Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Weatherreport
•
ติดตาม
8 ก.ย. เวลา 02:24 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
รีวิวซีรีส์ Tokyo Holiday
“ความฝันที่ยังไม่สำร็จ สิ่งที่ทำได้ดีแต่ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ผมว่าเป็นแกนหลักของเรื่องนี้ที่ผู้สร้างนำออกมาถ่ายทอดได้อย่างยอดเยี่ยม ผ่านการเล่าเรื่องของซากุระโกะนางเอกซึ่งเป็นลูกเจ้าของร้านดังโงะที่พ่ออยากให้อยู่บ้านสืบทอดกิจการ และอาทิตย์พระเอกซึ่งเป็นดาราชาวไทยที่ต้องการหลบหนีจากการทำงานยุ่งๆ และใช้ชีวิตอิสระ
การเล่าเรื่องโดยใช้คำไทยคำว่า “ไม่เป็นไร” เป็นปรัชญาหลักให้กับเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นการพูดไม่ดีใส่กันในครอบครัว การทำตามความฝันที่ล่าช้า การตัดสินใจที่ผิดพลาด เพียงแค่พูดว่า “ไม่เป็นไร” แล้วเริ่มลงมือทำใหม่ให้ดี ชีวิตก็อาจจะดีขึ้นได้
การที่ญี่ปุ่นมีซีรีส์แนวนี้ออกมาอาจสะท้อนให้เห็นว่าสังคมญี่ปุ่นมีความกดดันในการทำงานและการใช้ชีวิตสูงมาก ดังที่เคยได้ยินข่าวกันบ่อยๆ ว่าประเทศนี้มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงจากการทำงานหนัก ผมว่าประเทศญี่ปุ่นเขาจึงนำมุมมองการคิดอีกด้านนึงมาถ่ายทอดให้คนญี่ปุ่นเห็นว่าจริงๆ แล้วชีวิตมันไม่ต้องซีเรียสขนาดนั้น แค่พูดว่า 大丈夫 (ไดโจบุ) หรือไม่เป็นไร แล้วก้าวเดินต่อไป
ภาพจาก Mono Max
การนำเสนอเรื่องราวทำได้ดีมีการถ่ายทอดวัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่นเข้ามาในซีรีส์ได้อย่างแนบเนียน ได้เห็นขั้นตอนการทำดังโงะที่กว่าจะออกมาแต่ละไม้ ต้องอาศัยขั้นตอนมากมาย ไม่ได้ทำกันง่ายๆ มีถ่ายให้เห็นสถานที่สำคัญ อย่างเช่น Tokyo tower, วัดเซ็นโซจิ หรือที่ใครๆ ต่างเรียกกันติดปากว่า วัดอาซากุสะด้วย
ส่วน ep สุดท้ายก็มีฉากถ่ายทำที่ประเทศไทยเอาใจคนไทยกันด้วย
ภาพจาก Mono Max
ร้านดังโงะของพ่อนางเอกเป็นเหมือนร้านลับเก่าแก่อยู่ในซอย ซึ่งดูทุกคนในละแวกนัันก็ชอบกินดังโงะกันทุกวัน เห็นแล้วอยากกินดังโงะมาก ในร้านมีรสชาติดังโงะหลากหลาย เช่น สาหร่าย, คินาโกะ ไม่เหมือนกับที่ผมเคยไปกินที่ร้านข้างทางที่ญี่ปุ่นซึ่งมีรสชาติเดียวและดันไม่อร่อยซะด้วย
การใส่ตัวละครมินามิเพื่อนของนางเอกซึ่งเป็นคนมองโลกในแง่ดีและมีแต่รอยยิ้มคอยช่วยเหลือให้กำลังใจนางเอกทำได้ดีมาก สอดคล้องกับ theme ของเรื่องที่ให้พระเอกมีฉายาว่า The smiling prince ประหนึ่งว่า ไม่ว่าจะเจอกับเรื่องอะไร ขอแค่ให้เรายิ้มเข้าไว้มันจะดีเอง
ตอนท้ายของเรื่องก็มีสอนบทเรียนชีวิตผ่านคำพูดของตัวละครที่ทำให้เข้าใจว่าชีวิตมันก็มีทั้งหวานและขม เราต้องใช้ชีวิตให้มีความสุขให้ได้
การเลือกนักแสดง กลัฟ คณาวุฒิ คนไทยมาแสดงเป็นพระเอกในเรื่องนี้ทำได้ดี หน้าตาดูอินเตอร์ไม่เหมือนคนไทยเท่าไหร่ มีความหล่อคมเข้มแบบฉบับที่สาวญี่ปุ่นชอบ ไว้ผมยาวทำให้นึกถึงทาคุยะ คิมูระ สมัยวัยรุ่น และบางมุมก็เหมือนเจอรี่ f4 ได้ข่าวว่าเขาเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับบทนำในซีรีส์ญี่ปุ่นด้วยนะ
ส่วนนางเอก มิโอริ ทาคิโมโตะ หน้าตาก็ให้อารมณ์น่ารักแบบลูกสาวร้านดังโงะจริงๆ ที่แทบไม่แต่งหน้า แต่งตัวธรรมดาเรียบง่ายไม่ได้แต่งตัวสวยเวอร์ ทำให้ดูเข้ากับบทบาทมาก
การจบแบบ Happy ending ของซีรีส์ญี่ปุ่นนั้น ต้องเข้าใจก่อนว่าไม่ได้เหมือนกับซีรีส์ประเทศอื่น ซึ่งไม่จำเป็นที่พระเอกและนางเอกจะต้องได้อยู่ด้วยกัน แค่ต่างคนต่างมีความรู้สึกดีๆ ให้กันเขาก็ถือว่า Happy ending แล้ว
(สปอยล์) ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเช่นนั้นและผมก็เห็นว่ามันดูสมเหตุสมผลดีนะ เพราะพระเอกก็เป็นดาราที่กำลังรุ่งเพิ่งเข้าวงการและไต่ระดับไปสู่ Hollywood ส่วนนางเอกก็อยากไปเรียนต่อและท่องเที่ยวทั่วโลก เป้าหมายความฝันของแต่ละคนแตกต่างกัน ถ้าจะให้อยู่ๆ จับยัดว่าพระเอกนางเอกต้องทำสัญญามาอยู่บ้านเดียวกันใช้ชีวิตด้วยกันแบบพล็อตเรื่องทั่วไปมันก็คงจะดูตลก ไม่สมจริง
ถ้าจะมีข้อเสียของเรื่องนี้ก็ตรงที่ ฉากถ่ายทำขณะขับรถจักรยานยนต์ใช้เอฟเฟคมาช่วยไม่ได้ขับรถเที่ยวในเมืองจริงๆ ทำให้ดูตลกและไม่เนียน การมีความรู้สึกชอบกันของพระเอกและนางเอกเร็วเกินไปและค่อนข้างจะงงๆ ทำให้รู้สึกไม่อิน
ซีรีส์สั้นๆ 12 ตอน ความยาวตอนละ ไม่เกิน 24 นาที มีพากย์ไทย ดูเพลินๆ รวดเดียวจบยังได้ ทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อยกับการดูซีรีส์ (เมื่อเทียบกับซีรีส์เกาหลีทั่วไปที่มี 16 ตอน ตอนละ 1 ชั่วโมง) ดูจบรู้สึกฟีลกู๊ด ได้มุมมองแง่คิดในการใช้ชีวิตมากมายตามสไตล์ซีรีส์ญี่ปุ่น
สรุปให้ 4/5 ดาว ⭐️⭐️⭐️⭐️
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
รีวิว Series Movies Anime Manga
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย