Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ทันโลกกับ Trader KP
•
ติดตาม
10 ก.ย. เวลา 09:22 • หุ้น & เศรษฐกิจ
📌 เหรียญสองด้านของ ‘เงินบาทแข็งค่า’ ที่คุณ (อาจ) ไม่เคยรู้!
ช่วงนี้หลายคนคงรู้สึกว่าเงินบาทของเราดูมีพลังมากขึ้น ใครที่จะไปเที่ยวต่างประเทศก็แลกเงินได้เยอะขึ้น ส่วนสายช้อปปิ้งออนไลน์ที่กดสั่งของจากเว็บนอกก็เหมือนได้ส่วนลดไปในตัว นั่นคือข้อดีเมื่อค่าเงินบาทของเราแข็งค่าขึ้น
ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้ามองอีกด้าน การแข็งค่าของเงินนี้ก็สร้างปัญหาให้กับคนอีกกลุ่มใหญ่ที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน เราลองมาดูกันว่าการที่เงินบาทมีพลังมากขึ้นนั้นส่งผลกระทบกับใครบ้าง
🟢 ผู้ส่งออกและเกษตรกรไทย
ลองจินตนาการว่าคุณเป็นเจ้าของโรงงานส่งออกเสื้อผ้า หรือเป็นชาวสวนทุเรียนที่ส่งผลผลิตออกไปขายเมืองจีน คุณทำงานหนักเท่าเดิม คุณภาพของก็เป๊ะเหมือนเดิม แต่รายรับกลับหายไปดื้อ ๆ
(ตัวเลขต่อไปนี้เป็นเพียงตัวอย่างสมมติเพื่อแสดงให้เห็นภาพ)
• ปีที่แล้ว (บาทอ่อน) คุณส่งออกทุเรียนได้ $10,000 แลกเป็นเงินไทยได้ 370,000 บาท (อัตราแลกเปลี่ยนสมมติ $1 = 37 บาท)
• ปีนี้ (บาทแข็ง) คุณส่งออกทุเรียนล็อตเท่าเดิม ได้เงิน $10,000 เท่าเดิม แต่พอแลกกลับมาเป็นเงินไทย เหลือแค่ 320,000 บาท (อัตราแลกเปลี่ยนสมมติ $1 = 32 บาท)
เงินหายไปถึง 50,000 บาท
นี่คือสิ่งที่ผู้ส่งออกและเกษตรกรทั่วประเทศกำลังเผชิญ สินค้าของไทยในสายตาชาวโลกจะดูแพงขึ้นทันทีทั้งที่คุณภาพเท่าเดิม ทำให้แข่งขันกับคู่แข่งอย่างเวียดนามหรืออินโดนีเซียได้ยากขึ้น เมื่อขายของได้น้อยลง กำไรหดหาย สิ่งที่จะตามมาคือการลดโอที ลดโบนัส หรือเลวร้ายที่สุดคือการปลดคนงาน โรงงานที่เคยคึกคักอาจต้องเงียบเหงาลง
🟢 โรงแรมร้าง ร้านค้าเงียบ
ลองสมมติว่าเราเป็นนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกที่มีงบประมาณ $1,000 สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในไทย
• ปีที่แล้ว (บาทอ่อน) เขาแลกเงินได้ 37,000 บาท สามารถใช้จ่ายได้อย่างสบาย เที่ยวได้หลายวัน
• ปีนี้ (บาทแข็ง) เงิน $1,000 เท่าเดิม อาจแลกได้แค่ 32,000 บาท เงินที่ใช้ได้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ต้องวางแผนการใช้จ่ายใหม่ทั้งหมด
เมื่อค่าใช้จ่ายในไทยดูแพงขึ้นในสายตาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตัวเลือกก็มีเพียงสองทางคือ หนึ่ง ลดวันท่องเที่ยวลง หรือสอง เปลี่ยนไปเที่ยวประเทศอื่นที่ค่าเงินถูกกว่าแทน
ผลกระทบนี้ไม่ใช่แค่กับธุรกิจโรงแรมเท่านั้น แต่มันเป็นเหมือนโดมิโนที่ล้มทับกันเป็นทอด ๆ ตั้งแต่คนขับแท็กซี่ พ่อค้าแม่ค้าในตลาด ร้านอาหารข้างทาง ไปจนถึงร้านนวดแผนไทยและร้านขายของฝาก ทุกคนต่างได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวที่หายไปหรือนักท่องเที่ยวที่ประหยัดขึ้น เพราะเงินบาทเราแข็งเกินไปนั่นเอง
🟢 คลื่นใต้น้ำในตลาดหุ้นและเศรษฐกิจภาพรวม
เงินบาทที่แข็งอาจเป็นสัญญาณว่ามีเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามา แต่ในทางกลับกัน มันก็สร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น โดยเฉพาะบริษัทที่พึ่งพารายได้จากการส่งออกเป็นหลัก เช่น กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และอาหาร เมื่อรายรับที่เป็นดอลลาร์แปลงกลับมาเป็นบาทแล้วลดลง กำไรของบริษัทเหล่านี้ก็ลดลงทันที และแน่นอนว่าราคาหุ้นก็อาจจะร่วงตามไปด้วย
เมื่อเสาหลักของประเทศอย่างการส่งออกและการท่องเที่ยวโดนหมัดน็อกพร้อม ๆ กันแบบนี้ ย่อมส่งผลสะเทือนถึงเศรษฐกิจทั้งประเทศ การเติบโตอาจชะลอตัวลง การจ้างงานลดลง และสุดท้ายมันก็จะวนกลับมาส่งผลกระทบกับเราทุกคนอยู่ดี
🟢 ยิ่งแกร่ง ยิ่งเสี่ยง
การแข็งค่าของเงินบาทเป็นบทเรียนเศรษฐศาสตร์ในชีวิตจริงที่สอนให้เรามองภาพรวมได้กว้างขึ้น แทนที่จะมองว่าเป็นเพียงดาบสองคม เราสามารถมองว่ามันคือสัญญาณเตือนและโอกาสในเวลาเดียวกัน
ในเชิงการเรียนรู้และระวังตัว นี่คือสัญญาณเตือนให้ผู้ประกอบการต้องหันมาสร้างความแข็งแกร่งจากภายใน ลดต้นทุน หรือหาตลาดใหม่ ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยง เงินบาทที่แข็งขึ้นทำให้เห็นเลยว่าเรื่องเศรษฐกิจโลกไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่ส่งผลถึงเงินในกระเป๋าเราโดยตรง
สำหรับคุณ เงินบาทแข็งรอบนี้คุณได้ประโยชน์หรือเจอปัญหาอะไรบ้าง? มาแลกเปลี่ยนมุมมองกัน
#FollowTheMoney #เงินบาทแข็ง #เศรษฐกิจไทย #ค่าเงินบาท
3 บันทึก
9
2
3
9
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย