6 ก.ย. เวลา 12:44 • การเมือง
"ตอบกลับคุณสุขที่ใจที่ตอบกลับผม www.blockdit.com/posts/68bbffdba608e34eaed4241b
และเผื่อถึงบางท่านที่อาจจะมีหงุดหงิดกับการตอบกลับของผมเผื่อจะเข้าใจร่วมกันมากขึ้น
หวังว่าเรื่องราวที่ดำเนินมาจะนำไปสู่การเรียนรู้ และเติบโตต่อการแสดงความคิดเห็นของแต่ละท่านได้บ้างในบีดี ไม่ใช่ว่าใครต้องถูกต้อง แต่อยู่กับความแตกต่างกันได้อย่างไร"
ข้างล่างนร่คือสิ่งที่ตอบกลับคุณสุขที่ใจ
2
เวลาผมอ่านผมจะสนใจว่าผู้เขียนจะสื่อสารอะไร และข้อมูลที่ให้มามีความถูกต้องแค่ไหน
จากที่ผมอ่านความคิดเห็นของคุณก่อนหน้านี้แล้วเห็นว่าสิ่งที่คุณแสดงออกมาดูเหมือนเป็นความรู้สึกส่วนตัวต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
มากกว่า
การเข้าใจข้อเท็จจริงและแสดงความไม่เห็นด้วยต่อข้อเท็จจริงที่เป็นทำให้ข้อมูลที่อ้างขึ้นมามีคำถามถึงความถูกต้องว่าใช่หรือไม่
ผมแสดงความคิดเห็นในเชิงตั้งคำถามเพื่อสะดุดความคิดเห็นคุณและเชิญชวนมาพิจารณาข้อเท็จจริง
ในการตอบกลับนี้ของคุณก็ยังมีข้อมูลมากมายที่จะสนับสนุนความรู้สึกของคุณ
แน่นอนมันดูเหมือนสนับสนุนสิ่งที่คุณกล่าวอ้าง แต่สำหรับผมมันมีคำถามก่อนว่าสิ่งที่รองรับความคิดเห็นคุณนั้นแข็งแรงเป็นฐานที่ดีแล้วหรือยัง จึงนำไปตรวจสอบดูจาก gemini
ประเทศไทยพรรคที่ได้ผู้แทนมากที่สุดต้องเป็นรัฐบาลหรือไม่
===โดยปกติแล้ว พรรคการเมืองที่ได้จำนวนที่นั่ง ส.ส. มากที่สุดในการเลือกตั้ง มีสิทธิและโอกาสสูงที่สุด ในการจัดตั้งรัฐบาลครับ แต่ ไม่ใช่ข้อบังคับ หรือเป็นกฎหมายที่กำหนดไว้ตายตัว
หลักการจัดตั้งรัฐบาล
การจัดตั้งรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาของไทยต้องอาศัย เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหมายถึงต้องมี ส.ส. รวมกันอย่างน้อย 251 คนจากทั้งหมด 500 คน
พรรคอันดับหนึ่งจึงมักจะเป็นแกนนำในการรวบรวมเสียงจากพรรคอื่นๆ เพื่อจัดตั้งเป็น รัฐบาลผสม===
ในยุโรปพรรคที่ได้ผู้แทนมากที่สุดต้องเป็นรัฐบาลหรือไม่
===ไม่ใช่ครับ โดยส่วนใหญ่แล้ว พรรคการเมืองที่ได้ผู้แทนมากที่สุดในยุโรป ไม่จำเป็นต้องเป็นรัฐบาลเสมอไป แต่มีโอกาสสูงที่สุดในการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ระบบรัฐสภาและรัฐบาลผสม
ประเทศส่วนใหญ่ในยุโรปใช้ ระบบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับประเทศไทย หากไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมากเด็ดขาดในสภา (มากกว่า 50%) พรรคอันดับหนึ่งจะต้องเจรจาและรวบรวมเสียงจากพรรคอื่น ๆ เพื่อจัดตั้ง รัฐบาลผสม (Coalition Government) .====
1
ในทั้ง สหราชอาณาจักรและเยอรมนี มีเหตุการณ์ที่พรรคที่ได้ผู้แทนมากที่สุดแต่ไม่ได้เป็นรัฐบาล เกิดขึ้นจริง โดยเฉพาะในเยอรมนีที่เป็นเรื่องที่พบได้บ่อยกว่า
เยอรมนี
เยอรมนีมีประวัติศาสตร์การเมืองที่ซับซ้อนและมีการจัดตั้งรัฐบาลผสมบ่อยครั้ง ทำให้พรรคอันดับหนึ่งไม่สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จหลายครั้ง:
