Success Team : BM Team

“ความสำเร็จของทีม” ไม่ได้เกิดขึ้นจากปัจเจกบุคคลคนใดคนหนึ่ง แต่มาจากการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพของทุกคนในทีม ซึ่งจากงานวิจัยและบทความวิชาการหลายฉบับ พบว่ามีปัจจัยสำคัญหลายอย่าง ที่ส่งผลต่อความสำเร็จของทีมงาน 🌟💫
TEAM
BM TEAM
1. เป้าหมายและทิศทางที่ชัดเจน (Shared Goals and Direction) ทีมที่ประสบความสำเร็จต้องมีเป้าหมายร่วมกันที่ชัดเจน สมาชิกทุกคนในทีมต้องเข้าใจตรงกันว่ากำลังมุ่งหน้าไปทางไหน และบทบาทของแต่ละคนคืออะไรในการเดินทางครั้งนี้ การมีเป้าหมายที่วัดผลได้และมีกรอบเวลาที่แน่นอน จะช่วยให้ทีม
สามารถวางแผนและทำงานได้อย่างมีทิศทาง และยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นให้ทุกคนทำงานไปในทิศทางเดียวกัน
2. การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ (Effective Communication) การสื่อสารคือหัวใจสำคัญของทีมที่แข็งแกร่ง งานวิจัยจาก McKinsey พบว่าทีมที่มีการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพสามารถเพิ่มผลผลิตได้ถึง 25% โดยการสื่อสารที่ดีไม่เพียงแต่เป็นการส่งสาร แต่ยังรวมถึง การรับฟังอย่างตั้งใจ การเปิดรับฟังความคิดเห็นของทุกคนในทีม การให้และรับ feedback อย่างสร้างสรรค์ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อพัฒนาการทำงาน ความโปร่งใส การแบ่งปันข้อมูลที่จำเป็นอย่างเปิดเผย เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพรวมและเข้าใจสถานการณ์อย่างถ่องแท้
3. ความไว้วางใจและจิตใจที่ปลอดภัย (Trust and Psychological Safety) ความไว้วางใจ คือรากฐานที่ทำให้ทีมเติบโต งานวิจัยจาก Harvard Business Review ระบุว่า ทีมที่มีความไว้วางใจสูงมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่า ในขณะที่ Google ก็เคยทำการศึกษาเกี่ยวกับปัจจัยที่ทำให้ทีมประสบความสำเร็จ
และพบว่า "Psychological Safety" หรือ "ความรู้สึกปลอดภัยทางจิตใจ" เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด
ความปลอดภัยทางจิตใจหมายถึง สมาชิกในทีมรู้สึกมั่นใจที่จะแสดงความคิดเห็น ตั้งคำถามหรือเสนอแนวคิดใหม่ๆ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกตัดสินหรือถูกลงโทษจากเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้า ความรู้สึกนี้ช่วยให้เกิดนวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ในทีม
4. บทบาทหน้าที่ที่ชัดเจน (Clear Roles and Responsibilities) แต่ละคนในทีมต้องรู้ว่าตัวเองมีหน้าที่อะไร และต้องรับผิดชอบส่วนไหนของงาน การกำหนดบทบาทที่ชัดเจนจะช่วยป้องกันความสับสนและทำให้การทำงานราบรื่นขึ้น นอกจากนี้ การที่แต่ละคนเข้าใจในบทบาทของผู้อื่นยังช่วยให้เกิดการทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว และช่วยส่งเสริมให้ทุกคนสามารถนำจุดแข็งของตัวเองมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทีมได้
5. การจัดการความขัดแย้งเชิงสร้างสรรค์ (Constructive Conflict Management) ความ
ขัดแย้งเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ในทุกทีม แต่ทีมที่ประสบความสำเร็จจะสามารถเปลี่ยนความขัดแย้งให้กลายเป็นโอกาสในการพัฒนาได้ ด้วยการมองว่าความเห็นต่างคือโอกาสในการหาทางออกที่ดีที่สุด ไม่ใช่การทะเลาะเบาะแว้ง การมีทักษะในการจัดการความขัดแย้งที่ดีจะช่วยให้ทีมสามารถหาข้อสรุปที่เป็นที่ยอมรับของทุกคนได้ และยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นด้วย
  • อ้างอิง
1. Dweck, C. S. (2006). Mindset: The new psychology of success. Random House.
2. Duckworth, A. (2016). Grit: The power of passion and perseverance. Scribner.
3. Goleman, D. (1995). Emotional intelligence: Why it can matter more than IQ. Bantam Books.
4. Edmondson, A. C. (1999). Psychological safety and learning behavior in work teams. Administrative Science Quarterly, 44(2), 350-383. https://doi.org/10.2307/2666999
5. Google. (2015). Project Aristotle: The five keys to a successful Google team
โฆษณา