เรื่องราวทั้งหมดอาจต้องย้อนกลับไปมองที่จุดเริ่มต้นของแต่ละบริษัท ที่ดูเหมือนจะแก้ปัญหาคนละเรื่อง แต่กลับมีดีเอ็นเอเดียวกันซ่อนอยู่ นั่นคือการแก้ปัญหาที่เป็นไปไม่ได้ ด้วยวิธีคิดแบบ First Principles Thinking หรือการมองปัญหาจากแก่นฟิสิกส์พื้นฐานที่สุด
Tesla ไม่ได้เริ่มต้นจากการคิดจะสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่ดีกว่า แต่เริ่มจากการตั้งคำถามว่า ทำไมเราจะสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าตื่นเต้นและมีประสิทธิภาพกว่ารถยนต์สันดาปไม่ได้?
คำตอบก็ซ่อนอยู่ในรถยนต์ Tesla ทุกคันที่วิ่งอยู่บนท้องถนนทั่วโลกนั่นเอง
หลายคนอาจเข้าใจว่าระบบ Full Self-Driving (FSD) ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อการขับขี่อัตโนมัติเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง มันคือโครงการวิจัยและพัฒนา AI ในโลกแห่งความเป็นจริงที่ใหญ่ที่สุดในโลก
รถยนต์ Tesla หลายล้านคันเปรียบเสมือน “หุ่นยนต์เก็บข้อมูล” ที่ติดตั้งกล้องและเซ็นเซอร์เพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจโลกที่วุ่นวายและคาดเดาไม่ได้ ข้อมูลการขับขี่หลายพันล้านไมล์ ถูกส่งกลับไปฝึกฝน AI บนซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ Tesla
AI ที่เรียนรู้จากการหลบหลีกคนเดินเท้า, การอ่านสัญญาณไฟจราจร, หรือการตัดสินใจในเสี้ยววินาทีบนสี่แยกที่คับคั่ง คือสมองที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับหุ่นยนต์ที่จะต้องออกมาใช้ชีวิตและทำงานร่วมกับมนุษย์
เมื่อนำร่างกายอย่าง Optimus ที่สร้างจากความเชี่ยวชาญด้านการผลิตของ Tesla มารวมกับสมอง AI ที่เกิดจากการเรียนรู้ในโลกจริงของ FSD เราก็จะได้ภาพของสิ่งมีชีวิตจักรกลที่สมบูรณ์แบบขึ้นมา