9 ก.ย. เวลา 01:33 • ความคิดเห็น

เพียงหมากหนึ่งตกลงถูกที่ ทั้งกระดานก็มีชีวิต 一子落定,满盘皆活

ตรงข้ามกับเดินหมากผิดครั้งเดียวถึงกับแพ้ทั้งกระดาน การตัดสินใจที่ถูกครั้งเดียว ก็อาจพลิกเกมทั้งหมดได้เช่นกัน..
ผมได้มีโอกาสสัมภาษณ์คุณอนุทินที่ HOW Club ในช่วงที่เป็นฝ่ายค้านเดือนก่อน ในช่วงหนึ่งของการสัมภาษณ์ คุณอนุทินยังพูดขำๆ ถึงคะแนนโพลที่เพิ่งได้ 10% ครั้งแรกว่า ตั้งแต่ตั้งพรรคมาก็อยู่สองสามเปอร์เซ็นต์ตลอด ทำยังไงก็ไม่ถูกใจคนกรุงซักที เหมือนเล่นโกะที่อยู่ในกระดานที่ไม่เคยพลิกเกมไม่ได้เลย แถมมีข้อครหาอยู่เนืองๆ
พอคุณอนุทินได้มีโอกาสตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจที่มีอายุไม่กี่เดือน แล้วทยอยประกาศชื่อรัฐมนตรีคนนอกที่สังคมยอมรับว่าเป็นของจริง เป็นมืออาชีพ ไม่ได้มาจากโควตาฝ่ายไหนแม้แต่พรรคภูมิใจไทยเองอยู่หลายคน จนล่าสุดเป็นชื่อคุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ สุดยอดผู้บริหารที่ผู้คนยอมรับ เสียงชมเชยก็ดังท่วมท้น คนที่ปกติที่บ่นเรื่องการเมืองเละเทะมานานก็ยังออกปากชมและสนับสนุน แถมมองข้ามรัฐมนตรีหน้าเดิมไปได้อีกด้วย
ถึงขนาดเริ่มมีเสียงเสียดายว่า ครม หน้าตาแบบนี้น่าจะอยู่นานหน่อย เพราะกลัวว่าจะกลับไปอีหรอบเดิมที่มีแต่นักการเมืองหน้าตาไม่น่าไว้ใจ ไม่ได้มีความสามารถจริงๆที่จะทำงานกระทรวงสำคัญได้มาคุมหมดอีก… ภาพลักษณ์ของคุณอนุทินและบริบทการเมืองไทยถึงกับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือในพริบตา
3
และมีผลสั่นสะเทือนในระดับหมากหนึ่งตกลงถูกที่ ทั้งกระดานก็มีชีวิตขึ้นมาในทันที
ผลกระทบแรกที่หมากนี้ถูกวางก็คือ คาแรกเตอร์ของคุณอนุทินเปลี่ยนไปในพริบตา กลายเป็นผู้บริหารที่รู้จักใช้คน ไม่ได้ต้องการควบคุมเบ็ดเสร็จ กล้าใช้คนเก่งที่ตัวเองสั่งไม่ได้ แต่ต้องการสร้างผลงานจริงๆ ในช่วงสั้นๆ นี้ ทำให้เกิดคะแนนความไว้วางใจสูงขึ้นมามาก
นอกจากนั้น การเลือกเดินหมากที่ไม่มีใครนึกถึงจากภาพลักษณ์เดิมที่ใครๆก็คิดว่าคุณอนุทินจะเลือกทางง่าย กลายเป็นผู้นำที่ตัดสินใจเด็ดขาด เอาภาพรวมเป็นที่ตั้งและมีเสน่ห์พอที่จะไปดึงคนเก่งที่ไม่มีพรรคการเมืองหนุนมาได้อีกด้วย
ผลกระทบที่สอง มูฟนี้ให้ความหวังต่อสังคมขึ้นมาอย่างที่ผู้คนไม่ได้คาดหวัง ด้วยเพราะทั้งภาพลักษณ์เดิมๆ ของพรรคและการครอบงำของนักการเมืองทุกตำแหน่งจากรัฐบาลก่อนหน้าจนไม่มีใครคิดว่าจะมีโอกาสได้เห็นมืออาชีพจากภายนอกเข้ามาร่วมรัฐบาลได้ พอเห็นชื่อรัฐมนตรีที่สังคมเชื่อถือในฝีมือหลายคน ความหวังก็เกิดขึ้นว่าเริ่มมีคนที่เก่งพอที่จะรับงานสำคัญในภาวะที่บ้านเมืองกำลังมีปัญหา เริ่มมีความเชื่อมั่นขึ้นมา
