เมื่อ Gen Z ไม่ทน: ถอดบทเรียนจากเวทีโลกสู่แรงกดดันที่นักการเมืองไทยต้องฟัง
คุณเคยสงสัยไหมว่า อะไรคือต้นตอที่แท้จริงของการประท้วงที่รุนแรงในหลายประเทศ? และแบบที่กำลังเป็นข่าวในประเทศเนปาล
หลายคนอาจมองว่าเป็นแค่พฤติกรรมเลียนแบบของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง แต่แท้จริงแล้วมันคือ "แรงกดดัน" ทางสังคมและเศรษฐกิจที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน และกำลังถึงจุดที่พร้อมจะปะทุขึ้นทุกเมื่อ
บทความนี้จะชวนคุณมาทำความเข้าใจถึงความเชื่อมโยงระหว่างความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ การคอร์รัปชัน และการประท้วงของคนรุ่นใหม่ พร้อมทั้งตั้งคำถามว่า… สิ่งนี้มีโอกาสเกิดขึ้นในประเทศไทยหรือไม่?
ความเหลื่อมล้ำ: ฟางเส้นสุดท้ายที่จุดชนวนความขัดแย้ง
ในอดีต การปฏิวัติใหญ่ของโลกอย่าง การปฏิวัติฝรั่งเศส ในปี พ.ศ. 2332 (ค.ศ. 1789) ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง แต่เป็นผลจากความเหลื่อมล้ำทางชนชั้นอย่างรุนแรง ประชาชนต้องแบกรับภาระภาษีมหาศาล ขณะที่ชนชั้นสูงใช้ชีวิตอย่างหรูหรา นี่คือภาพสะท้อนที่ชัดเจนว่าเมื่อความไม่เท่าเทียมกันกัดกินสังคม ความไม่พอใจจะก่อตัวขึ้นอย่างเงียบ ๆ จนในที่สุดก็ระเบิดออกมาอย่างรุนแรง
ในยุคปัจจุบัน ปัญหานี้ยังคงเป็นเชื้อเพลิงสำคัญ งานวิจัยจากหลายสถาบันทั่วโลก ต่างชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า ประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำสูง มีโอกาสที่จะเกิดความตึงเครียดและประท้วงได้มากกว่า ดังเช่น การจลาจลในลอสแอนเจลิส ในปี พ.ศ. 2535 (ค.ศ. 1992) ที่มีรากฐานมาจากความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและเชื้อชาติ หรือแม้กระทั่งการประท้วงในเนปาลตามข่าวในภาพที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2568 (ค.ศ. 2025) ซึ่งชี้ให้เห็นว่าปัญหาการเมืองและสังคมที่เปราะบางพร้อมที่จะปะทุได้ทุกเมื่อ
ภาพแสดงความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย (ภาพสร้างจาก AI) ที่พบเห็นได้ทั่วประเทศ
การคอร์รัปชัน: ตัวเร่งปฏิกิริยาที่ทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้าย
ปัญหาความเหลื่อมล้ำจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเมื่อมี "การคอร์รัปชัน" เข้ามาเกี่ยวข้อง การโกงกินและการใช้นโยบายที่เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องไม่ได้เป็นแค่การสูญเสียงบประมาณของรัฐ แต่ยังเป็นการทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบการเมืองและรัฐบาลอีกด้วย เช่น กรณี "ถ้าท่านอยากได้บอกมาได้เลยค่ะเดี๋ยวจัดการให้" ที่เป็นข่าวและทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศขึ้น
"ถ้าท่านอยากได้บอกมาได้เลยค่ะเดี๋ยวจัดการให้" (ภาพสร้างจาก AI)
เมื่อคนส่วนใหญ่เห็นว่าทรัพยากรของประเทศถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์ของคนบางกลุ่มเท่านั้น ความรู้สึกไร้ความหวังและความสิ้นศรัทธาก็จะยิ่งหยั่งรากลึก และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมในประเทศที่มีปัญหาคอร์รัปชันสูง จึงมักจะเกิดการประท้วงและการลุกฮือของประชาชนเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม
คำถามสำหรับนักการเมืองและคนไทยทุกคน...
ประเทศไทยมีปัจจัยเหล่านี้หรือไม่?
ข้อมูลจากหลายแหล่งต่างยืนยันว่าประเทศไทยมีระดับความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจสูงติดอันดับโลก นอกจากนี้ ปัญหาการคอร์รัปชันก็ยังคงเป็นเรื่องที่สังคมตั้งคำถามอย่างต่อเนื่อง
การที่ Gen Z ของไทยมีความตื่นตัวทางการเมืองและสังคมสูงขึ้น ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ พวกเขาเติบโตมาในยุคที่เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างไร้ขีดจำกัด ทำให้เห็นและรับรู้ถึงความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นในประเทศของตัวเอง และเมื่อพวกเขาต้องเผชิญกับสภาพเศรษฐกิจที่เปราะบาง โอกาสในการมีงานทำที่ลดลง และหนี้สินที่เพิ่มสูงขึ้น แรงกดดันที่สะสมก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น
กลุ่มประชากร Gen Z ที่เกิดมาในยุคที่เขามีทักษะในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างง่ายดาย เปรียบเสมือนระเบิดเวลาที่ถูกตั้งเวลาไว้ (AI Image)
นี่ไม่ใช่แค่การวิเคราะห์สถานการณ์จากต่างประเทศ แต่เป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนว่าหากนักการเมืองยังคงเพิกเฉยต่อความเหลื่อมล้ำและยังคงปล่อยให้เกิดการคอร์รัปชันเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มพวกพ้อง ความไม่พอใจของคนรุ่นใหม่ในวันนี้ ก็อาจกลายเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทรงพลังจนเกินกว่าที่ใครจะคาดถึง
เมื่อถึงวันที่ Gen Z ทนไม่ได้กับการที่นักการเมืองโกง พวกเขาก็มีโอกาสที่จะออกมาประท้วงได้แบบที่เกิดในประเทศเนปาล (AI image)
ท้ายที่สุด การปะทุของแรงกดดันทางสังคมไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะพฤติกรรมเลียนแบบ แต่เกิดจากความเจ็บปวดที่ประชาชนต้องเผชิญ หากเราต้องการหลีกเลี่ยงสถานการณ์เช่นเดียวกับในต่างประเทศ การแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างอย่างจริงจังและการสร้างโอกาสที่เท่าเทียมกัน คือสิ่งเดียวที่จะช่วยบรรเทาความตึงเครียดในสังคมได้
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
