11 ก.ย. เวลา 06:08 • ความคิดเห็น
ความรัก ความเข้าใจเป็นความปรารถนาดี ที่จะช่วยให้ผู้อื่น พ้อแม่พี่น้อง ญาติมิตรสหาย ตลอดจน สัตว์โลกทั้งหลาย เพราะการที่จิตเกิดมา อาศัยกายมนุษย์ กายสัตว์ ต่างก็มีทุกข์ เป็นมนุษย์ก็มีทุกข์ แต่เราก็ไม่รู้จักเรื่องราวของทุกข์ ที่แท้จริง ที่มีสาเหตุมาจากกรรม มาจากอารมณ์โลภโกรธหลง ที่เรายินดี ใช้กายวาจาใจ คล้องเวรกรรม กับคนนั้นนะคนนี้ ยึดเรื่องราวของคำว่ากรรม ว่าทุกข์ แล้วก็ถอยออกมาไม่ได้ เกิดมาทีไร ก็ยึดทุกข์ยึดอารมณ์โลภโกรธหลง ไม่มีใครบอกหนทางให้ออกจากทุกข์นี่ได้เลย
คราวนี้ เมื่อมาเจอะเจอ พระพุทธเจ้า เจอทางที่ทางชี้บอกให้ ด้วยความเมตตา ให้เส้นทางนี้ เดินให้พ้นทุกข์ เราก็พยายามศึกษา สร้างบุญกุศล ปฏิบัติธรรม ไปตามรอยที่ท่านชี้ไว้ ก็ทำให้รู้จัก เรื่องแสงสว่าง ที่ช่วยให้จิตมีปัญญารู้จักทุกข์ แล้วก็หลบหลีก เรื่องที่จะไปพัวพันให้พ้นทุกข์ เราเป็นจิตน้อยๆ น้อยบุญกุศลบารมี ไม่สามรถทำแบบเอาเป็นเอาตาย เหมือน ผู้ที่สะสมบารมีเกิดชาติสุดท้าย คือ เข้าป่าด้วยเสื้อผ้าชุดเดียว ไปสะสางทิ้งเรื่องราวทั้งหมด ที่เป็นกรรม นำเกิด เราก็ได้แต่ฝึกหัดไปตามกำลังของกายและจิตเท่าที่ทำได้
พอเข้าใมากขึ้น นึกไปถึงพระที่เรานับถือ ที่บอกว่า เมื่อฉันละจากสังขาร มองลงมาดูลูกหลาน เค้าทำไม่ได้ สร้างบุญกุศลบารมีไม่ได้ นึกถึงมั้ยว่า ฉันจะรู้สึกอย่างไร นี่ทุกวันนี้ แม้ท่านละสังขารไป ท่านก็ช่วยแนะนำ ชี้แนะ ให้ปฏิบัติธรรม แก้ไข เรื่องอุปสรรค เรื่องอารมณ์ตัวกระทำ ไปจนเรื่องของธาตุทั้งสี่ ก็ด้วยพระที่ท่านจากไป ช่วยสงสาร จิตน้อยๆ จอนอบน้อมสักการะ องค์พระสัมมาสัมพุทธะชเจ้า .ด้วยกายวาจาใจ ..
