‘เกาะต้าเฉิน’ ดินแดนไร้คาร์บอนแห่งแรกของจีน ประชาชนทั้งเกาะใช้ ‘พลังงานลม’
“เกาะต้าเฉิน” ขึ้นแท่นเกาะไร้คาร์บอนแห่งแรกของจีน ชวนนักท่องเที่ยวสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนผ่านโฮมสเตย์ไฟฟ้าและทางเลือกการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เกาะต้าเฉิน ตั้งอยู่นอกชายฝั่งเมืองไถโจว มณฑลเจ้อเจียง กลายเป็นที่รู้จักในฐานะ “เกาะไร้คาร์บอน” แห่งแรกของจีน หมายความว่าสามารถใช้ชีวิตบนเกาะแห่งนี้ได้โดยไม่มีการปล่อยการคาร์บอนออกมาเลย หรือที่ว่า “การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์” (Net Zero)
ในอดีต เกาะต้าเฉินเคยเป็นสถานที่ทดสอบกังหันลมยุคแรก ๆ หลังจากนั้นพัฒนาเป็นศูนย์แสดงนวัตกรรมสีเขียว และ บริษัท Taizhou Power Supply ได้เข้ามาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้รองรับพลังงานสะอาด ด้วยเทคโนโลยีพลังงานที่ทันสมัยรวมถึงระบบส่งไฟฟ้าความถี่ต่ำแบบยืดหยุ่น 20 เฮิรตซ์ ซึ่งเป็นระบบแรกในระดับนานาชาติ
จาง เย่ รองผู้อำนวยการบริษัท State Grid Zhejiang Taizhou Power Supply Company กล่าวว่า ระบบนี้ช่วยลดความต้องการพลังงานไฟฟ้าในการชาร์จสายเคเบิลใต้น้ำ ลดต้นทุนการลงทุน และทำให้โครงข่ายไฟฟ้ามีเสถียรภาพ นับเป็นความก้าวหน้าสำคัญสำหรับการส่งพลังงานลมนอกชายฝั่งระยะไกล
สิ่งเหล่านี้ได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้อยู่อาศัยไปอย่างสิ้นเชิง ปัจจุบันผู้อยู่อาศัยใช้พลังงานหมุนเวียนในทุกสิ่ง ตั้งแต่การทำอาหารไปจนถึงการเดินทาง ซึ่งทำให้กลายเป็นจุดเด่นและดึงดูดนักท่องเที่ยวสายอีโคได้จำนวนมาก จนปัจจุบันบนเกาะแห่งนี้มีโฮมสเตย์ที่ใช้ไฟฟ้าพลังงานลม 32 แห่ง
ธุรกิจโฮมสเตย์ มีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานลดลงเกือบ 20% หลังจากเปลี่ยนมาใช้พลังงานลม ซึ่งถือเป็นข้อดีอย่างมากของการอยู่อาศัยบนเกาะต้าเฉิน
เกาะต้าเฉิน เครดิตภาพ: State Grid
เมื่อนักท่องเที่ยวเช็กอินเข้าที่พักจะได้รับบัตรสะสมแต้มที่เรียกว่า “Green Island Rewards Card” ซึ่งเป็นโปรแกรมส่งเสริมพฤติกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมผ่านระบบคะแนน โดยนักท่องเที่ยวสามารถสะสมคะแนนจากการเข้าร่วมกิจกรรมด้านความยั่งยืนระหว่างการเข้าพัก คะแนนเหล่านี้สามารถนำไปแลกรับรางวัลต่าง ๆ เช่น บริการจักรยานฟรี ซึ่งจะช่วยส่งเสริมทางเลือกการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โฮมสเตย์ถือเป็นส่วนสำคัญของประสบการณ์นี้ เพราะไฟฟ้าทั้งหมดที่ใช้ในโฮมสเตย์ รวมถึงการปรุงอาหาร การทำความร้อน การทำความเย็น และน้ำร้อน ทั้งหมดนี้ใช้พลังงานจากพลังงานลมบนเกาะไร้คาร์บอนของจีน อีกทั้งเจ้าของที่พักที่เป็นคนท้องถิ่น ยังช่วยให้ผู้มาเยือนได้ใช้ชีวิตเสมือนชาวเกาะ ที่ใช้ระบบพลังงานหมุนเวียนในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย
การเดินทางบนเกาะก็ไม่ก่อให้เกิดการคาร์บอนด้วยเช่นกัน นอกจากจักรยานแล้ว รถยนต์เกือบทั้งหมดล้วนเป็นรถยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีบริการรถบัสไฟฟ้าฟรีสำหรับประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยรถบัสเหล่านี้ใช้พลังงานลมที่ผลิตในท้องถิ่นทั้งหมด
คนขับรถบัสไฟฟ้าระบุว่า กังหันลมเพียงสองตัวสามารถผลิตไฟฟ้าได้เพียงพอสำหรับทั้งเกาะต้าเชิน แม้ในช่วงฤดูร้อนที่มีการใช้งานสูงสุดก็ตาม ส่วนรถบัสก็ใช้เวลาชาร์จไฟเพียง 30 นาทีเท่านั้น โดยมีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานต่อวันอยู่ที่ประมาณ 100 หยวน (ประมาณ 453 บาท) ต่อคัน ซึ่งประหยัดกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันอย่างมาก