การเลือกตั้งปี 1976: พรรค Christian Democratic Union (CDU) ได้ที่นั่งมากที่สุด แต่ไม่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้สำเร็จ ในขณะที่พรรคอันดับสองคือ Social Democratic Party (SPD) ได้ร่วมกับพรรค Free Democratic Party (FDP) เพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสมและยังคงมีอำนาจต่อไป
การเลือกตั้งปี 1980: เหตุการณ์คล้ายคลึงกับปี 1976 พรรค CDU ได้ที่นั่งมากที่สุดอีกครั้ง แต่ไม่สามารถโค่นล้มรัฐบาลผสมเดิมระหว่างพรรค SPD และ FDP ได้
2
สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)
ในสหราชอาณาจักร เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้ยากมาก เนื่องจากระบบการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต แต่ก็เคยเกิดขึ้นจริง:
การเลือกตั้งปี 1923: พรรคอนุรักษ์นิยม (Conservative Party) ได้ที่นั่งมากที่สุด แต่ไม่สามารถหาพรรคร่วมรัฐบาลได้สำเร็จ ทำให้พรรคแรงงาน (Labour Party) ที่มีที่นั่งน้อยกว่าแต่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคเสรีนิยม (Liberal Party) จัดตั้ง รัฐบาลเสียงข้างน้อย และขึ้นเป็นรัฐบาลได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ดังนั้น โดยสรุปแล้วในเยอรมนีเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยกว่า ส่วนในสหราชอาณาจักรเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากมากแต่ก็เคยมีประวัติศาสตร์เช่นกันครับ
ในอเมริกามีประธานาธิดีท่านไหนบ้างที่ได้รับเลือกมาด้วยจำนวนประชาชนที่เลือกน้อยกว่าจำนวนประชาชนที่เลือกผู้ที่ไม่ได้เป็นประธานาธิบดี
1
===ประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาด้วยจำนวนคะแนนเสียงจากประชาชน (popular vote) น้อยกว่าคู่แข่ง มีทั้งหมด 5 ท่านครับ ได้แก่
จอห์น ควินซี แอดัมส์ (John Quincy Adams) - ในการเลือกตั้งปี 1824
รัทเทอร์ฟอร์ด บี. เฮส์ (Rutherford B. Hayes) - ในการเลือกตั้งปี 1876
เบนจามิน แฮร์ริสัน (Benjamin Harrison) - ในการเลือกตั้งปี 1888
จอร์จ ดับเบิลยู. บุช (George W. Bush) - ในการเลือกตั้งปี 2000
โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) - ในการเลือกตั้งปี 2016===
ประเด็นของผมคือข้อเท็จจริงในเนื้อหาที่ต้องถูกใส่ใจก่อนเพื่อทำความเข้าใจเรื่องราวได้ถูกต้องก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นใดๆ
ผมจึงมักตั้งคำถามเพื่อเช็กข้อเท็จจริงก่อนเสมอ
ซึ่งคุณอาจจะไม่คุ้นแนวทางแบบนี้
และมีอีกจำนวนไม่น้อนในบีดีที่ไม่คุ้นในแนวทางแบบนี้ จนหงุดหงิดกับการแสดงความคิดเห็นของผม
สำหรับคุณนั้นเข้าใจได้ในความรู้สึกที่เป็นจริงต่อเรื่องราวเหตุการณ์ที่แสดงออกมา
แต่เมื่อมองถึงข้อเท็จจริงสิ่งที่จะพอทำได้คือเงียบไม่แสดงความคิดเห็น หรือเช็กข้อมูลก่อน
โฆษณา