มนุษย์เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ ร่างกายก็สะอาดสะอ้าน มือก็กำ กำกรรมมาแบมือไม่ได้ กลิ่นกายก็สะอาดสะอ้าน . พออยู่ไป ชีวิตก็ต้องอาศัยน้ำเลือดน้ำหนองของผู้อื่น เปิดไก่ หมูวัวควาย เค้ากินอะไรมาหล่อเลี้ยงสังขาร กินหญ้า กินหนอน ที่ก็มีเชื้อโรค แต่แปลกร่างกายเค้าก็โตวันโตคืน จิตของผู้ที่อยู่ในสังขารกรรม ก็ต้องชดใช้กรรม
คราวนี้ เค้าชดใช้กรรมยังไม่จบสิ้นอายุขัย มนุษย์ก็ไปเข่นฆ่า เอาน้ำเลือดน้ำหนองของผู้ที่อยู่ในสังขารกรรม มาหล่อเลี้ยงสังขาร นั้นก็เป็นเนื้อของผู้ที่มีกรรม มาหล่อเลี้ยงกายมนุษย์ กายนั้นก็มีน้ำเลือดน้ำหนองเป็นกรรม เกิดม่กินคาว กลิ่นเหม็นขึ้นมา แล้วก็มีตัวกินเลือดกินเนื้อมากัดกินน้ำเลือดน้ำหนอง ตามเส้นเอ็น เนื้อเยื่อพังพืด
..นานไป ..ไอ้ตัวกินเลือดกินเนื้อ ก็ตายทับถม บางที่เกิดเป็นแผล พวกนี้ก็โผล่ขึ้นมา กัดกินน้ำเลือดน้ำหนอง .. พอแก่เฒ่า มันก็ชอนไช อยู่ใต้ผิวหนัง เหี่ยวย่น ไม่เต็งตึง เหมือนเถาวัลย์ที่ร้อยรัดเรือนกาย มันเหี่ยวแห้งตาย จะเหยียดแข้งขา ก็ตึง เหมือนแขนขาถูกร้อยรัด พันธนาการ
..คราวนี้ เมื่อเราไปกินน้ำเลือดน้ำหนองมาหล่อเลี้ยงกายให้จิตอาศัย ไม่หากินก็ไม่ได้ แต่เรากินเค้าเอร็ดอร่อย เอาไปสร้างแต่กรรม หากเราเอาน้ำเลือดน้ำหนองที่พยุงกาย เอากายนี้ไปสร้างบุญกุศลขึ้นมา น้ำเลือดน้ำหนองที่มีธาตทั้งสี ก็ช่วยกระจายบุญกุศลส่งคืนให้กับผู้ที่สละน้ำเลือดน้ำหนองมาให้เรากิน กินเค้าแล้ว เราก็สร้างบุญกุศล ส่งคืนกลับคืนให้ผู้ที่สละเนื้อกรรมมาเสริมธาตุภายในให้ชีวิตใหีกายนี้ ดำเนินต่อไปได้ ไม่อดอยากทุกทรมาน
เรื่องน้ำเลือดน้ำหนอง ตัวกินเลือดกินเนื้อ พอเราปฏิบัติธรรมมากเข้า เค้าก็แสดงให้เราดู ว่าเป็นอย่างไร ตัวกินเลือดกินเนื้อ บางครั้งตัวร้ายๆ แค่ตัวเดียว ก็ทำเอาถึงตาย เหมือนอาฆาตพยาบาทจองเวรกันมา
เรื่องราวพวกนี้ เวลาเราเจ็บป่วยก็ไม่ได้ไปหาหมอ ก็อาศัยการสร้างบุญกุศลขึ้นมา หมอเค้าเราเป็นมะเร็ง เราก็ว่าดี จะได้เรียนรู้จัก เรื่องราวของกายป่วยที่ขึ้น ที่เค้าว่า มีเจ้ากรรมนายเวร ..เราก็ได้เรียนรู้ว่า เค้ามาทวงกรรมเป็นลักษณะอย่างบ้าง สิ่งเหล่านี้ มันมองไม่เห็นด้วยสายตากรรม เราต้องอาศัยการสร้างบุญกุศลขึ้นมา เพื่อที่ธรรม จะช่วยสอนให้เราได้รับรู้เป็นที่ประจักษ์ ..เรื่องราวเหล่านี้ ต้องสร้างบุญกุศลขึ้นมาเอง ที่เค้าเป็นปัจจัตตัง