นอกเหนือจากการขนส่งและที่พักแล้ว ทุกกิจกรรมบนเกาะก็ได้เปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียนเช่นกัน สิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะ ธุรกิจ และอาคารบริหาร ล้วนใช้พลังงานลมทั้งสิ้น แนวทางที่ครอบคลุมนี้ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลของเกาะลงอย่างมาก ทำให้การปล่อยก๊าซคาร์บอนจึงถูกกำจัดอย่างมีประสิทธิภาพ
พลังงานลมเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่เหมาะสมสำหรับต้าเฉิน เนื่องจากตั้งอยู่ริมชายฝั่ง ลมทะเลที่พัดผ่านตลอดเวลาช่วยให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างมีเสถียรภาพตลอดทั้งปีสำหรับเกาะแห่งนี้
ในอดีต ต้าเชินใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซล โดยจะปิดเครื่องในตอนกลางคืน แต่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปี 2009 เมื่อเปลี่ยนมาใช้พลังงานลม ปัจจุบันต้าเฉินผลิตไฟฟ้าสะอาดได้มากกว่า 60 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี ซึ่งมากกว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าของเกาะถึง 6 เท่า โดยส่งไฟฟ้าส่วนเกินกลับไปยังแผ่นดินใหญ่
การเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานนี้เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมในท้องถิ่น โดยเฉพาะการเลี้ยงปลากะพงเหลืองซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำเกาะนี้ ปัจจุบันมีการเพาะเลี้ยงด้วยระบบพลังงานไฟฟ้า แทนที่การใช้น้ำมันดีเซล ช่วยลดต้นทุนและการปล่อยมลพิษได้ในคราวเดียวกัน
เกาะต้าเฉิน เครดิตภาพ: State Grid
การเปลี่ยนแปลงที่ประสบความสำเร็จนี้ทำให้เกาะต้าเฉินเป็นต้นแบบสำหรับเกาะอื่น ๆ ในประเทศจีนที่กำลังพิจารณาโครงการริเริ่มด้านสิ่งแวดล้อมที่คล้ายคลึงกัน ในฐานะมาตรฐานสำหรับการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน ต้าเฉินแสดงให้เห็นว่าการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนอย่างสมบูรณ์นั้นสามารถทำได้ในพื้นที่ห่างไกล
ความสำเร็จนี้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศของจีน ที่ตั้งใจจะบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2060 ทำให้โครงการต่าง ๆ เช่น เกาะคาร์บอนเป็นศูนย์ของจีน กลายเป็นพื้นที่ทดสอบที่สำคัญสำหรับโครงการริเริ่มระดับชาติในอนาคต
การเปลี่ยนผ่านของเกาะต้าเฉินแสดงให้เห็นว่าพลังงานหมุนเวียนสามารถสนับสนุนการท่องเที่ยวควบคู่ไปกับการปกป้องสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติพร้อมกันได้ โดยนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนได้ด้วยตนเองระหว่างการมาเยือนเกาะคาร์บอนเป็นศูนย์ของจีน อีกทั้งโปรแกรมรางวัลยังช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมที่ยั่งยืนให้กลายเป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน แทนที่จะมองว่าเป็นภาระผูกพันที่จำเป็นต้องทำ
ในขณะที่จีนยังคงพัฒนาภาคพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง ต้าเฉินถือเป็นตัวอย่างความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม ความสำเร็จในฐานะเกาะคาร์บอนเป็นศูนย์ของจีนช่วยสร้างความเชื่อมั่นในการนำไปปฏิบัติในวงกว้างทั่วประเทศ
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
