15 ข้อจากหนังสือ ‘The life intelligence ฉลาดใช้ชีวิตแบบคน 1 %’
1 เวลาแนะนำตัวกับใคร จงแนะนำว่า สิ่งที่เราเป็นเกี่ยวข้องกับคนนั้นอย่างไร
สิงที่จะคุยหลังจากนั้นไม่ว่ามากหรือน้อยจะมีแต่คำชื่นชมและการนอมรับในตัวเรา
เพราะคนอื่นไม่ได้สนว่าเราเป็นใคร แต่สนว่าเราเกี่ยวข้องอย่างไรกับชีวิตเขาต่างหาก
2 งานที่ใช้เวลาไม่เกิน 2 นาทีในการจัดการ
ขอให้รีบจัดการเลย เพราะเรื่องราวเหล่านี้จะมันกินพื้นที่สมองสำหรับเรื่องสำคัญอย่างมากครับ
หากไม่จัดการทันที ก็รวบรวมทุกอย่างไว้แล้วหาเวลาจัดการมันทีเดียว
เช่น การตอบแชท การเคลียของบนโต๊ะ โทรกลับหาคุณ… เป็นต้น
3 ยิ่งปฏิเสธได้ ยิ่งเป็นการยอมรับตัวเอง
เมื่อทำถูกวิธี เราจะสามารถปกป้องคุณภาพชีวิตของเราและทำให้อีกฝ่ายเข้าใจได้ด้วย
ลองทำตามนี้ครับ
-1 ขอบคุณ:
เมื่อคนอื่นไว้วานหรือขอให้เราช่วยอะไรนั่นแปลว่าเขาไว้ใจเรา ไม่ว่าอย่างไรเราก็ควรขอบคุณเขาไว้ก่อน
-2 ปฏิเสธตรงๆด้วยความสุภาพ
ควรปฏิเสธตรงๆเลยและไม่ควรแต่งเรื่องโกหก
-3 เสนอทางเลือก
ลองแนะนำตัวเลือกที่ดีกว่าให้คนนั้นไหม ถือเป็นการปิดจบด้วยน้ำใจอีกทีนึงด้วยครับ
4 จัดตารางงานผ่านการบล็อกเวลา
เวลามันไม่ได้หายไปไหน แต่เราไม่ได้จัดให้มันอยู่ในที่ที่ควรเป็น
โฟกัสเรื่องด่วน+สำคัญ และ ไม่ด่วน+สำคัญ
วางแผนแบบนี้จะมีการรู้เวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดแน่นอน แถมมองภาพรวมได้มากขึ้นครับ
5 เทคนิค Brain dump hack เพื่อล้างสมองของเรา
บางครั้งเวลาเราคิดวานอะไรไม่ออก อาจเป็นเพราะมีอะไรมาบล็อกสมองเราอยู่ก็ได้
ใช้เวลาสัก 1 นาที เขียนสิ่งที่ค้างคาใจออกมา แล้วไอเดียมันจะออกมาได้ดีขึ้นครับ
6 หากเราไม่ลองทำอะไรบางอย่าง เหตุผลอาจจะเพราะกลัวหรือรู้สึกยังไม่พร้อม
อยากบอกว่าให้ลองทำเลยครับ ยิ่งเวลาผ่านไป เราจะนิ่งเห็นจุดอ่อน ความเป็นไปไม่ได้และไม่ทำสักที
แก้โดยนับ 5-4-3-2-1 แล้วทำสิ่งนั้นทันที
ทำไปก่อน เพราะสุดท้ายมันยังแก้ไขได้ ดีกว่าเราไม่ทำอะไรเลยครับ
7 เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการอาบแสงแดดเพียง 10 นาที
เพราะเมื่อร่างกายได้รับแสงแดด อวัยวะต่างๆจะรีเซ็ต รู้เวลาตื่น นอนตอนกลางคืนสบายขึ้น
แถมยังช่วยลดอาการเบลอ รู้สึกมึนงงในแต่ละวันด้วยครับ