คนเรานั้นเวลาเจ็บป่วยก็วิ่งหาคนคนนั้นคนนี้ช่วย หาหมอให้ข่วย ส่วนเรา..เราเชื่อกรรมมีจริง บุญก็มีจริง ธรรมก็มีจริง เพราะฉะนั้น เมื่อกายมันป่วย เราก็ฝืนกายมาสร้างบุญกุศลปฏิบัติธรรม ..เพื่อให้เรารู้จักกรรม .ขึ้นมาว่า มันมาจากไหนบ้าง ทำแล้วมันก็ทุเรากายที่เจ็บป่วยดีขึ้น กรรมเบาก็หาย กรรมหนักก็กลายเป็นเบาบาง
เรื่องราวเวลาที่มีพระผู้ใหญ่มา รับอนุโมทนา ผู้ที่มาสร้างบุญกุศล แล้วก็มีการสอนธรรม มันก็ทำให้เรา ได้สัมผัส ในเรื่องราว ของจิต ที่เรียกว่า หูทิพย์ตาทิพย์ คนธรรพ์ คนลับแล ที่มีมากมากมายก่ายกอง ทำไมเค้าสนใจมาฟังธรรมกัน นั่นเป็นเพราะเค้าอยากจะฟัง ว่าเมื่อหมดบุญแล้ว ต้องมาเกิดเป็นมนุษย์ เค้าจะต้องทำอย่างไร เรืองหูทิพย์ตามทิพย์นั่น หากว่า สถานที่ใด มีการสร้างบุญกุศลบารมี แล้วเกิดแสงรัตนะสว่างขึ้น เค้าก็มาร่วมอนุโมทนา มาดูว่า มนุษย์นั่นทำอย่างไรในการสร้างบุญกุศลบารมี จึงเกิดมีแสงรัตนะเกิดขึ้น
แล้วมนุษย์ที่ไปท่องคาถาอาคม ทำพิธีกรรม เรียกร้องเรื่องนั้นเรื่องนี้ เรียกร้องหากรรม เพิ่มพูนโลภโกรธหลงให้มากขึ้น มันมีแต่สีดำสีม่วง สีแห่งกรรมเหมือนของเหม็นเน่า กลิ่นของธรรมก็ไม่มี หูทิพย์ตาทิพย์ที่ไหน จะมาร่วมอนุโมทนา ช่วยส่งเสริมอนุโมทนา
การที่หูทิพย์ตาทิพย์มาอนุโมทนา เราก็ได้สัมผัสในเรื่องของแสงสี ของเทพ ที่มาอนุโมทนา จิตใจก็ร่มเย็นสบายทั้งเรือนกาย หากเป็นพวกผู้ที่มีกรรมเป็นเปรตอสุรกาย มาอนุโมทนาบุญกุศล อารมณ์ความรู้สึกก็แสบร้อน เร่าร้อน บางที่ก็เจ็บปวดทรมาน เหมือนมายอกว่า เค้าทุกข์ทรมานอย่างไร ให้เราได้รับรู้
เพราะในสถานที่เค้าอยู่นั่นมีแต่ความสุข ไม่มีทุกข์ บางที่ก็อยู่กับสุขนานจนลืมทุกข์ ไม่รู้จักทุกข์ ..ไม่รู้จักเรื่องอารมณ์โลภโกรธหลง ที่ปกคลุมจิต เมื่อเกิดมามีกายเป็นมนุษย์ในโลก เค้าก็มาฟังธรรม เพื่อจดจำบันทึกไว้กับธาตุทั้งสี่ของเค้า เพื่อที่เกิดมา เค้าจะได้นำสิ่งที่บันทึกจดจำเอาออกมาใช้ ในการสร้างบุญกุศลบารมี ที่เวลาในโลกมนุษย์นั่นใช้เวลาไม่นาน แต่ส่งผลให้ไปสถานที่ทุกข์ยาวนาน หรือ สุขยาวนาน
แล้วในยุคนี้ ดินฟ้าอากาศ เค้าก็เปิดทางให้จิตที่มาจากอบายภูมิ ได้มาเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อแก้ไข ทำเรื่องราวดี สร้างบุญกุศล แต่เมื่อทำไม่ได้ ก็มีการเก็บกวาดจิตที่มาจากนรก เก็บไปสู่สถานที่เดิม ไปทุกข์อีกยาวนาน
โฆษณา