เมื่อวาน เวลา 08:47 • ประวัติศาสตร์

พระยาอุปกิตศิลปสาร ผู้เขียนตำราภาษาไทยครบชุด (อักขรวิธี  วจีวิภาค  วากยสัมพันธ์ และฉันทลักษณ์)

----------------
    พระยาอุปกิตศิลปสาร(นิ่ม กาญจนาชีวะ) เกิดเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2422 ที่บ้าน ตำบลบางประทุน อำเภอบางขุนเทียน จังหวัดธนบุรี เป็นบุตรของนายหว่าง และนางปลั่ง ซึ่งมีอาชีพทำสวน
อายุ 9 ขวบได้เรียนหนังสือกับพระภิกษุคำ วัดบางประทุนนอก เรียนได้ 2 ปีก็ได้มาเรียนต่อกับท่านสมุห์ผึ้ง วัดประยูรวงศาวาส เรียนทั้งธรรมะและหนังสือสามัญ ตลอดจนหนังสือขอม จนสามารถรับจ้างจารหนังสือและรับจ้างเขียนสัญญาสารกรมธรรม์ตามสำนักกำนันผู้ใหญ่บ้านได้
ต่อมาได้เล่าเรียนภาษาไทยและ พระปริยัติธรรมกับพระครูพรหมศร วัดสุทัศน์เทพวราราม พร้อมทั้งได้บวชเณรด้วย  พ.ศ 2441 เมื่ออายุ 19 ปีได้เข้าสอบพระปริยัติธรรม ณ วัดสุทัศน์ฯได้เป็นเปรียญประโยค 3
พ.ศ 2442 ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณวัดสุทัศน์เทพวราราม และเข้าสมัครสอบไล่ได้นักเรียนชั้นที่ 1 (ภาษาไทย) ของมหามกุฏราชวิทยาลัย ในปลายปีนั้นเอง
พ.ศ 2443 ได้เริ่มเข้ารับราชการเป็นครูฝึกหัดสอน ณโรงเรียนฝึกหัดอาจารย์สายสวลี ทั้งที่ยังเป็นบรรพชิต ได้รับเงินเดือนเดือนละ 15 บาท  รวมทั้งได้เข้าสอบวิชาภาษาไทย ได้ประโยค 3 ชั้น 1 กับครูประกาศนียบัตรชั้น 1 และเข้าสอบพระปริยัติธรรมประโยค 4 ได้ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
พ.ศ 2444 เป็นครูโรงเรียนสวนกุหลาบวัดมหาธาตุ ในปลายปีนั้นได้เข้าสอบพระปริยัติธรรมได้ประโยค 5   พ.ศ 2445 ย้ายไปเป็นครูโรงเรียนฝึกหัดอาจารย์  และในปลายปีนั้นก็สอบพระปริยัติธรรมประโยค 6 ได้ บวชอยู่ได้ 5 พรรษา ก็ลาสิกขาบท
ประวัติการรับราชการ ท่านเป็นครูโรงเรียนฝึกหัดอาจารย์จนถึงพ.ศ 2453 ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นข้าหลวงตรวจการ พ.ศ 2458 ได้เลื่อนวิทยฐานะเป็นครูประกาศนียบัตรมัธยม เป็นปลัดกรมตำราอีกตำแหน่งหนึ่ง พ.ศ 2473 ย้ายไปเป็นหัวหน้าแผนกในกองแบบเรียนกรมวิชาการ  พ.ศ 2475 ย้ายมาเป็นอาจารย์ประจำกรมวิชาการ แล้วได้เป็นอาจารย์ประจำกรมศึกษาธิการ  อยู่ในตำแหน่งนี้จนเกษียณอายุราชการ ในพ.ศ 2478
ขณะรับราชการอยู่นั้น นอกจากทำหน้าที่ในตำแหน่งราชการแล้ว ยังได้รับแต่งตั้งให้มีหน้าที่พิเศษอีกหลายหน้าที่คือ เป็นอาจารย์พิเศษแผนกวิชาภาษาไทย และภาษาโบราณตะวันออก คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย  เป็นอาจารย์พิเศษสอนภาษาไทยโรงเรียนฝึกหัดครูประถม เป็นอาจารย์พิเศษสอนภาษาไทยและวิชาชุดครูมัธยม  เป็นกรรมการชำระปทานุกรม  และเป็นกรรมการพิจารณาวางหลักตั้งชื่อบุคคล
ขณะที่ท่านเป็นอาจารย์คณะอักษรศาสตร์จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย พระยาอุปกิตศิลปสาร ท่านเป็นผู้ที่ริเริ่มใช้คำว่า "สวัสดี" เป็นคนแรก  ต่อมา พ.ศ 2486 จอมพล ป.พิบูลสงครามนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น จึงเห็นชอบให้ใช้คำว่า "สวัสดี" เป็นคำทักทายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2486 เป็นต้นมา
ก่อนออกจากราชการ ท่านได้รับพระราชทานยศบรรดาศักดิ์ เป็นอำมาตย์เอก พระยาอุปกิตศิลปสาร ได้รับพระราชทานเหรียญดุษฎีมาลาเข็มศิลปวิทยา ซึ่งแสดงคุณวุฒิอันเชี่ยวชาญทางวิชาภาษาไทยอีกด้วย
ผลงานสำคัญของท่านคือ การเขียนตำรับตำราภาษาไทยไว้จนครบชุดมี "อักขระวิธี" "วจีวิภาค" "วากยสัมพันธ์" และเล่มสุดท้ายคือ"ฉันทลักษณ์" หนังสือตำราฉันทลักษณ์นี้ ท่านเขียนเสร็จ ก่อนหน้าถึงแก่อนิจกรรมไม่กี่วัน จึงยังไม่ได้เขียนคำนำไว้
นอกจากนี้ท่านยังเขียนเรื่องเริงรมย์กับเรื่องที่เป็นประโยชน์ทางการศึกษาและทางจรรยา ทั้งร้อยแก้ว และคำประพันธ์ให้บรรดาหนังสือพิมพ์ต่างๆอีกมากมาย
นามปากกาที่ใช้ในการประพันธ์ของท่านมีหลายนามปากกาคือ "สามเณรนิ่ม" "พระมหานิ่ม" "ม.ห.น." "อ.น."  "อ.น.ก." "อุนิกา" "อนึก คำชูชีพ"
พระยาอุปกิตศิลปสาร ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2484 รวมสิริอายุ 62 ปี
              ธเนศ ขำเกิด เขียน
สรุปจากหนังสือประวัติครู คุรุสภาจัดพิมพ์ในวันครู 16 มกราคม 2501
โฆษณา