12 ก.ย. เวลา 03:04 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
จิตผู้อยู่เหนือโลก
จิตมนุษย์ นั้นอาศัยอยู่ในกาย การรับรู้อะไร เรียนรู้อะไร เอามายึดถือ นำเข้ามาในกายก็ มีอารมณ์ปรุงแต่ง ในวัตถุสิ่งของ ใช้ตาไปมองอะไร เห็นภาพอะไร ก็มีอารมณ์ปรุงแต่งที่ตา แต่จิตที่อาศัยในกาย ก็ไม่เรียนรู้อะไรได้ ไปมากกว่า ที่ตายังดี หูยังดี แล้วมีอารมณ์เกิดขึ้น ว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ มีไอ้นั้นไอ้นนี้ เกิดขึ้น
.บ้างก็พูดพล่อย เกิดดับๆ คล้ายๆผู้ที่มีปัญญาแต่ก็ไม่เอากายนี้มา เรียนรู้ มันมีอะไรที่เกิดดับ ทำให้จิตหลงใหลยึดถือ ใช้กายวาจาใจ ไปตามอารมณ์ที่เกิดดับ ทำไม่หยุดยั้งอารมณ์ที่เกิดดับต่อเนื่องเป็นเหมือนโซ่ตรวนลากจิต พูดคำว่า เกิดดับๆ แต่ก็ใช้อารมณ์โลภโกรธหลงเหมือนเดิม .
พอหันมามองดูที่กายนี้ มันเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย มีอายุของกายเพียงน้อยนิด แต่ก็มีจิต ที่ท่านก็อาศัยอยู่ในกายนี้ ทำจิตทำใจ ส่งคืน ธาตุทั้งของคุณบิดามารดา พระแม่ทั้งสี่ จิตนั้นมีแต่แสงรัตนะ กายก็ไปแก้ว ยุติการเกิด ไม่ต้องมาเกิดแก่เจ็บตาย ไม่ต้องมีขันธ์ห้า ไม่ต้องมาอาศัยวิญญาณทั้งหกอีก ไม่ต้องเกิดมาอาศัยในกายมนุษย์อีกแล้ว ยุติได้ดีที่สุด .
มีเรื่องราว ของผู้ที่ท่านทำจิตเป็นแสงได้ ทิ้งเรื่องราวของธาตุทั้งสี่ ที่ประกอบเรือนกายที่อาศัย .จิตที่ทำได้ ..จิตนั้นไปไหน ก็ไม่มีอะไรขัดขวาง จิตท่านไปได้เลย ..มีผู้ที่ท่านท่านทำได้ ท่านเล่าให้ฟัง จิตฉันไปดวงอาทิตย์ ไปถึงพื้นเลย เราก็ถามท่านว่า ไปอย่างได้จริงหรือ ท่านก็บอกว่าไปแต่จิต ไม่ได้เอากายไป ไปดาวอังคาร พอจิตไปถึง ธาตุทั้งสี่ก็ไปประกอบเป็นรูปร่างให้ที่นั้น พอเราถามซักถามด้วยความสงสัย ทั้งเรืองราวมนุษย์ต่างดาว ท่านก็บอกว่า ฉันคุยกับเค้าบ่อยไป พอถามไป ท่านก็บอกว่า เค้าไม่ให้ฉันพูดแล้ว
ที่เล่าเรื่องนี้ เพราะจิตของมนต์ปุถุชนนั้น มันไม่บริสุทธิ์ มันยึดอยู่กับอารมณ์กรรมตัวกระทำ ที่เกิดขึ้นในกาย ที่ออกมาจากธาตุทั้งสี่ ไม่สามารถชำระสะสางสิ่งที่สะสมมากัยธาตุที้งสี่ได้ แล้วก็ไม่รู้ว่า จะทำอย่างไร ไม่รู้จักเรื่องราวที่สะสมมาทุกชาติเป็นกรรมอยู่กับธาตุทั้งสี่ นานจึงมีผู้ที่สามารถจุติลงมากระทำได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ ที่เค้าว่าองค์นั้นองค์นี้เป็นพระอรหันต์ หันไปหันมา โอ้ย .ไอ้นั้นก็ดี กินดีอยู่ดี สุขสบาย นั่งนอนในบ้านในช่อง ส่วนผู้ที่ที่ท่านทำได้ ท่านไปอยู่ป่า ไม่ได้อยู่เมือง
โฆษณา