8 พักผ่อนสั้นๆช่วงบ่ายเทียบเท่าการพักผ่อนระยะยาว
เพียงแค่พักสายตา ไม่ยุ่งกับหน้าจอเพียงไม่กี่นาที ก็เหมือนรีเฟรชเพื่อพร้อมทำงานตอนบ่ายได้
หากมีเวลา การงีบพัก 20 นาทีก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีมากครับ
9 ดื่มน้ำแก้วใหญ่ 1 แก้ว 500 ml หลังตื่นนอนและก่อนอาหารทุกมื้อ 30 นาที
ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ลดน้ำตาลในเลือด แถมช่วยเพื่มอัตราการเผาผลาญและลดความอ้วนได้ครับ
10 กินมากขึ้นแค่ไม่อ้วน ด้วยการเพิ่มปริมาณผักใบเขียวในจานให้มากขึ้น
แม้เราจะกินไฟเบอร์มากเกินไป แต่แคลอรีมันต่ำ จึงไม่เป็นไรเลย
เมื่อสมองรับรู้ว่าได้ไฟเบอร์มากเพียงพอ จะรู้สึกอิ่ม ทำให้เราไม่ต้องไปหาขนมมากินต่ออีก
11 คิด 5 วินาทีก่อนซื้อของอะไรก็ตาม
เช่น ของสิ่งนี้จำเป็นจริงไหม, ถ้าไม่ซื้อวันนี้จะเสียกายมากหรือเปล่า
หากไม่จำเป็นนัก ให้เราคิดว่าเก็บเงินเพื่อไปซื้อของที่จำเป็นหรือของที่สร้างความสุขให้เรามากกว่านี้จะดีกว่าครับ
12 ความเสี่ยงของคนที่ไม่ทำอะไรนั้นคือความเสี่ยงที่สุด
เมื่อพูดว่าถ้าว่างค่อยทำ ถ้าพร้อมค่อยลง เราก็ไม่ได้ทำอยู่ดี
ควรจัดการเวลา ให้เงินมันไปทำเงินให้เราแทนกันครับ
13 ฝึกขอบคุณทุกวัน
แต่ฝึกขอบคุณในที่นี้ ขอให้เป็น ‘ห้ามเป็นเรื่องซ้ำ’ และ ‘สิ่งที่ดูเหมือนจะแย่’ ให้ได้อย่างน้อย 1 เรื่อง เราจะค้นพบสิ่งพิเศษที่ธรรมดาหรือเราเคยมองว่าเป็นสถานการณ์ที่ไม่ดี
เมื่อฝึกไปเรื่อยๆ เรื่องร้ายๆจะทำให้จิตใจเราขุ่นมัวได้น้อยลง
14 หาเวลาพบเจอคนที่ทำให้เราสบายใจ
ลองทักแชท โทรศัพท์ไปคุยหรือชวนไปกินข้าวกันดู
เพื่อให้มิตรภาพเราเป็นสิตามินดีๆช่วยเยียวยาใจกันและกันครับ
15 คน 1 % ไม่ใช่คนที่ทำได้ทุกอย่าง ไม่ต้องได้ทุกอย่าง
เพียงแต่เขารู้ว่าอะไรสำคัญ แล้วทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุดในทุกๆวัน
.
สิ่งที่ชอบของเล่มนี้ ข้อคิดมีประโยชน์มากๆทั้งนั้นครับ
ที่ชอบอีกอย่างคือ ก่อนจะหมดแต่ละหมวดจะมี reflection ว่าเราเป็นแบบนั้นทำแบบนั้นในแต่ละหมวดหรือยัง
ผมแปะพิกัดไว้แล้วนะครับ
ผู้เขียน นพ.นันทภพ พงศ์รัตนามาน
สำนักพิมพ์ I AM The best
#Thelifeintelligenceฉลาดใช้ชีวิตแบบคน1% #อยากสรุป #สรุปหนังสือ
- 66
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
