิตย์บนซุปเปอร์คอมพิวเตอร์
ให้กลายเป็นเมทริกซ์ของประเทศตัวเองเพื่อปกครอง
ไปตลอดกาลนั่นแหละครับ
มันดูเป็นไปไม่ได้เลยแหละ อย่างน้อยก็ในทศวรรษนี้
ตามที่สี่จิ้นผิงว่าไว้ ….
แต่คุ้นๆ ไหมครับ แนวคิดที่ว่า ไม่ตาย ทิ้งกายเนื้อไปรวมกับ
สิ่งที่ใหญ่กว่าเพื่อเป็นอมตะเนี่ย….
…ใช่ครับ…
มันคือแนวคิดแบบปรมาตมัน ในศาสนาพราหมณ์นั่นเอง
ทีนี้ มันก็มีคำถามขึ้นอีกว่า
สมมุตินะ ว่าถ้าไอ้เทคโนโลยีที่ว่ามาทั้งหมดเนี่ย
มันทำได้จริงๆ แล้วสี่และปู จะทำได้เหรอ ?
คำตอบ ก็คือไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละครับ
เหตุผลนั้นง่ายมาก คือ ความเป็นมนุษย์นั่นเอง
ในที่นี้ มันไม่ใช่สี่หรือปูเพียงคนเดียว ที่อยากมีอำนาจ
ไปตลอดกาล แต่คนอื่นเขาก็ด้วย
ง่ายๆ …
สมมุติว่าปูอยากปลูกถ่ายอวัยวะ หรือเปลี่ยนไปร่างโคลน
หรือกระทั่งการย้ายเจตคติไปอยู่บนเมทริกซ์
เขาก็ไม่สามารถทำมันได้ด้วยตัวคนเดียว
เขาต้องพึ่งคนอื่น ที่จะดำเนินการเหล่านี้ให้เขา
มันก็จะมาถึงคำถามที่ท้าทายมาก ก็คือ เขาจะเชื่อใจใครได้บ้าง
ที่จะให้มากุมชะตาชีวิตของเขาไว้ ระหว่างดำเนินการ
สมมุติแล้วว่าเป็นปูติน เขาไว้ใจเมดเวเดฟ เบอร์สองงั้นเหรอ ?
เพราะในระหว่างการดำเนินการ แม้แต่การหาหมอปกติ
ในทุกวันนี้ มันจะเป็นช่วงที่เขาไม่มีอำนาจ เป็นแค่เด็ก
ทารกคนหนึ่งบนเตียง ไม่ใช่ชี้เป็นชี้ตายใครได้เหมือนปกติ
เมดเวเดฟ จะมีโอกาสที่จะเข้าถึงอำนาจทันที
การผ่าตัดปลูกถ่าย ในคนสูงอายุ ใช้เวลาฟื้นตัวนานมาก
ระหว่างนั้น ผู้กุมอำนาจ จะไม่ใช่ปูติน แต่เป็นเบอร์สองและสาม
อำนาจนะครับ ใครๆ ก็อยากได้
ถ้าเป็นแบบนั้น เมดเวเดฟก็อาจจะแบบว่า เมื่ออำนาจอยู่กับฉัน
ก็ปล่อยมันตายไปซะก็จบ ฉันจะได้มีอำนาจแทนไปอีกนาน
แม้กระทั่งหมอที่เขื่อใจได้ที่สุดก็เถอะ รู้ได้ไง ว่าพวกเขา
จะไม่คล้อยตามสิ่งที่เบอร์สอง สามเสนอ ถ้ามันดีกว่า
ดังนั้น ต่อให้เทคโนโลยีมี และทำได้
ก็เชื่อเถอะว่า ทั้งสี่และปู ไม่มีใครกล้าทำหรอก
มันเสี่ยงเกินไป
การนอนติดเตียงสั่งเสีย ให้คนอื่นมาสานต่ออุดมการณ์
ยังจะมีประโยชน์ และความเป็นไปได้ซะกว่า
เพราะมนุษย์ก็คือมนุษย์ มันก็ได้แค่ที่ธรรมชาติสร้างมาแหละ
ย้ำอีกทีว่าผมเองก็คิดว่าพวกเขาคุยกันขำๆ
หรือส่งสัญญาณกันทางการเมืองบางอย่าง
คงไม่มีใครคิดว่าจะอยู่ไปถึงขนาดนั้น ถ้าคุณภาพชีวิตมันแย่
จริง ที่ทุกคนอยากอยู่นาน
แต่ถ้าอยู่นายแล้ว มันไม่มีความสุขอะไร โดยเฉพาะกับตัวเอง
ก็คงไม่มีใครอยากอยู่
ลองคิดสภาพสิครับ กับคนที่ชี้นิ้วสั่งคนครึ่งค่อนโลกได้
ในวันที่กระทั่งการขับถ่ายของตัวเอง ก็ควบคุมไม่ได้
น้องชายตัวเองก็ไม่ไหว พวกเขาจะรู้สึกยังไงล่ะ
ความรู้สึกแบบนี้ จะบั่นทอนความอยากมีชีวิตได้มากที่สุด
มันอาจจริง ที่การแพทย์ปัจจุบัน ทำให้คนอายุยืนขึ้น
แต่สุดท้ายแล้ว มันก็มีขีดจำกัดของการเสื่อมไปตามวัฏจักร
จากอดีตถึงปัจจุบัน ศาสดาทุกศาสนา
ถ้าเราเชื่อว่าท่านเหล่านี้ บรรลุถึงสภาวะธรรม
และญาณหยั่งรู้ รวมถึงเข้าถึงอำนาจแห่งพระเจ้า
แบบนั้น ทำไมพวกท่านเหล่านั้นยังตายล่ะ
แม้ทุกศาสนา จะอธิบายถึงสภาวะการตายต่างกัน
…แต่ก็ย้ำเหมือนกันว่า ทุกคนต้องตาย….
…และผมก็ไม่เชื่อ ว่ามนุษย์เราจะท้าทายธรรมชาติ
ในเรื่องนี้จนเอาชนะได้ …
อาจมีคนอยู่ได้ถึง 120 ปีมาแล้วก็จริง
แต่ไม่เคยมีสักคน ที่จะปฏิบัติงานในระดับผู้ปกครอง
ที่มีอำนาจเต็มได้จนถึง 100 ปี
…ซึ่งผมเชื่อว่าธรรมชาติ สร้างสิ่งมีชีวิตมาให้มีเวลาแค่นั้น…
…และคงไม่มีใครฝืนมันได้ แม้แต่ในอนาคตอันแสนไกลก็ตาม
…ในเงื่อนไขว่า เป็นกายเนื้อที่เรียกว่ามนุษย์นะ…
…จะเป็นไซบอร์กอะไรในอนาคต อันนี้ไม่นับ 😁😁….
โฆษณา