ผลกระทบที่สาม หมากนี้กลายเป็นหมากที่น่าจะสำคัญมากๆ ในอนาคต เพราะจะเป็นตัวอย่างที่รัฐบาลชุดต่อไปไม่ว่าใครจะได้ตั้งก็ตาม จะมีมาตรฐานที่ต่ำกว่านี้ไม่ได้ เพราะถ้าต่ำกว่าความคาดหวัง เสียงก่นด่าก็จะดังกว่าปกติมากเพราะผู้คนได้ลิ้มลองรัฐมนตรีที่เป็นมืออาชีพจริงๆ ก็ยากที่จะยอมคุณภาพที่ต่ำกว่านี้อีกไม่ได้
ผลกระทบที่สี่ พรรคภูมิใจไทยก็มีโอกาสได้คะแนนเสียงปาร์ตี้ลิสต์ที่เดิมไม่เคยนึกฝันว่าจะได้ เพราะ ณ ปัจจุบันกลายเป็นพรรคเดียวที่พอมีโอกาสก็โชว์ความกล้าหาญในการเลือกรัฐมนตรีที่ถูกใจผู้คน ในขณะที่พรรคอื่นมีโอกาสแล้วไม่ได้ทำบ้าง หรือยังไม่มีโอกาสแต่ก็ไม่รู้ว่าจะตัดสินใจแบบนี้หรือไม่ กลายเป็นโมเดลใหม่ที่พรรคภูมิใจไทยกำหนดเกมขึ้นมา
ผลกระทบที่ห้า เป็นการส่งสัญญานชัดเรื่องหมดยุค underdeliver overpromise ของการเมืองที่สัญญามั่วๆไว้ก่อนแล้วไม่ทำเหมือนในอดีตมาแต่ไหนแต่ไร ใช้แต่วาทกรรมอย่างเดียว จนมาถึงยุคที่มีโซเชียล มี digital footprint ซึ่งจะใช้วิธีนั้นไม่ได้อีก การที่ทำในสิ่งที่ผู้คนไม่คาดคิดต่างหากที่สำคัญและได้ใจ เป็นหลักการของ overdeliver underpromise มากกว่าจึงจะสร้างแบรนด์ทางการเมืองใหม่ได้
ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็คงต้องดูกันยาวๆ ว่าเลือกตั้งรอบหน้าจะทำได้ในมาตรฐานนี้หรือไม่ เพราะรอบนี้ได้คะแนนพรรคประชาชนมาทำให้การตัดสินใจจัดตั้งรัฐบาลที่มากความสามารถทำได้ง่าย แต่ถ้านักการเมืองมีอำนาจต่อรองมากๆแล้วก็อาจจะกลับไปอีหรอบเดิมอีก
1
ผมไม่ได้มีความประสงค์ที่จะเชียร์พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่คิดว่าควรเชียร์การวางหมากนี้ที่จะเปลี่ยนหมุดหมายของการเมืองไทยที่สิ้นหวังให้กลับมามีหวังอีกครั้งจากการได้มืออาชีพเข้ามาทำงานบางส่วนได้โดยไม่ถูกการเมืองและมุ้งต่างๆครอบงำจนหมด เพื่อที่จะได้สนับสนุนให้มีมูฟแบบนี้ในภายภาคหน้าอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนก็ตาม
เพราะหมากนี้ทำให้กระดานมีชีวิตขึ้นมาก็จริง แต่ก็ยังไม่ได้จะชนะทั้งกระดาน แค่ชิงความได้เปรียบเท่านั้น เพราะถ้าจะชนะกันจริงๆก็ต้องดูกันยาวๆ มูฟต่อไปก็คือต้องทำผลงานให้ชัด และถ้าได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งก็ต้องวางหมากให้แหลมคมในมาตรฐานใหม่
เพราะถ้ากลับไปเหมือนเดิม วางหมากผิดอีกครั้ง ก็อาจจะแพ้ทั้งกระดานได้อีกเช่นกัน…
1
โฆษณา